--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

3กลุ่ม ลงขัน 6พันล้าน วางหมาก2ชั้นล้ม รบ.ยิ่งลักษณ์.

ส.ส.เพื่อไทยอ้างมีข่าว 2 กลุ่มการเมืองกับ 1 กลุ่มธุรกิจน้ำเมา จับมือลงขัน 6,000 ล้านบาท เพื่อล้มรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” โดยวางหมากไว้ 2 ชั้นคือ ใช้อำนาจศาลยุบพรรค กับสร้างเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายเพื่อให้ทหารเข้ามารักษาความสงบ ให้จับตาวันที่ 13 ก.ค. ผู้สนับสนุนให้เอาผิดแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมารวมตัวกันมากเป็นพิเศษ ด้านผู้ร้องและถูกร้องตามมาตรา 68 ยื่นคำแถลงปิดคดีแล้ว กลุ่ม 416 ส.ส.-ส.ว. ที่ถูกยื่นถอดถอนนอกรอบขอขยายเวลาชี้แจงอีก 30 วัน “จำลอง” ยื่นศาลเลื่อนอ่านคำตัดสินคดีล้มล้างการปกครองออกไปก่อน เพราะคำร้องไม่ได้ระบุคนทำผิด ให้รอตัดสินพร้อมคดีถอดถอน ส.ส.-ส.ว. ด้านหน่วยข่าวยังไม่พบการเคลื่อนไหวก่อเหตุรุนแรง

การเคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อผู้ร้องและผู้ถูกร้องกรณีให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ต่างไปยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลอย่างพร้อมเพรียง

พรรคเพื่อไทยยื่นแถลงปิดคดีมีเนื้อหาสาระยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับเรื่องพิจารณาโดยตรง หากชี้ว่าไม่สามารถมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญได้ เป็นการตัดโอกาสการมีส่วนร่วมของประชาชน กฎหมายไม่ได้ห้ามตั้ง ส.ส.ร.

พรรคประชาธิปัตย์ยื่นคำแถลงสรุปคดีได้ว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นเรื่องโดยตรงต่อศาล การแก้มาตรา 291 เป็นการเปิดทางให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การแก้ไขเป็นการใช้สิทธิเพื่อล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และความผิดนี้นำไปสู่การยุบพรรคการเมืองได้

“จำลอง” จี้เลื่อนตัดสินคดี

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ไปยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการตัดสินคดีล้มล้างการปกครองออกไปก่อน เพราะอยากให้รอการไต่สวนถอดถอน ส.ส. และ ส.ว. 416 คน ที่ร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะ 5 คำร้องเรื่องล้มล้างการปกครองไม่ได้ระบุความผิดรายบุคคล ต่างจากคำร้องของพันธมิตรฯ

“อยากให้ศาลชะลอการตัดสินคดีล้มล้างการปกครองออกไปก่อน ไต่สวนเรื่องถอดถอนให้จบแล้วตัดสินพร้อมกัน แต่หากศาลไม่ชะลอก็จะไม่เคลื่อนไหวกดดัน”

“เหวง” คิดเอาคืน “จำลอง”

นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ส.ส. และ ส.ว. 416 คน ที่ถูกยื่นถอดถอนเนื่องจากสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ยื่นเรื่องคือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 หรือไม่

ด้านการประชุมนอกรอบของกลุ่ม ส.ส. และ ส.ว. ที่ถูกยื่นถอดถอนที่รัฐสภา ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าให้ขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงกับศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีก 30 วัน เนื่องจากมี ส.ส. และ ส.ว. หลายคนติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ ทำคำชี้แจงไม่ทัน ส่วนประเด็นเอาผิดกับ พล.ต.จำลอง ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป

“มาร์ค” ให้ “ปู” ปรามเสื้อแดง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตำหนิแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนที่ออกมาข่มขู่ว่าจะเกิดความรุนแรงหากศาลตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นความผิด แต่เชื่อว่าตุลาการจะไม่หวั่นไหว หากคุกคามศาลได้แสดงว่าไม่เหลือกติกาแล้ว นายกรัฐมนตรีต้องดูแลให้ทุกฝ่ายเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และควรปรามผู้สนับสนุนให้หยุดปลุกระดมด้วย เพราะจะกลายเป็นว่ารัฐบาลสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาเอง

การข่าวไม่พบความรุนแรง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมหน่วยงานด้านการข่าวว่า ที่ประชุมประเมินสถานการณ์ว่าหากผลการตัดสินของศาลออกมาเป็นลบจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อเตรียมมาตรการรองรับ ขณะนี้มีการเตรียมกำลังไว้แล้วแต่ไม่ต้องใช้กฎหมายพิเศษ เพราะยังไม่มีรายงานสร้างความรุนแรง แต่จะไม่ประมาท

สภาทนายขู่เอาผิดกดดันศาล

นายเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายนโยบายและแผนงาน สภาทนายความ แถลงว่า ผู้ที่ออกมาข่มขู่กดดันการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัดสินไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด อาจเป็นการกระทำความผิดฐานข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยอำนาจหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และอาจเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139 และมาตรา 198 จึงขอเตือนให้ยุติการกระทำดังกล่าว

“อุกฤษ” ชี้ต้องตัดสินให้สงบ

นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ระบุว่า คำตัดสินออกไปเป็น 3 แนวทางคือ 1.ศาลพิจารณาโดยปราศจากทิฐิและรอบคอบแล้ว อาจเห็นว่าคำร้องไม่เข้าข่ายมาตรา 68 หรือแม้จะเข้าข่ายก็ให้ยื่นผ่านอัยการสูงสุดก่อน 2.ให้ดำเนินการได้แต่ต้องแก้ไขเป็นรายมาตรา ไม่แก้ทั้งฉบับ ถ้าวินิจฉัยแนวทางนี้ถือเป็นทางสายกลางที่ดีที่สุด จะทำให้บ้านเมืองสงบไปได้ระยะหนึ่ง และ 3.เป็นแนวทางสุดโต่ง คือเป็นการกระทำมิชอบที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

“คนมีหน้าที่ตัดสินต้องยุติธรรม ถ้าไม่ยุติธรรมความสงบไม่เกิด การใช้กฎหมายต้องมุ่งให้เกิดความสงบเรียบร้อย วันที่ 13 ก.ค. จะเป็นประวัติศาสตร์ว่าท่านเรียนกฎหมายมาจากสำนักไหน เคยทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังมีคำตัดสินจะไม่เกิดเหตุการณ์นองเลือดอย่างที่กังวลกัน”

ปูด 3 ลงขันล้มรัฐบาล “ปู”

นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน ออกมาระบุว่า ขณะนี้มีขบวนการล้มล้างรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดขึ้น โดยมีการลงขันกันหลายกลุ่มหาทุนได้มากถึง 6,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการในส่วนต่างๆ

“ที่ตรวจสอบตอนนี้มี 3 กลุ่มที่ร่วมลงขันกันคือ กลุ่มนักการเมืองปักษ์ใต้ชื่อขึ้นหน้าด้วย ส. นักการเมืองใหญ่ภาคอีสานชื่อขึ้นต้น น. และกลุ่มนักธุรกิจน้ำเมา เท่าที่ทราบตอนนี้มีการเคลื่อนไหวที่เชื่อมโยงกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญคดีล้มล้างการปกครองที่จะออกมาในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ที่จะมีการระดมคนมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมที่จะปะทะด้วยความรุนแรงกับผู้ที่มาคัดค้านศาล โดยจ้างมาหัวละ 1,000 บาท เมื่อเปิดความวุ่นวายก็เข้าล็อกให้ทหารออกมายึดอำนาจ”

นายวรชัยกล่าวอีกว่า แผนการล้มรัฐบาลมี 2 เด้งคือ 1.ใช้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค และ 2.ถ้าทำไม่สำเร็จก็จะใช้กำลังทหารเข้ามาปฏิวัติโดยการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง จึงอยากฝากถึงแนวร่วมเสื้อแดงทั้งหลายว่าอย่าไปหลงกลเดินเข้าแผนเขา ขอให้เตรียมความพร้อมในที่ตั้ง รอฟังสัญญาณจากแกนนำที่จะประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งหลังทราบคำตัดสินแล้ว

ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น