ดูจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว...ว่ากันตามภาษาชาวบ้านก็ต้องว่า...ปัสสาวะไม่เสด็จน้ำ และดูเหมือนว่าจะนำไปสู่ความบาดหมางที่แก้ได้ยากกว่า..ในอีกไม่นานข้างหน้า
เพราะ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นคุณกับตนเองว่า..มีอำนาจเทียบเท่าหรือมากกว่า อัยการสูงสุด..ทั้งๆ ที่ทุกตัวอักษรในรัฐธรรมนูญจอมยุ่ง..ก็บัญญัติไว้แจ่มชัดว่า..พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก
แต่หากมองผ่านกระจกที่วางกลับด้านแล้วละก้อ...คนที่นอนหันหัวไปทางทิศตะวันออกก็สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางจากปลายตีนเตียงได้เช่นกัน..เพียงแต่ท่านจะทึกทักเอาเองว่ามันเป็นเรื่องจริง..
เพราะหากท่านมีอำนาจเช่นว่า ท่านก็ต้องมีหน้าที่ เมื่อท่านมีหน้าที่ ท่านก็ต้องมีบุคลาการ เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงานและติดตามเรื่องราว ต้องมีแผนกขึ้นมาสนับสนุนในการไปสืบเจาะหาข้อเท็จจริงมาประกอบ
และสำคัญที่สุด..ท่านต้องมีงบประมาณเพื่อการนี้
ประเทศจะไม่มีวันให้ท่านควักเงินเดือนมาใช้จ่าย..แต่เพราะท่านไม่มีอำนาจและหน้าที่..ประเทศจึงให้คำร้องทั้งหลายต้องไปผ่านอัยการสูงสุด..ซึ่งมีบุคลากรและงบประมาณพร้อมเบิกจ่าย..
อีกประการหนึ่ง..ไม่มีระบอบประชาธิปไตยที่ไหนในโลก..จะให้อำนาจเผด็จการกับองค์คณะใดองค์คณะหนึ่งโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด..ดั่งเช่นที่ท่านทึกทักว่าท่านมี..
แม้แต่ขึ้นเงินเดือนให้กับตนเองและคนในบังคับบัญชายังต้องเสนอผ่าน..ประสาอะไรกับอำนาจชี้ชะตากรรมประเทศและการคงอยู่หรือไปของสถาบันทั้งหลาย ภายใต้การตีความที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดและผูกพันส่วนราชการสำคัญทั้งสิ้น
คงไม่มีใครยอมรับอำนาจเผด็จการใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย..ตามที่พวกท่านวินิจฉัยยืนยัน
ดังนั้น..เรื่องอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญคือญัตติสงครามเรื่องใหม่...ที่จะจบยาก จบลำบากเกินกว่าจะบรรยายหรือพยากรณ์..
ประชาชนทั้งหลาย...คงทำใจไม่ได้กับอำนาจที่ไม่ใช่ครอบงำรัฐสภา..แต่เป็นอำนาจที่ครอบครองรัฐสภา..ไม่ต่างอะไรกับสารถีที่ชักบังเหียนรถม้า..โดยมีผู้แทนทั้งรัฐสภาเป็นม้า 650 เชือกให้ท่านสนตะพาย
ประชาชนกับรัฐสภาเห็นตรงกัน..มีแต่อาวุธเท่านั้นถึงจะเชิดชูท่านไว้ได้
โดย.พญาไม้ทูเดย์,บางกอกทูเดย์
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น