ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อ แต่กลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังคงเดินหน้าไปตามกระบวนการในสภาฯ ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมจะมีทั้งฝ่ายที่ “เห็นด้วย” และ “คัดค้าน”
เช่นกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่นัดชุมนุมใหญ่เพื่อ “คัดค้าน” ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ รวม 4 ฉบับที่นำเข้าสู่เวทีรัฐสภา ในวันดีเดย์ 30 พฤษภาคม... เป็นที่น่าจับตาใน 8 มาตราร้อน!! ที่ผ่านการชงญัตติโดย “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน กมธ.ปรองดองฯ และคณะรวม 35 รายชื่อ ด้วยเหตุผลเพื่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับคนในชาติ โดย ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
แต่ทั้งนี้ ยังมีร่างของพรรคเพื่อไทยตามประกบอีก 3 ฉบับ กอปรไปด้วย ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ “สามารถ แก้วมีชัย” และฉบับที่เสนอโดย “นิยม วรปัญญา” และ คณะรวม 21 รายชื่อ นอกจากนั้นยังมี ร่างปรองดองฯ ฉบับ “เสื้อแดง” ผ่านการ “ผลักดัน” โดย “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” รมช. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มาเป็นแพ็กเกจคู่ เสนอร่วมกับ ส.ส.ในสัดส่วนกลุ่ม นปช.และแนวร่วมฯ
นั่นคือ “จุดเริ่มต้น” แห่งการเคลื่อน ไหวทางการเมืองเที่ยวล่าสุด ซึ่งบรรยากาศ การชุมนุมใหญ่ “กลุ่มพันธมิตรฯ” ในวัน ดังกล่าว... “มวลชนเสื้อเหลือง” ได้ทยอยกันมายัง “จุดนัดหมาย” บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ภายใต้กำกับคิวของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม. ที่พร้อมนำ “กลุ่มมวลชน” เคลื่อนขบวนไปยังอาคารรัฐสภาในเวลา 15.00 น. เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ถอนร่าง “พ.ร.บ.ปรองดอง” ทุกฉบับออกจากการพิจารณา
แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศกร้าว บนเวทีชั่วคราวว่า...การชุมนุมพันธมิตรฯ ถือเป็นการ “ต่อต้าน” กฎหมายทำลายชาติทั้ง 4 ฉบับ และยืนยันว่าจะต่อสู้จนถึงที่สุด พร้อมทั้งวางกรอบให้ผู้ชุมนุมยึดมั่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 อย่างเคร่งครัด โดย การชุมนุมอย่างสงบ และปราศจากอาวุธ
พร้อมกำชับหนักแน่น ให้ยึดแนวทาง ของเวทีหลักแห่งเดียวเท่านั้น และระวังไม่ให้ “หลงเชื่อ” ผู้ไม่ประสงค์ดีที่จะเชิญชวน ยั่วยุให้ก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์วุ่นวาย ส่วนประการสุดท้าย “พันธมิตรฯ” จะเคลื่อน มวลชนไปหน้ารัฐสภา สุดถนนอู่ทองในเท่านั้น สำหรับพื้นที่อื่นไม่ใช่พื้นที่การรับผิดชอบของ พันธมิตรฯ และหากมีการเปลี่ยนแปลงอื่นใด จะมีการประกาศบนเวทีเท่านั้น!!!
ว่ากันว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่ได้รับ “สัญญาณ” ที่น่าพอใจ! ก็มีแนวโน้มสูงยิ่งว่า..จะมีการยกระดับการชุมนุม หรือปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ ด้วยการปิดล้อมรัฐสภาแกนนำ พธม.ย้ำหัวตะปูว่า...ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์!!!
นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบรัฐสภายังถือเป็น “จุดนัดหมาย” ของกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือ “เสื้อหลากสี” ภายใต้การนำของ “น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์” ที่ร่วมเปิดเวที...ล้มร่างปรองดองทั้ง 4 ฉบับ โดยมาพร้อมกับ “ม็อบบลูสกาย” ...กลุ่มมวลชนใต้ปีกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้แห่กันมา “คัดค้าน” พ.ร.บ.ปรองดอง ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่าง เข้มข้น! โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้วางแผง รั้วเหล็ก ลวดหนาม มาปิดกั้นไว้ถึง 3 ชั้น และไม่อนุญาตให้รถทุกชนิดสัญจรผ่านไปมา
เช่นว่านี้...การชักแถว “ปิดล้อมรัฐสภา” ที่เคยเป็นแค่ “สีสัน” ทางการเมือง ทว่าด้วยสถานการณ์ที่สุกงอม ส่อเค้าจะ บานปลาย เมื่อทุกฝ่ายมุ่งเอาชนะคะคาน โดย ไม่คิดถอยกันคนละก้าว นั่นย่อมกลายเป็น “ชนวน” ที่นำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่
ยิ่งด้วย “เงื่อนไข” ในการชุมนุมของทั้งกลุ่มพันธมิตร เสื้อหลากสี หรือม็อบเฉพาะกิจ “บลูสกาย” ที่มาแบบจัดเต็ม ก็ยิ่งดูน่าหวั่นใจว่า อาจก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายในอนาคตอันใกล้นี้ ...ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือเวลานี้ “ประชาธิปัตย์” ได้เปิดไฟเขียว! ปล่อยแถวนักการเมืองให้ทิ้งเวทีสภาฯ แล้วหันมาเล่นเกมการเมืองข้างถนน ด้วยการร่วมขบวน “คัดค้าน” ร่างกฎหมายแก้กรรม ฉบับ “ลืมอดีต” หรือ พ.ร.บ. ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ ที่มีคิวพิจารณา กันในสภาฯ ก็ยิ่งทำให้เกิดแรงไหวเอนทาง การเมือง ที่อยู่ใต้ภาวะ “แขวน..บนเส้นด้าย”
โจทย์ที่ว่าด้วยการ “ปรองดอง” กำลังเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ ที่ใกล้ถึงเวลา จุดชนวนเข้าไปทุกที แน่นอนว่าศึกการเมือง รอบนี้ แม้จะเป็นเพียงการ “เรียกน้ำย่อย” ในยกแรกแห่งสงครามครั้งสุดท้าย ซึ่งว่ากันตาม “เงื่อนไข” คงได้ฟัดกันอีกยาว!?!
ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น