--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คุก.. มีไว้ขังคนจน (คอนเฟิร์ม) เพราะยุติธรรมชราภาพ คนไทยมีสิทธิ์ไม่เท่าเทียมกัน !!?

เสียดสีกันมานานเป็นสิบๆปี กับคำว่า “คุก มีไว้ขังคนจน... มีไว้ขังหมา” แต่เชื่อหรือไม่ว่า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่ดีขึ้น บรรดานักวิชาการ โดยเฉพาะนักกฎหมาย หรือแม้แต่บรรดามูลนิธิช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทำได้เพียงแค่รำพึงรำพันเป็นครั้งคราว ว่าหลายๆกฎหมายในบ้านนี้เมืองนี้ “ชราภาพ”แล้ว น่าที่จะต้องมีการแก้ไข

แต่ก็ไม่เคยมีใครคิดที่จะแก้ไขอย่างจริงจังเสียที เกิดเรื่องขึ้นมาแต่ละครั้ง ก็ค่อยมานั่งสะเทือนใจสะเทือนอารมณ์ แล้วก็ช่วยเหลือเยียวยากันไปเท่าที่พอจะทำได้ แต่เมื่อเรื่องจางลงไปก็ปล่อยหายไปกับสายลม รอสะเทือนใจรอบใหม่เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น เวียนว่ายกันอยู่แบบนี้สำหรับระบบยุติธรรมของไทย
ล่าสุดกรณี นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา พนักงานประจำรถขยะกทม. ที่ตกเป็นจำเลยฐานขายแผ่นซีดี

โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 38 วรรค 1 ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษปรับ 2 แสนบาท นายสุรัตน์ยื่นอุทธรณ์ ก็ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ต้องยึดตามตัวบทกฎหมายพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือปรับ 2 แสนบาท

เสียงสะท้อนในสังคมดังระงม เพราะการเอาซีดีมือ 2 มาวางขายกันนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 กันโน่นแล้ว วิกฤตครั้งนั้นทำให้คนจำนวนมากเอาของเหลือใช้ ของเก่าเก็บ หรือของมือสอง มาเปิดท้ายขายของกันตามแหล่งชุมชน ซึ่งซีดีมือ 2 นี่ขายกันเพียบ

แถมมีกระทั่งพิสดารสุดๆ คือแทนที่จะเปิดท้ายขายของ กลับเปิดท้ายเมียขายเสียงั้น... ก็ยังมี
เพราะวิถีของการเปิดท้ายขายของ ผสมกับการที่ได้เห็นแผงแผ่นผีซีดีเถื่อนเกลื่อนเมืองไปหมด ตามแหล่งชุมชนอย่าง หน้ารามฯ อนุสาวรีย์ชัย และโดยเฉพาะที่คลองถม สะพานเหล็ก มีให้เกลื่อนไปหมด

ทั้งแผ่นก็อป แผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ หรือแม้แต่กระทั่งแผ่นโป๊ แผ่นลามก ขายกันเกลื่อน ขายกันโจ๋งครึ่ม
ถ้าตำรวจจะจับกันจริงๆ ชนิดที่ไม่กลัวว่ารายได้จากส่วยของใครบางคน หรือบางกลุ่มจะหดหาย รับรองได้ว่าคุกไม่พอขัง ศาลได้พิจารณาคดีกันเหนื่อยแย่ เผลอๆยอดค่าปรับอาจจะสูงกว่ารายได้กรมจัดเก็บภาษีบางกรมเสียอีก

กรณีนายสุรัตน์ใช่ว่าศาลจะไม่รู้สึกถึงความชราภาพของกฎหมาย เพราะผู้พิพากษาเองยังออกปากเลยว่า คดีนี้โทษปรับคือตั้งแต่ 200,000 ถึง 1,000,000 บาท นี่ก็ตัดสินโทษต่ำสุดแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

ในขณะที่กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรมเอง ก็ได้ยื่นมาช่วยประกันตัวให้เมื่อตอนศาลชั้นต้นแล้วรอบหนึ่ง

เป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า แม้แต่คนในระบบยุติธรรมเอง ก็อึดอัดกับกฎหมายบางอย่างที่มีอยู่ เพราะการที่ต้องตัดสินคนจนคนทุกข์ยาก ประเภทไม่มีนมให้ลูกกินต้องไปขโมยนมจากดิสเคาท์สโตร์มาเลี้ยงลูก ซึ่งผิดกฎหมาย แต่ศาลก็รันทดเป็น ที่เห็นแม่อยู่ในคุกส่วนลูกเล็กไม่มีใครเลี้ยงต้องเอามาวิ่งอยู่หน้าคุก

ซึ่งกรณีนายสุรัตน์ หากไม่มีใครยื่นมือมาช่วย ลำพังเงินเดือน 9,000 กว่าบาท ครอบครัว ภรรยาและลูกก็บอกแล้วว่าไม่มีปัญญาจ่ายค่าปรับแน่.. ซึ่งตามกฎหมายเมื่อไม่มีเงินจ่ายค่าปรับก็ต้องติดคุก
อาการเศร้า อาการเจ็บลึกของลูกเมียที่รู้ว่าพ่อรู้ว่าผัวต้องติดคุกนั้นสะเทือนอารมณ์คนที่พบเห็นยิ่งนัก จนทำให้กระแสคำถามว่าคุกมีไว้ขังคนจนเท่านั้นหรือ ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้งในสังคม

เพราะหากมองถึงกรณี “สาวซีวิค” ที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ไปขับรถจนเกิดอุบัติเหตุมีคนตายถึง 9 ศพ จนวันนี้คดีความก็ยังไม่ไปไหน ผู้สูญเสียยังคงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และคอมเมนท์ในโลกออนไลน์ ก็ตอกย้ำคำว่า “คุกมีไว้เฉพาะเพื่อขังคนจนเท่านั้น”เช่นกัน เนื่องจากสาวซีวิคนั้น สังคมเชื่อกันว่าที่คดีความไม่คืบ การชดใช้ชดเชยยังไม่ได้มีการสำนึกหรือกระตือรือล้นเจรจาชดใช้ ก็เพราะมีนามสกุลดัง

ประเด็นที่อ้างความเป็นเยาวชนยังไม่บรรลุนิติภาวะนี่ก็เช่นกัน กรณีคนร้าย 2 คนอายุ 15 กับ16 ปี ลวงแท๊กซี่อายุ 60 ปีไปปล้น แล้วฆ่าปาดคอ ครอบครัวลุงขับแท๊กซี่เดือดร้อนทุกข์ยากอย่างหนัก แต่เพราะกฎหมายบอกว่าเป็นเยาวชน ทำให้แม้แต่หน้าตาของคนร้าย สังคมก็ยังไม่ได้เห็น ว่าทำไมจึงเหี้ยมโหดนัก

และแม้แต่กรณีสาว ม.3 โชคร้ายสุดๆ โดนทั้งคนในครอบครัว ทั้งตำรวจ ทั้งแท็กซี่ข่มขืน เป็นคดีครึกโครมก็อายแย่อยู่แล้ว กฎหมายยังบอกว่าต้องขึ้นให้การในศาลว่าถูกข่มขืนอย่างไร รวมทั้งตำรวจก็ต้องให้ยืนเผชิญหน้าชี้ตัวคนที่กระทำการข่มขืน... อะไรกันนักหนา ทำไมไม่มีการสังคายนากฎหมายดูแลผู้เสียหายกันบ้าง

รับรู้เสียทีเถิดว่านี่คือความรู้สึกของสังคม ที่มีต่อความลักลั่นพิกลพิการของกฎหมายในวันนี้
ก็เพราะระบบยุติธรรมชราภาพอย่างนี้หรือไม่ ที่ทำให้แม้แต่เรื่องแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ สังคมยังต้องมานั่งลุ้นระทึกว่าตุลาการจะวินิจฉัยอย่างไร แล้วบ้านเมืองจะวุ่นวายจริงมั้ย จะรุนแรงแค่ไหน

สังคายนาระบบยุติธรรมไทยเสียทีได้หรือยัง???

ที่มา.บางกอกทูเดย์ออนไลน์
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น