--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สองนคราประชาธิปไตย !!?

ประเทศไทยกับพม่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดเคยรักกัน...รบกันมานานหลายร้อยปีและยังจะต้องอยู่เป็นเพื่อนบ้านกันอีกชั่วกัปชั่วกัลป์

ว่าไปแล้วเรากับพม่ามีส่วนที่เหมือนและส่วนที่ต่าง ในอดีตโบราณกาลสมัยดูไม่ออกว่าเราเจริญรุ่งเรืองกว่าพม่า หรือพม่าเจริญรุ่งเรืองกว่าเรา

แต่ที่แน่ๆ นั้น ส่วนใหญ่เราจะรบแพ้พม่า แต่ะม่ารบแพ้พวกล่าอาณานิคม จึงตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
ผิดกับของเราที่แม้จะไม่มีใครเข้ามายึดครอง แต่เราก็ต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยทางศาลและเสียดินแดนไปครึ่งประเทศ

ปัญหาของพม่าเป็นเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ คือ ปัญหาการเมืองการปกครองเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องสูญเสียเอกราช เป็นอาณานิคมของชาติอื่น

และปัญหาการเมืองการปกครองอีกนั่นแหละที่ทำให้พม่าล้าหลังประเทศเราไปหลายสิบปี
เพราะภายหลังจากที่ได้รับเอกราชแล้ว พม่าก็มีการปกครองแบบเผด็จการทหารมาเกือบ 50 ปี ผิดกับของเรา ที่แม้จะลุ่มๆดอนๆ แต่ก็ยังมีเวลาอ้าปากให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงบ้างเป็นบางเวลา

มาถึงวันนี้ เรากับพม่ากำลังมีปัญหาที่คล้ายคลึงกันอีก นั่นคือ คนไทยกับคนพม่าต่างรู้สึกรำคาญกฎหมายสูงสุดที่เรียกว่า “รัฐธรรมนูญ” ด้วยอารมย์อันเดียวกัน

โดยฝ่ายพม่านั้น เผด็จการทหารพม่าได้เขียนรัฐธรรมนูญให้อำนาจตัวเองไว้ก่อนที่จะถอนตัวออกไปอยู่หลังฉาก
เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่อาจจะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยได้เลย...น่าจะเรียกว่า “ทหารธิปไตย” จึงจะถูกต้อง
พอๆ กับของเราก็เขียนยอกย้อนซ่อนเงื่อนจนรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศเกือบจะไม่ได้เลย
พอคิดจะแก้ไขให้มันเป็นประชาธิปไตย คือ อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน...เป็นเจ้าของอำนาจประเทศอย่างแท้จริง ทั้งคนไทยและคนพะม่าต่างก็เผชิญปัญหายิ่งกว่า “จงอางหวงไข่” เสียอีก

โดยของไทยเรา คนที่คิดแก้อาจจะต้องรับโทษประหารชีวิต เพราะอาจมีความผิดฐานล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทั้งๆ ที่มีเจตนาจะแก้กฎหมายเผด็จการให้เป็นประชาธิปไตย

ส่วนของพม่าเห็นทีจะแก้ได้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ โดยรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า...การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องมีคะแนนเสียงของสภาไม่น้อยกว่าร้อยละ 75

ในขณะที่รัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ด้วยว่า...สมาชิกรัฐสภาทั้งหมดนั้น จะต้องเป็นผู้ที่กองทัพแต่งตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 25
แสบยิ่งกว่าเอาซีม่าทาแผลขี้กลากเสียอีก

โดย:ศรี อินทปันตี,บางกอกทูเดย์
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น