ค่ายผลิตอาหารบูมกระแส ‘Green Curry Fever’ หลังพบชาวญี่ปุ่นคลั่งแกงไทยอย่างหนัก หลากแบรนด์ผุดแย่งเวทีปรุงสำเร็จ แบรนด์ ‘รอยไทย’ ประสบความสำเร็จล้นหลาม มุ่งขยายตลาดทั่วอาเซียน ด้านตลาดในประเทศคึกคัก ชี้เขียวหวานขึ้นแท่นเมนูปรุงยาก ออกผงปรุงสำเร็จเอาใจแม่บ้าน ขณะที่ “มาม่า” ร่วมดึงกระแสเขียวหวานบูมตลาด
ในสมัยก่อนนั้น แกงไทยๆ จะเป็นแกงเลียง ซะส่วนใหญ่ และเป็นแกงป่าตามมา ต่อมามีแกงใส่กะทิเข้ามา โดยช่วงแรกแกงไทยจะใช้พริก แดงเป็นส่วนใหญ่ และพัฒนามาเป็นการใช้พริกสีเขียวแทนและใส่ใบพริกสดลงไปตำด้วยในน้ำพริกแกงนั้นๆ เพื่อให้มีสีเขียวที่เด่นชัดขึ้น เกิดเป็น “แกงเขียวหวาน” คำว่าแกงเขียวหวาน ไม่ได้หมายความถึง แกงที่มีรสหวาน แต่หมายถึงสีเขียวนวลหรือเขียวหวาน ไม่ใช่เขียวจัดจ้านนั่นเอง
ปัจจุบันแกงเขียวหวาน กลายเป็น 1 เมนูคู่ครัว และเป็นเมนูหลักที่คนไทยคุ้นชิน โดยเฉพาะในร้านข้าวแกง ซึ่งมักจะมีแกงเขียวหวานอยู่ในเมนูประจำวัน เราอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของอาหารไทย อันเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก ทั้ง “ผัดไทย” หรือ “ต้มยำกุ้ง” แต่ “แกงเขียวหวาน” ก็เป็นหนึ่งในแกงไทยที่ได้รับความนิยม โดยเริ่มจากกลุ่มร้านอาหารไทยในต่างประเทศ จวบจนปัจจุบันเมนูแกงเขียวหวาน กำลังเข้าสู่ครัวของชาวต่างชาติมากขึ้น ด้วยการบุกตลาดของผู้ผลิตเครื่องแกงคนไทยนั่นเอง
> แม่บ้านญี่ปุ่นคลั่งแกงเขียวหวาน
และปรากฏการณ์ของแกงเขียวหวานในต่างประเทศ ก็เริ่มเด่นชัดขึ้นในปีนี้ โดยเมื่อต้นปี สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฟูกูโอกะ รายงานว่า หนังสือพิมพ์ Nikkei MJ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ด้านการตลาดยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น รายงานว่า กระแสความนิยมแกงเขียวหวานไทยของคนญี่ปุ่นกำลังมาแรงเป็นอย่างมาก
แต่เดิมแกงญี่ปุ่นที่แม่บ้านญี่ปุ่นนิยมปรุงรับประทานทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยมันฝรั่ง แครอต หอมหัวใหญ่ และเนื้อหมูหรือเนื้อวัวนั้น มาปีนี้แนวโน้มดังกล่าวได้เปลี่ยนไป แกงของประเทศ ทางแถบเอเชียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกงเขียวหวานของไทยที่สตรีชาวญี่ปุ่นนิยมปรุงรับประทานในครอบ ครัว หรือเวลาที่เชิญแขกมาบ้าน เนื่องจากเครื่องปรุงต่างๆ สามารถหาซื้อได้ง่าย และใช้เวลาปรุงเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งยังมีร้านอาหารไทย ที่ทำการเปิดสอนคอร์สปรุงเมนูแกงเขียวหวานให้กับชาวญี่ปุ่นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัท House Food Corp บริษัทจำหน่าย อาหารรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ออกผลิตภัณฑ์เครื่องแกงเขียวหวานสำเร็จรูป “Mild Green Curry” ราคาซองละ 178 เยน หรือประมาณ 73 บาท ส่วนบริษัท S&B Food Inc. ได้วางแผน ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ประเภทที่มีเครื่องปรุงครบถ้วน อุ่นและเปิดทานได้ทันที เข้าสู่ตลาดภายใต้ชื่อ “Thai Green Curry” วางตลาดไปแล้วเมื่อต้นปี
> ‘รอยไทย’ เผยปีนี้ส่งญี่ปุ่นกว่า 100 ล้าน
นายเกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ว่า จากการทำตลาด น้ำแกงพร้อมปรุงรสรอยไทย ได้รับความนิยมอย่างมากใน 30 ประเทศ โดยประเทศที่มีการเติบโตดีที่สุดคือ ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมนูแกงเขียวหวาน ซึ่งกลายเป็น “แกงเขียวหวาน ฟีเวอร์” อยู่ในขณะนี้ นอกจากจะมีเมนูแกงเขียวหวานตามร้าน อาหารแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์รสชาติแกงเขียวหวานออกมา อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกจากนั้นชาวญี่ปุ่นยังสนใจทำแกงเขียวหวานเพื่อการรับประทานเองมากขึ้น โดยอาศัยน้ำแกงพร้อมปรุง ซึ่งบริษัทได้เข้าไปทำตลาดแล้ว
สำหรับน้ำแกงพร้อมปรุงรอยไทย เปิดตัวเมื่อปี 2553 โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในธุรกิจมะพร้าวที่พัฒนาเป็นกะทิ บวกกับความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตพริกแกงแบรนด์ “แม่พลอย” ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ โดยช่วงเริ่มต้นอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในตลาดเมืองไทย จากนั้นได้เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ รวมทั้งญี่ปุ่น โดยจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นแล้ว 300 สาขา โดยเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “แกงเขียวหวาน” และจะขยายช่องทางการจำหน่ายในญี่ปุ่นไปอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทมีการส่งออกน้ำแกงพร้อมปรุงรอยไทยไปยังญี่ปุ่น 10 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน โดยปีนี้คาดว่าจะมียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท ถือเป็น 50% ของเป้าหมายที่วางไว้ว่า ในปีนี้จะมีการจำหน่ายแกงปรุงรสรอยไทย 240 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่รวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เติบโตจากปีที่ผ่านมา 30% ความสำเร็จของรอยไทยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมาจากกระแส “แกงเขียวหวาน ฟีเวอร์” จะเป็นต้นแบบที่ใช้ในการบุกตลาด ฮ่องกง และ สิงคโปร์ และประเทศในอาเซียนต่อไป โดยวิธีการทำตลาด คือการให้ความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารไทย
> บูมแม่บ้านรุ่นใหม่สอนทำแกงผ่านแอพฯ
สำหรับตลาดในประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมา “รอยไทย” จะยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากคนไทยยังไม่เชื่อมั่นในตัวสินค้า จึงต้องอาศัยการให้ประสบการณ์และความรู้ในการใช้ผลิตภัณฑ์ อีกทั้งต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมาย จากเดิมที่คิดว่า น้ำแกงพร้อมปรุงเป็นตลาดของคนรุ่นใหม่ แต่จริงๆ แล้ว น้ำแกงพร้อมปรุงรอยไทย เหมาะทั้งคนรุ่นใหม่และคนที่ทำอาหารเป็นแล้ว เนื่องจากสูตรของผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นน้ำแกงชนิดพื้นฐานของแกงชนิดนั้นๆ และสามารถปรุงรสเพิ่มได้ตามต้องการ
นอกจากนั้น บริษัทได้พัฒนา RoiThai Application บนไอแพด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าไปดูวิธีทำอาหารเมนูต่างๆ ซึ่งได้จัดทำเป็นวิดีโอให้ความรู้ขั้นตอนและเคล็ดลับในการทำอาหารจากน้ำแกงพร้อมปรุงรอยไทย โดยมีเมนูหลากหลายมากกว่า 45 รายการ แบ่งเป็น เมนูรอยไทย เกร็ดรอย ไทย และรอยไทยไอเดีย
> ตลาดเมืองไทยลุยแกงเขียวหวานสำเร็จ
สำหรับตลาดในประเทศ แม้ว่าปัจจุบันเราจะสามารถหาเมนูแกงเขียวหวานรับประทานได้โดยทั่วไป แต่ในส่วนของการปรุงอาหารเองที่บ้าน ตลาดเครื่องปรุงรส ก็หันมาจับตลาดนี้ โดยมีแกงเขียวหวานเป็น 1 ในเมนูหลักที่ค่ายปรุงรสออกมาทำตลาด อาทิ การบุกตลาดของ “คนอร์” ด้วย “คนอร์ สูตรสำเร็จ” เพื่อเป็นการขยายพอร์ต โฟลิโอในกลุ่มแบรนด์คนอร์ จากเดิมที่มี 1.ซุปก้อน 2.ซุปผง และ 3.โจ๊ก ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยระบุว่า จากการสำรวจตลาดของรีเสิร์ชอินเตอร์เนชั่นแนล พบว่า คนไทยนิยมทานข้าวในบ้านมากกว่า 90% และแม่บ้านกว่า 51% โดยในช่วงแรกคนอร์ผลิตออกมา 4 สูตร คือ แกงส้ม แกงเขียวหวาน และเมนูพะโล้ ต้มยำ เนื่องจากเป็นเมนูที่ทำค่อนข้างลำบากและต้องมีเครื่องปรุงเครื่องเคียงมาก ขณะที่เวลาของแม่บ้านสมัยนี้น้อยลง
อีกทั้งจากการสำรวจพบว่า เมนูแกงทั้ง 4 ชนิดนี้ เป็นเมนูยอด ฮิตที่คนไทยบริโภครวมกันมากกว่า 1,500 ล้านจานต่อปี และไม่นานมานี้ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ก็ได้แนะนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติ ใหม่ “มาม่า แกงเขียวหวานไก่” ตอบรับกระแสแกงเขียวหวานฟีเวอร์ในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน เป็นการยืนยันความฮอตฮิตติดตลาดของแกงเขียวหวานได้เป็นอย่างดี
ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น