อ้างไม่มีเวลารอคอย
“นาซา”ถอย
ล้มสำรวจมรสุมไทย
บิ๊กโอ๋ลั่นเปิดอู่ตะเภา
ให้ปชป.เข้าดูอุปกรณ์
แฉซ้ำใช้เครื่งสอดแนม
เมื่อวันที่ 28มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซา ประกาศยกเลิกโครงการศึกษาความสัมพันธ์ขององค์ประกอบเฆมและสภาพอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(SEAC4RS)ใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานการสำรวจซึ่งมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการในเดือนสิงหาคมปีนี้
นาซ่ายกเลิกอ้างไทยไม่อนมัติ
โดยได้เผยแพร่ข้อความว่าได้ยกเลิกภารกิจโครงการสำรวจสภาพอากาศฯที่จะเริ่มในเดือนสิงหาคมปีนี้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของไทยในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเอื้อต่อการดำเนินโครงการทั้งการขนส่งอุปกรณ์และการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ ขาดการอนุมัติที่จำเป็นจากหน่วยงานระดับภูมิภาคในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการใช้งานตามแผนภารกิจทางวิทยาศาสตร์ โดยนายไบรอัน ทูน อาจารย์มหาวิทยาลัยโคโลราโด ผู้นำในการวางแผนโครงการนี้อ้างว่าเกิดการประสานงานที่ยุ่งยากในการวางแผนโครงการ
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 26มิถุนายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายในสภาโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 179 ซึ่งเลยจากวันที่นาซาต้องการได้รับอนุมติ
โฆษกทูตสหรัฐย้ำนาซ่ารอไม่ได้
ในวันเดียวกัน นายวอลเตอร์ บราวโนห์เลอร์ โฆษกสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยกล่าวว่าวันนี้นาซาไม่สามารถรอได้ เนื่องจากโครงการจะต้องดำเนินการเฉพาะเดือนสิงหาคมและกันยายนเท่านั้นแต่ ครม.ของไทยมีมติเมื่อวันอังคาร ให้รัฐสภาอภิปรายเรื่องนี้หลังเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 1สิงหาคม ซึ่งเลยกำหนดเส้นตายของนาซาไปแล้ว1 เดือนซึ่งโฆษกยังระบุด้วยว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่านาซาจะทบทวนเรื่องโครงการนี้อีกครั้งในปีหน้าหรือไม่
เว็บไซต์ของนาซา http://espo.nasa.gov/missions/seac4rs ระบุว่านาซาตัดสินใจในวันที่ 26 มิถุนายนเรื่องยกเลิกโครงการดังกล่าวที่มีกำหนดเริ่มในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากทางการในภูมิภาคตามกรอบเวลาที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ตามที่กำหนดของภารกิจนี้
บิ๊กโอ๋ฉุนพร้อมเปิดอู่ตะเภาให้สอบ
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เรื่อขอใช้สนามบินอู่ตะเภาของนาซา ว่า น่าจะจบแล้ว ทราบกันหมดแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่ารัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจนั้น ให้ดูการกระทบที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรซึ่งกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ไม่มีอะไรกระทบความมั่นคง อย่างที่เป็นห่วงกัน อย่างประเทศ อินโดนีเซีย กัมพูชา สิงคโปร์ ที่อนุญาตให้บินผ่าน เขายังไม่กังวลเลย ของเราเรื่องมากจนเป็นอย่างนี้
“ยืนยันพร้อมที่จะสั่งการให้กองทัพเรือ เปิดอู่ตะเภา ให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปดูซึ่งเป็นแค่สนามบิน โดยกองทัพเรือ ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีอะไรแล้วจะระแวงกันขนาดไหน เดี๋ยวจะเสียค่ารถ ค่าน้ำมันเปล่าๆ ก็ไม่มีอะไร ถ้าพูดแล้ว ไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องมาพูดกัน ไประแวงว่าจะเอาเครื่องมือมาเก็บ แล้วจะเอามาเก็บไว้ทำไม หรือจะเอามาจารกรรมบ้านเรา คิดได้อย่างไร”
ของขึ้นท้า’ดีเบต’แกนนำปชป.
อย่างไรก็ดี รมว.กลาโหม พูดฉุนๆว่า”บอกก็ไม่เชื่อว่าไม่มีอะไร มาคุยกันใกล้ๆดีกว่า ผมพร้อมจะดีเบต กับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องดูความเหมาะสม ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นคู่ชกที่สูสีกัน ไม่อยากไปคิดอย่างนั้น แต่อธิบายกันใกล้ๆจะได้พูดกันรู้เรื่อง” นอกจากนี้ ในส่วนการจัดตั้งศูนย์บบรเทาความช่วยเหลือมนุษยชน หรือ SADR นั้นยังไม่ได้พิจารณาเป็นเรื่องอีกนาน ค่อยๆว่ากัน ยังไม่รีบร้อน ส่วนจะถูกต่อต้านอีกหรือไม่ ก็ว่ากันมา ยกสองว่ากันต่อ
ปูอุบไม่อยากพูดเรื่องการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เนื่องในวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ครบรอบปีที่80และเป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์เสร็จสิ้น สื่อมวลชนพยายามซักถามถึงกรณีที่นาซาขออนุญาตใช้สนามบินอู่ตะเภา ปรากฎว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามบอกเพียงสั้นๆว่า”วันนี้เป็นวันดี ไม่อยากคุยเรื่องการเมือง”ก่อนจะเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวออกไป
เหลิมเย้ยปชป.ไร้ข้อมูลเด็ดนาซา
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นาซ่าประกาศยกเลิกการขอใช้สนามบินอู่ตะเภาว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ต้องสอบถามนายกรัฐมนตรี แต่หากมีการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อหารือกรณีดังกล่าว ตนก็พร้อมชี้แจงข้อมูลด้านกฎหมายและยังเชื่อว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ มีข้อมูลสำคัญในเรื่องนี้ คงเปิดเผยออกมาแล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่
ขุนค้อนชี้สภาอาจไม่จำเป็นต้องถก
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้รับการประสานจะให้นำเรื่องนาซ่าขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเข้าสู่การประชุมรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา179เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ แต่จะเปิดตามคณะรัฐมนตรี(ครม.)หรือไม่ คงต้องพิจารณาอีก ส่วนกรณีที่นาซ่าล้มเลิกโครงการในไทยแล้วนั้น ถ้าเป็นจริง ก็คงไม่ต้องประชุมเพื่อพิจารณาแล้วแต่น่าเสียดายประเทศไทยเสียโอกาสตรงนี้ไปแต่ถ้า ครม.ยังยืนยันที่จะให้นำเข้ารัฐสภาเพื่อรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงเหตุผลก็ยังสามารถทำได้ ถ้าเห็นว่าจำเป็น
พท.จวก ปชป.ทำไทยเสียโอกาส
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการที่ นาซ่ายกเลิกการใช้อู่ตะเภาโดยไม่รอ ครม.หรือการพิจารณาของรัฐสภาไทยว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยและประเทศไทยต้องเสียโอกาสที่เกิดจากการเล่นเกมของฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ทำให้รัฐบาลต้องมีมติส่งเรื่องให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังโยนบาปมายังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและครม.ว่ารัฐบาลเล่นเกม ทำเป็นประเด็นการเมือง
ขู่ฟ้องรบ.มาร์คลงนามไม่ผ่านครม.
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องเอาผิด ครม.ชุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีต รมว.วิทยาศาตร์ฯในข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา157ตามประมวลกฏหมายอาญาเนื่องจากไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศหรือจิสด้า ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับนาซ่ามีขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน2553มีคุณหญิงกัลยา เป็นรมว.วิทยาศาสตร์ฯโดยไม่ผ่านครม.เพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงว่าใครทำให้คนไทยเสียโอกาส เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง และไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอย่างนี้อีก
โอ๊คเฉ่งมาร์คสมใจนึกนาซ่าล้ม
และมีรายงานข่าวว่านายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กโดยยกคำสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อกรณี นาซ่า ขอใช้สนามบินอู่ตะเภาอาทิ"ฝ่ายค้านท้าโปร่งใสเอาไปถกในสภา"หรือ"ขู่ฟ้องดะอาญาตั้งแต่หัวยันท้าย"โดยระบุว่า นี่ยืนยันจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ครับว่าคัดค้านการ อนุมัติให้นาซ่าเข้ามาใช้อู่ตะเภาในการสำรวจ ถ้าใครตอบว่าได้แปลว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะแล้วครับ
"ในเว็บไซต์ของนาซ่า ได้ระบุว่านาซ่าเขายกเลิกภารกิจแล้ว ไม่ทราบว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ขออย่างเดียว อย่าบอกว่าไม่ใช่ความผิดของประชาธิปัตย์แต่เป็นความผิดของรัฐบาลนะครับ ผมว่ามันดูไม่สง่างามทางการเมืองเลยครับ"
เตรียมแฉ ใครได้ประโยชน์
ในโพสต์หน้าจะชี้ให้เห็นข้อมูลเชิงลึกของพรรคประชาธิปัตย์เปรียบเทียบกับ ข้อมูลเชิงลึกของนาซ่าเกี่ยวกับโครงการนี้ ฝ่ายหนึ่งบอกว่าเข้ามาจารกรรมสอดแนมเอาผลประโยชน์ อีกฝ่ายบอกว่าการสำรวจจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อมวลมนุษยชา จะเป็นข้อมูลในการป้องกันภัยพิบัติ จะเชื่อใครอยู่ที่วิจารณญาณแต่ละคน แต่เพียงรู้ว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งโกหก
ซัดรบ.ต้นเหตุยกเลิกโครงการ
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นาซายกเลิกโครงการขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจสภาวะเมฆในประเทศไทยว่ารัฐบาลมีหน้าที่ไปชี้แจงและเมื่อการประสานงานไม่เรียบร้อย ก็ต้องไปพูดคุยกันเพราะเชื่อว่าหากสหรัฐฯมีความตั้งใจที่จะมาทำงานวิจัยก็สามารถเจรจาพุดคุยในอนาคตได้ รัฐบาลจะมาโทษฝ่ายค้านไม่ได้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ มีเวลาทำงานมากว่า1ปีก็ไม่ทำให้เกิดความชัดเจนเอง
พร้อมรับคำท้าสุกำพลดีเบต
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวยอมรับคำท้า พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมออกมาท้าดีเบตในเรื่องนี้ ขอให้พูดถึงเนื้อหาสาระ อย่าพูดเรื่องไร้สาระเพราะตั้งแต่ตั้งคำถามไปไม่เคยได้สาระกลับมาสักเรื่อง ส่วนที่นาซ่ายกเลิกขอใช้สนามบินอู่ตะเภา จะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตาม มาตรา179หรือไม่ หากอยากจะให้แสดงความคิดเห็นหรืออยากจะชี้แจงข้อมูล ก็เป็นสิทธิของรัฐบาลที่จะนำเข้าสู่สภาได้ หากจะมีความร่วมมือในลักษณะนี้ในอนาคตอีก จะมีก็สามารถไประดมความเห็นกันได้ แต่หากคิดว่าไม่มีการทำแบบนี้อีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาอีกทำไม
ชี้เป็นบทเรียน-หนุนชี้แจงทุกปท.
ส่วนที่มีข่าวว่าจีนอาจจะไม่พอใจไทยกับเรื่องดังกล่าวนั้น นายอภิสิทธิ์เห็นว่า เราต้องไปชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกประเทศทั้งสหรัฐฯและมิตรประเทศในภูมิภาคทั้งหลาย ถือเป็นบทเรียน หากเป็นเรื่องสำคัญมีความละเอียดอ่อน จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย จะทำให้ราบรื่นมากกว่านี้ซึ่งพร้อมอยากให้รัฐบาลดูปฏิริยามิตรประเทศอย่างจีน ต้องดูประโยชน์ของส่วนรวม ให้รอบคอบ รอบด้านก็เราไม่ได้ต่อต้านงานวิจัย แค่อยากให้เกิดความโปร่งใส รอบคอบ ไม่สร้างความหวาดระแวงในภูมิภาคเพื่อให้มีผลกระทบกับประเทศไทย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
สื่อจีนแฉใช้เครื่องบินสอดแนมได้
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าได้มีสื่อของรัฐบาลประเทศจีนคือ ซีซีทีวี(CCTV)ได้รายงานข่าวว่าเครื่องบินที่นาซานำมาใช้ในการสำรวจภูมิอากาศเป็นเครื่องบินที่สมรรถนะสูง คือ เครื่องบิน ER2 ที่เป็นเครื่องบินที่ใช้สอดแนม สามารถบินในเพดานบินที่สูงมาก ไม่สามารถควบคุมตรวจสอบได้ โดยเฉพาะเรดาร์ของประเทศในแถบเอเชีย ไม่สามารถตรวจจับการบินได้ รวมถึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะใช้เพื่ออะไร ทั้งที่เหตุผลที่ขอใช้อู่ตะเภาเป็นเหตุผลที่ดีที่จะต้องการตรวจสอบสภาพอากาศ ซึ่งเป็นการรายงานข่าวของประเทศจีนที่สะท้อนถึงความห่วงใย สิ่งเหล่านี้ทำไม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมไม่ชี้แจงกับจีนรวมถึงข้อสังเกต6ข้อของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ที่ทางรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงและผู้เกี่ยวข้อง ยังไม่ทำความเข้าในในเรื่องนี้ แบบนี้คือคนที่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทำให้ชาติเสียหาย
ที่มา.หนังสือพิมพ์แนวหน้า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น