นายปลอดประสพ สุรัสวดี ตกเป็นเป้าโจมตีของของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะถูกฟ้องร้องเป็นรายต่อไป โทษฐานที่ประชาธิปัตย์บอกว่า “กล่าวหาว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บริหารจัดการน้ำแบบมีนัยจนกระทั่งส่งผลมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการเกิดอุทกภัยขึ้น”
เป็นที่ทราบกันว่า เมื่อปีที่แล้วเกิดวาทกรรมของสงครามน้ำขึ้นมาอย่างสะบั้นหั่นแหลก กระทั่งในปีนี้โอกาสที่จะเกิดสงครามน้ำอีกระลอกหรือไม่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่? ถ้าหากเกิดขึ้นมาก็คงจะเปิดฉากจากพรรคประชาธิปัตย์เรื่องนายปลอดประสพ สุรัสวดี นี่แหละ ส่วนจะฟ้องข้อหาอะไรอย่างไรนั้นคงต้องติดตามดูกันต่อไป แต่สำหรับนายปลอดประสพเองเคยให้สัมภาษณ์กันเมื่อไม่นานมานี้ว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ฟ้องร้องตัวเองอยู่เหมือนกัน ทั้งนี้ เพื่อจะได้พิสูจน์และตีแผ่ความจริงออกมาว่าอะไรเป็นอะไร? พร้อมกันนั้นนายปลอดประสพได้อ้างแหล่งข่าวจากต่างประเทศระบุว่า
องค์การนาซ่าได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความล้มเหลวในการจัดการน้ำของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และตรงนี้มีโอกาสเป็นสาเหตุทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ขัดขวางโครงการของนาซ่าในการสำรวจเมฆชั้นสูงเพื่อประโยชน์ในการพยากรณ์อากาศ!
ข้อมูลจากนายปลอดประสพนี้นับว่าน่าสนใจมาก เพราะองค์การระดับนาซ่าคงไม่ซี้ซั้วพูดอะไรออกมาง่ายๆ นั่นแสดงว่าเขามีข้อมูลชั้นเมฆอยู่พอสมควร พอจะรู้เรื่องสภาพภูมิอากาศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น จึงมีความแน่ใจในระดับหนึ่งที่จะฟันธงในเรื่องความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลประชาธิปัตย์ในช่วงก่อนการขึ้นสู่อำนาจของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถ้าเราเชื่อมือและให้เครดิตต่อนาซ่าพอสมควร ก็มีเหตุผลที่พอจะระบุได้ว่าในปี 2554 ปัญหามหาอุทกภัยในประเทศไทยมีโอกาสสูงที่จะเกิดจากการผลักดันของภาคการเมืองเพื่อทำลายล้างกัน ดังจะเห็นจากข้อมูลการปล่อยน้ำจากเขื่อนจนท่วมพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร
เรื่องนี้ถ้าหากประชาธิปัตย์จะฟ้องร้องนายปลอดประสพ และมีการพิสูจน์กันในชั้นศาลก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่คำพูดของนายปลอดประสพตอนหนึ่งมีความน่าสนใจมาก เขาให้ข้อสังเกตว่า พรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางนาซ่าทุกวิถีทางในการใช้ฐานบินอู่ตะเภาสำหรับสำรวจอากาศในช่วงที่ผ่านมา เพราะถ้าข้อมูลชุดใหม่นี้มีเพิ่มเติมก็เป็นไปได้สูงที่นาซ่าจะสามารถฟันธงได้แน่นหนาขึ้นย้อนหลังไปถึงความผิดพลาดเมื่อคราวประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เพราะถ้าผลออกมาแน่นหนาว่าอุทกภัยในปี 2554 นั้นมีงานการเมืองแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง
ผลสำรวจของนาซ่าถ้ามีขึ้นมาในปี 2555 จะเท่ากับเป็นการเปิดหน้ากากของวิธีเล่นการเมืองโดยใช้น้ำมาก่อสงครามเพื่อแย่งชิงอำนาจ! เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรน่าจะพิสูจน์ให้เห็นจริง ก็อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ฟ้องร้องให้รู้เรื่องกันไปเสียที แม้กระทั่งการรู้ว่าอุทกภัยเมื่อปีที่แล้วไม่ได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติอย่างเดียว หากแต่มีเกมการเมืองและอำนาจผสมอยู่ด้วย บางทีเรื่องของสงครามน้ำที่เกี่ยวข้องกับการแย่งชิงอำนาจรัฐระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน คือพรรคประชาธิปัตย์ คงจะดำเนินต่อเนื่องในหน้าฝนปี 2555 นี้ก็เป็นไปได้ เพราะอย่างน้อยข้อมูลจากนาซ่ายืนยันได้ว่าการใช้น้ำมาเล่นการเมืองในปี 2554 มีจริง ส่วนจะมีมากน้อยแค่ไหนคงไปว่ากันในชั้นศาลระหว่างนายปลอดประสพ สุรัสวดี กับพรรคประชาธิปัตย์ บางทีเบื้องหน้าเบื้องหลังอุทกภัยในปีที่แล้วสามารถที่จะเชื่อมโยงมาถึงเรื่องของนาซ่า ตลอดจนสงครามน้ำที่จะเกิดขึ้นในปี 2555 ได้
ด้านนายปลอดประสพเองถ้าไม่แน่ใจก็คงไม่ยืดอกท้าประชาธิปัตย์ให้ฟ้องร้องให้รู้เหนือรู้ใต้กันไปเลย อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์จะแน่ใจตัวเองหรือไม่? ซึ่งหมายถึงมีความบริสุทธิ์ใจในการบริหารจัดการน้ำในสมัยนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯหรือเปล่า!? และนี่ก็คือสงครามน้ำในยกแรกที่เปิดฉากขึ้นมาแล้ว เชื่อว่ายังมียกที่ 2 และ 3 ติดตามมาอีกหลายขบวน เพราะปัญหาอุทกภัยคือหนึ่งในวาทกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาเสนอควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาของแพง โดยระบุว่า ให้รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจและอุทกภัยดีกว่าไปแก้รัฐธรรมนูญ จึงมีความเป็นไปได้ว่าปัญหาอุทกภัยในปีนี้มีโอกาสถูกลากมาเกี่ยวข้องกับการยุติแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งยับยั้ง พ.ร.บ.ปรองดองไม่ให้คลอดออกมา
การใช้น้ำมาเล่นการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นตัวอย่างแรกของโลกนี้ที่น่าศึกษา และเข้าใจว่านาซ่าคงศึกษาไม่ถึงเกมนี้เหมือนกัน แต่บอกได้ว่าสงครามได้ข้ามทวีปไปแล้ว ไม่ได้จำกัดเฉพาะเมืองไทยเท่านั้น นี่จึงเป็นวีรกรรมอีกอย่างของพรรคประชาธิปัตย์ที่ควรจดจำให้มาก จดจำว่าพรรคนี้เขาเล่นการเมืองกันอย่างไร?
ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น