จรัญ . ถอนตัวจากการเป็นองค์คณะตัดสินคดีแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพราะมีส่วนได้ส่วนเสีย ชี้แจงที่เคยพูดให้รับไปก่อนแล้วแก้ไขภายหลัง เพราะต้องการให้พ้นจากระบอบรัฐประหาร ย้ำการแก้ไขทำได้แต่ต้องทำรายมาตราไม่ใช่ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ “เรืองไกร” เผยศาลรับคำร้องเอาผิดผู้มีส่วนร่วมแปรญัตติไว้พิจารณาแล้ว หากผิดต้องยุบหมดทุกพรรค “ยิ่งลักษณ์” ระบุรัฐบาลใช้ข้อเท็จจริงต่อสู้ ไม่รู้สึกกังวลใจและเสียสมาธิทำงาน “วรวัจน์” ชี้จะเอาเรื่องที่ยังไม่เกิดมาตัดสินเป็นความผิดไม่ได้ “สมศักดิ์” เครียดเก็บตัวเงียบหลังคลิปเสียงหลุด
+++++++++++++++++++
ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มไต่สวนพยานแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่แล้วในวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยตั้งประเด็นการพิจารณาเอาไว้ 4 ประเด็น ประกอบด้วย อำนาจการฟ้องร้องตามมาตรา 98 การแก้มาตรา 291 เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ และหากผิดจะเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองหรือไม่
“วัฒนา” นำทีมซักค้าน
พยานฝ่ายผู้ร้องที่ขึ้นให้การในชั้นไต่สวน 7 คน ประกอบด้วย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายวันธงชัย ชำนาญกิจ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ นายวรินทร์ เทียมจรัส นายบวร ยสินธร นายสุรพล นิติไกรพจน์ และนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ โดยมีผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก รวมทั้งมีการชุมนุมของประชาชนที่สนับสนุนด้านหน้าศาลด้วย ในขณะที่มีตัวแทนฝ่ายผู้ถูกร้องมาร่วมฟังการไต่สวนและซักค้าน เช่น นายวัฒนา เซ่งไพเราะ นายพีรพันธุ์ พาลุสุข นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายพิชิต ชื่นบาน และนายวีรภัทร ศรีโชค
การเบิกความของพยานฝ่ายผู้ร้องต่างให้การไปในทิศทางเดียวกันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ถือเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญและเป็นการยึดอำนาจอีกรูปแบบหนึ่ง
“จรัญ” ถอนตัวไม่ร่วมตัดสิน
ทั้งนี้ หลังพักการไต่สวนพยานในช่วงเช้า เมื่อเริ่มพิจารณาในช่วงบ่าย นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งให้ฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องทราบว่า นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการเป็นองค์คณะตุลาการทั้ง 5 สำนวน เนื่องจากถูกร้องว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ที่ประชุมตุลาการมีมติอนุญาตตามขอเพื่อความเป็นกลาง (การถอนตัวของนายจรัญทำให้องค์คณะพิจารณาเหลือ 8 คน จาก 9 คน)
ยันต้องแก้รายมาตรา
ก่อนหน้านี้นายชูศักดิ์ได้ถามนายจรัญเกี่ยวกับบทสัมภาษณ์ในอดีต เรื่องที่ขอให้รับรัฐธรรมนูญปี 2550 ไปก่อนแล้วค่อยแก้ไขในภายหลัง โดยแก้มาตราเดียวเพื่อตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งนายจรัญได้ชี้แจงในห้องพิจารณาคดีว่า “ผมพูดตอนนั้นว่าถ้าไม่ได้รัฐธรรมนูญ 2550 เราจะไม่พ้นจากระบอบปฏิวัติรัฐประหาร ดังนั้น น่าจะต้องรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ไปก่อน แล้วถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมไม่ควรก็แก้ไขเพิ่มเติมได้ แต่ไม่ได้บอกว่าแก้มาตราเดียวแบบยกเลิกทั้งฉบับ ซึ่งคนละประเด็นกับคดีนี้ ดังนั้น แก้ไขมาตรานั้นมาตรานี้หรือ 100 มาตราก็ไม่มีปัญหา เพราะสังคมจะได้ตรวจสอบแสดงความคิดเห็นในการแก้ไขแต่ละประเด็นแต่ละมาตราได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ”
“ปู” ไม่เสียสมาธิทำงาน
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แม้จะมีปัญหาทางการเมืองรุมเร้ารัฐบาลหลายเรื่องในตอนนี้แต่ไม่ทำให้เสียสมาธิในการทำงาน ตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งก็ต้องทำงานให้ประชาชนต่อไป ส่วนการชี้แจงเรื่องต่างๆเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งมีผู้ทำหน้าที่อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์นำคลิปเสียงของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาเผยแพร่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องให้นายสมศักดิ์ชี้แจงเอง ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่าการทำงานต่างๆเป็นไปตามขั้นตอนตามกรอบกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับว่าใครสั่งให้ทำหรือไม่ทำอะไร
“สมศักดิ์” เครียดคลิปเสียง
ที่รัฐสภา นายพินิจ จันทรสมบูรณ์ เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า นายสมศักดิ์เกิดความเครียดหลังจากมีคลิปเสียงหลุดออกมา แต่ขณะนี้ยังไม่อยากพูดอะไร
“ความจริงการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรเป็นเรื่องของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล คนเป็นประธานไม่ได้มีอำนาจสั่งให้ใครทำหรือไม่ทำอะไร มีหน้าที่แค่ควบคุมการประชุมในสภาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเท่านั้น”
เชื่อศาลใช้เวลาไม่นานตัดสิน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นตัวแทนรัฐบาลไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เท่าที่ฟังข้อกล่าวหาของฝ่ายผู้ร้องเป็นเรื่องการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่เกิด เป็นแค่ความกังวล คงไม่สามารถเอาเรื่องในอนาคตที่ยังไม่เกิดมาลงโทษคนในปัจจุบันได้
“ผมเชื่อว่าหลังการไต่สวนแล้วศาลคงใช้เวลาพิจารณาไม่นานก็จะมีคำตัดสินออกมา เพราะข้อเท็จจริงต่างๆเป็นเรื่องที่ยุติแล้ว”
ปล่อยคลิปหวังผลการเมือง
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์นำคลิปเสียงนายสมศักดิ์มาเปิดเพื่อหวังผลทางการเมือง และต้องการชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังการแก้รัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ปรองดอง
“ถ้าฟังคลิปดีๆจะรู้ว่าประชาธิปัตย์พลาด เพราะในเนื้อหานายสมศักดิ์บอกว่าเป็นคนกล่อม พ.ต.ท.ทักษิณให้ชะลอร่างรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ปรองดอง แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถบงการหรือสั่งการได้อย่างที่อ้าง”
ศาลรับถอดถอน ส.ส.-ส.ว.
นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพวก ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ของสมาชิกรัฐสภา (ส.ส.-ส.ว.) 416 คน ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้พิจารณา พร้อมกับส่งหนังสือให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายังรัฐสภาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. โดยให้ชี้แจงภายใน 15 วัน
ทั้งมี มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติรับพิจารณาคำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ขอให้วินิจฉัย ส.ส. ส.ว. จำนวน 317 คน ที่ร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญและผู้แปรญัตติ ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงเนื้อหาว่าเข้าข่ายกระทำขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ด้วย
ถ้าผิดต้องยุบทุกพรรค
นายเรืองไกรกล่าวว่า คำร้องของ พล.ต.จำลองถือเป็นความผิดของผู้เสนอร่างและผู้ลงมติรับหลักการ จึงได้เพิ่ม ส.ส. และ ส.ว. ที่ร่วมแปรญัตติเข้าไปด้วย เพราะถือว่ามีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไข ถ้าผิดก็ต้องผิดด้วยกันทั้งหมด ถ้าต้องยุบพรรคก็ต้องยุบทุกพรรค นอกจากนี้กำลังพิจารณาว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เตรียมของบประมาณจัดตั้ง ส.ส.ร. ถือว่าเข้าข่ายมีความผิดด้วยหรือไม่ รวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอความเห็นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาที่รัฐสภา และนักกฎหมายที่เป็นคณะที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินที่ทำข้อเสนอเรื่องนี้ด้วย
ที่มา:หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น