--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สงครามรอบใหม่ ม็อบแดง ชนตุลาการภิวัฒน์ !!?

น่าเป็นห่วง! การเมืองไทยที่กำลังก้าวถึงจุดแตกหัก หลังเกมปรองดอง..ปรองเดือดในสภาฯ ถูกทำแท้งไปชั่วขณะ ทั้งจากปฏิบัติการ สภาเสื่อม-สภาถีบ ที่ถูกจุดขึ้น โดย “กลุ่มยังเติร์ก” ในซีกฝ่ายค้าน หรือแม้แต่การสร้าง “ชนวน” ที่อาจนำมาซึ่งความ ขัดแย้งรอบใหม่ ภายใต้ธงทิว ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ออกมาป่วนหน้าสภา ไปพร้อมๆ กับแนวร่วมจัดตั้งอย่าง “ม็อบบลูสกาย”

นั่นจึงทำให้ “รัฐนาวาเพื่อไทย” มีอัน สะดุดล้ม..หัวทิ่มหัวตำ ซึ่งแม้แต่ “ชีคดูไบ” ก็ยังต้องรีบส่งสัญญาณให้ประธานขุนค้อน “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” ยอมล่าถอย ด้วยการเลื่อนประชุมสภาออกไปอย่างไร้กำหนด แถมยังมีแนวโน้มสูงว่า จะมีการเสนอ ให้ปิดสมัยประชุมสภา เอาไปว่ากันสมัยหน้า รอเวลาดับ “ชนวนร้อน” ให้ได้เสียก่อน

แต่กระนั้น! ได้เกิดผีซ้ำด้ำพลอย เมื่อ ศาลรัฐธรรมนูญเปิดฉาก “ล้วงลูก” ฝ่ายนิติบัญญัติ โดยสั่งให้ “รัฐสภา” ชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เพื่อรอ การพิจารณาว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่..?!!

ทั้งหมดทั้งปวง ทำให้บรรยากาศการเมืองในแบบฉบับ “ตุลาการภิวัฒน์” หวนคืนมาอีกครั้ง! ท่ามกลางความเหลวแหลก ของ “กลไกรัฐสภา” ซึ่งเป็น “เสาหลัก” ในระบอบประชาธิปไตย

ขณะเดียวกัน ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อก! ขึ้นในภาคประชาชน เมื่อกลุ่มเครือข่ายประชาธิปไตย และแนวร่วมเสื้อแดง พากัน ออกมา “ล้อมกรอบ” บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อเรียกร้องและ กดดันการทำงานของ “คณะตุลาการภิวัฒน์”

การเคลื่อนไหวเที่ยวล่าสุดนี้ ยังได้มีการแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ สะท้อนการทำงานขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมแสดงละครล้อเลียน เสียดสีการทำงานของตุลาการศาลฯ และเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงานเป็นที่พึ่งของประชาชน
หลังจากนั้น “ม็อบชุดดำ” ยังได้ทำ การผูกผ้าสีดำ แปะไว้ทุกตัวอักษรของป้ายศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไว้อาลัย! การทำหน้าที่ ของตุลาการศาลฯ หลังมีคำสั่งให้ “รัฐสภา” ชะลอการดันร่างกฎหมายแก้กรรม วาระ 3 ไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย พร้อมทั้งยื่นหนังสือถึง “วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และองค์คณะตุลาการ เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนคำสั่งที่ ให้รัฐสภาระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“ชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ” ระบุว่า ในวันนี้กลุ่มเครือข่ายประชาธิปไตยได้มายื่นหนังสือต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก เห็นว่าการที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า ในมาตรา 68 บุคคลที่ทราบการกระทำที่เป็น การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ย่อมมีสิทธิ์เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำ ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การกระทำของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญเป็นการกระทำที่คาดการณ์ ล่วงหน้า รวมถึงกระบวนการรับคำร้องไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ที่ไม่ผ่านอัยการสูงสุด ดังนั้นจึงเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการสั่งชะลอการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ดังนั้นจึงมาเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทบทวนการกระทำดังกล่าวให้อยู่ในหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

“เกษียร เตชะพีระ” อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ย้ำ หัวตะปูว่า...ได้เวลาตรวจสอบการใช้อำนาจ ของศาลรัฐธรรมนูญ ป้องกันไม่ให้เนื้อหาประชาธิปไตยถูกควักล้วง จนกลายเป็นประชาธิปไตยกลวงเปล่า หรือประชาธิปไตยที่ไร้ซึ่งอำนาจของประชาชนในทางปฏิบัติ

“การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สภา ผู้แทนราษฎรระงับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ส่อว่า จงใจใช้อำนาจหน้าที่! ขัดต่อ บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการก้าวก่ายการใช้อำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตุลาการ ที่ออกคำสั่งดังกล่าวจึงมีลักษณะเข้าข่ายที่อาจถูกถอดถอนตามบทบัญญัติมาตรา 270 ได้ ฉะนั้นจึงขอเสนอให้มีการรณรงค์เพื่อร่วมกันเข้าชื่อถอดถอนตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้”

แม้จะต่างกรรมต่างวาระ แต่เวลานี้ทั้งซีกมวลชน นักวิชาการ หรือกระทั่งฝ่ายการเมือง พากันเข้าคิวจองกฐิน! ศาล รัฐธรรมนูญที่ริไป “ก้าวก่าย” การทำหน้าที่ของกลไกนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะ..ร่างปรองดองลืมอดีต หรือปมแก้รัฐธรรมนูญ ก็ล้วนเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่จะก้าว สืบไปสู่วังวนแห่งความขัดแย้ง!!!

ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น