--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เส้นทาง :อำนาจพิเศษ ชักใย มวลชนหลากสี’สู่สัญญาณ รัฐประหารเงียบ !!?

เมื่อแนวรบทางการเมืองสงบไปชั่วคราว ก็มีเวลาให้ “รัฐบาล” ได้พักหายใจหายคอ อย่างน้อยก็ชั่วระยะปิดสมัย ประชุมสภา 6 สัปดาห์ ก่อนจะรูดม่านกันใหม่ราวสิงหาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่า “อุณหภูมิ” การเมืองไทยจะกลับมาทะลุองศาเดือดอีกครั้ง!

ทว่า...ได้มีรายการคั่นเวลา ที่ว่ากันถึงโมเดลใหม่ “รัฐบาลแห่งชาติ” เป็นความต่อเนื่องจากปม “2 สตรีสูงศักดิ์” และ “บุรุษสักยันต์ห้าแถว” ที่กลายเป็นปริศนาเขย่าการเมืองไทยในพลันที่อดีตผู้จัดการ “เทพประทาน” ออกมาปูดข่าวว่า “ตัวละคร” ที่กล่าวมานี้ เข้ามารับหน้าที่ “ม้าใช้” ให้แก่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อส่งสารลับ สุดยอด! เปิดหมากกาวใจระหว่าง 2 พรรค การเมืองใหญ่ หวังให้ “ประชาธิปัตย์” หยุด-ละ-เลิก! เกมคัดค้านแก้รัฐธรรมนูญ “วาระ 3” และสงบศึกปรองเดือด แลกกับ การดึงเข้าร่วมรัฐบาล หรือร่วมกันเข็นโมเดล “รัฐบาลแห่งชาติ”

แต่หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง จะยิ่งดูชัดเจนว่า เป็นการจงใจปล่อยข่าว มุ่งสาด กระสุนถล่มใส่ “คนเสื้อแดง” และรัฐนาวา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ในเวลาเดียวกัน นั่นเพราะสิ่งที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ต้องการ สื่อ ย่อมมิใช่การเปิด “ตัวละคร” ในฐานะโซ่ข้อกลาง หากแต่เป็นการ “แบ่งแยก” ทัพเสื้อแดงกับ “เพื่อไทย” ให้ขาดออกจาก กัน นำมาซึ่งความเคลือบแคลงใจต่อกันอย่างที่สุด

เหนืออื่นใด ยังเป็นการบ่อนทำลาย ความสัมพันธ์ระหว่าง “แกนนำรัฐบาล” และพรรคร่วมฯ ก่อกำเนิดความขัดแย้ง-แตกคอกันเอง แต่จะบานปลายจนถึงขั้น “ย้ายขั้ว” เปลี่ยนสูตรตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น ประเด็นสำคัญคงอยู่ที่หมากกลของกลุ่มอำนาจพิเศษ! ซึ่งเคยสนับสนุนการรัฐประหาร และการเปลี่ยนแปลงแบบ “เฉพาะกิจ”

แม้ในทีแรก “คณะอำนาจ” กลุ่มนี้ยังเก็บเนื้อเก็บตัว เล่นมุกปรองดองไปตาม บท แต่เมื่อรัฐนาวากำลังรุกคืบเข้ามาใกล้ “กล่องดวงใจ” ไม่ว่าจะปมแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 และโมเดลปรองดอง รวมทั้ง การที่มวลชนซีกรัฐบาล “หันคมดาบ” เข้าใส่คณะตุลาการภิวัฒน์ นั่นยิ่งทำให้ “กลุ่มอำนาจพิเศษ” คิดเอาคืนทันควัน! และมีปฏิกิริยาผ่านเครือข่ายฯ มีการเปิดเกมโต้ตอบ ทั้งบนดิน-ใต้ดิน ซึ่งมีให้เห็นอยู่เป็นระยะจวบจนล่าสุดได้มีการปูดกระแส “รัฐประหารเงียบ” และมีการเปิด “โมเดล งูเห่า” ภาคใหม่ ในมุ้งค่ายเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล สิ่งที่น่ากลัว...! และหลายคนกำลังหวาดวิตก นั่นคือการรัฐประหารเงียบที่มา จาก “อำนาจพิเศษ” ซึ่งเป็นไปในรูปของการ “เกี้ยเซียะ” กันทางการเมือง โดยมี “คนกลาง” มาจับขั้วให้เป็น “รัฐบาลแห่งชาติ” เหมือนเมื่อครั้งการตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเมื่อปี 2551 ซึ่งแน่นอน หากดำเนิน หมากไปตาม “งูเห่าโมเดล” ของกลุ่มอำนาจพิเศษนี้ ย่อมทำให้เกิดอาการ “แข็งขืน” โดยเฉพาะกับคนเสื้อแดง ที่คงจะเปิดหน้าแลกหมัด เอากันให้ตายไปข้าง!!! เช่นที่เห็นและเป็นไป...! ข่าวการล้อมกรอบศาลรัฐธรรมนูญของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ที่ให้เหตุผลว่า...ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็น “ศาลพิเศษ” และเป็น “อำนาจมืดนอกระบบ” โดยมีการระบุไว้ในชุดเอกสารและจดหมายเปิดผนึก ซึ่งได้มีข้อสังเกตอยู่มากว่า อำนาจพิเศษนี้ส่งผลหรือ มีประโยชน์อย่างไรต่อประเทศชาติ หรือเลวร้ายอย่างที่กลุ่มคนดังกล่าวตั้งโจทย์ไว้หรือไม่?!!

ด้าน ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล กูรูด้านรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ให้จำกัดความถึง “อำนาจพิเศษ” ไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง...ว่าอำนาจเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ที่จะออกมาแสดงบทบาท เมื่อประชาชนยังขัดแย้งกันอยู่ อำนาจส่วนอื่นก็ออกมา “ละลาย” หรือก็คือกลุ่มความคิดทางการเมืองในสังคม อาทิ สถาบันผู้สูงศักดิ์ หรือ ผู้มีอิทธิพล ซึ่งในทางรัฐศาสตร์เรียกกันว่า “ชนชั้นนำแบบจารีต” ที่ยังมีคนให้ความนับถือ หรือให้ความสำคัญ และยังเชื่อว่า การเมืองในประเทศไทยต้องมีผู้ชี้นำ กระนั้นแล้ว เส้นทางของอำนาจพิเศษเหล่านี้ นอกเหนือจาก “สถาบันหลัก” คือตุลาการ-นิติบัญญัติ และกองทัพ ยังคง มีการขับเคลื่อนผ่าน “กลไกภาคประชาชน” ด้วยการทำให้หลายกลุ่มเชื่อถือ เห็นด้วยกับความคิด ซึ่งในปัจจุบันมีการ “ใช้” พลังมวลชนหลายกลุ่ม ทั้งคนเสื้อเหลือง และเสื้อหลากสี ตลอดจนเครือข่ายที่ออกมาเคลื่อนไหว อันเป็นเป้าหมายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง สิ่งที่ปรากฏให้เห็น คือการต่อต้าน ไม่ยอมรับอำนาจของรัฐ ซึ่ง เท่ากับเป็นการ “ปฏิวัติเงียบ” เป็นอารยะขัดขืน และในที่สุดรัฐบาลก็ปกครองไม่ได้ บริหารไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น รัฐบาล ก็ไม่จัดการดูแล มีการแตกกลุ่มขยายความ คิดออกไปมากมาย และเท่าที่เห็นในขณะนี้ คือกลุ่มที่ไม่เอาทักษิณ เป็นกลุ่มที่ต้องการ ขายไอเดีย สร้างเครือข่ายใหม่เพื่อใช้โค่น ล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และต่อต้านกลุ่ม เสื้อแดง “นปช.” และนั่นคือ มุมแห่งวิพากษ์ของกูรูรัฐศาสตร์ มสธ.ท่ามกลางกระแสข่าว “พลิกขั้ว-รัฐประหารเงียบ” ด้วยผลข้างเคียงในการผลักดันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อันเป็นการ “ขยำกล่องดวงใจ” ของฝ่ายอำนาจนอกระบบ ตลอดจนการเดินหน้า “โมเดลปรองดอง” ซึ่งได้สร้างความขัดแย้งรอบใหม่ให้แก่สังคมไทย

มีความเป็นไปได้ว่า “รัฐบาล” อาจจะใช้ “ยาแรง” เพื่อระงับอาการเจ็บไข้ของสังคมไทย ทว่าหากไม่สามารถควบคุม ผลข้างเคียงได้แล้ว ก็ถือว่าสุ่มเสี่ยงเกินไป หากเลือกใช้ยาแรงขนานนี้ ยิ่งในยุคที่ “มวลชนกลุ่มใหญ่” และคณะอำมาตย์ ยังฝักใฝ่...เรียกร้อง “อำนาจพิเศษ” และยังมุ่งจะ “ผูกขาด” การกำหนด สถานการณ์บ้านเมืองอยู่เช่นนี้แล้ว แน่นอน ว่า “ความเสี่ยง” ที่จะถูกต่อต้านทั้งในและนอกระบบ ดูจะยิ่งบานปลายจนกลายเป็น สงครามการเมืองรอบใหม่...ในไม่ช้าไม่นาน?!!

ทั้งหมดทั้งปวง...ย่อมไม่มีทางลัดใด! ที่จะนำพาชาติบ้านเมืองให้เติบใหญ่-ก้าวไกลไปข้างหน้า นอกเสียจากการก้าว เดินอย่างมั่นคงตามกรอบกติกาประชาธิปไตย ทว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ “ยอมรับ” ในการตัดสินใจของประชาชนทั้งประเทศ

ที่มา:สยามธุรกิจออนไลน์
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น