นับถอยหลังสู่การ “ปลดล็อก” ปมแก้รัฐธรรมนูญฉบับ “มรดกบาป คมช.” ทว่าในวงประชุมพรรคเพื่อไทยกลับมีคิวงัดข้อกันระหว่าง ส.ส. 2 กลุ่ม ซึ่งเถียงกันอย่างเผ็ดร้อนว่าจะดันญัตติเข้าสภาในสมัยประชุมนี้เลยหรือไม่!
ซีกหนึ่งนำทีมโดย “เหลิมจัดให้..!” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่อาศัย ความเก๋าเกม บี้ให้ที่ประชุมพรรคชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อน หลังจับทิศทางลมดูแล้ว..ได้ไม่คุ้มเสีย! เพราะสถานการณ์ยังคุกรุ่น รัฐบาลยังก้าวไม่พ้น “จุดล่อแหลม” เมื่อวันนี้ฝ่ายค้าน-แนวร่วม ไม่ยุติเกมขุดผีเน่าจากป่าช้า..! มาสุมไฟไล่ถล่มรัฐบาลแบบรายวัน ทำให้บรรยากาศทางการเมือง ในห้วงนี้ นอกจากไม่เอื้อแล้ว กลับจะเร่ง “จุดไฟ” ให้ลุกโชนในองศาเดือด
แม้ “ป๋าเหลิม” จะออกมาเต้นเร่า.. เร่า! บีบที่ประชุมพรรค “ใส่เกียร์ว่าง” เพื่อรอเวลาที่สุกงอม ทว่า..ซีก ส.ส.เสื้อแดง ก็ ค้านหัวชนฝา ยื่นคำขาด..ให้แก้โดยเร็วที่สุด ย้ำว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนแห่งรัฐ นั่นเท่ากับ เป็น “สัญญาประชาคม” ที่เคยให้ไว้เมื่อคราวหาเสียงเลือกตั้ง หากรัฐนาวาไม่อยาก ถูกประณามว่า “ถ่มน้ำลายรดฟ้า”
มีแรงหนุนจากแก๊งเสื้อแดง “ตัวพ่อ” ทั้ง “ดร.เปีย” พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และหมอเหวง โตจิราการ โดยเฉพาะกับขวัญใจ แม่ยกอย่าง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่ขู่ฟ่อๆ ว่า..! ถ้ายังไม่รีบเร่งแก้ไขในตอนนี้ ระวังจะ อดยาว พร้อมยกบทเรียนจาก 2 รัฐบาล ก่อน ในยุคสมัคร สุนทรเวช และสมัยสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มัวแต่ “เกียร์ว่าง” ที่สุดเกมแก้ รธน.ก็เหลวไม่เป็นท่า!!
แม้ในวงประชุมพรรค “เพื่อไทย” จะสำแดงอาการ “แผ่นเสียงตกร่อง” แต่ที่สุดก็เป็นไปตาม “ปฏิทินการเมือง” หลังมติพรรคไฟเขียว! เปิดหน้าแก้ รธน.50 เริ่ม จากแก้ที่มาตรา 291 เพื่อใช้เป็น “เครื่องมือ” เปิดทางสู่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ “ส.ส.ร.3” แต่ให้รอจังหวะ เวลาที่เหมาะสม
กระทั่งในวันรุ่งขึ้น “วิปรัฐบาล” ก็มีมติคล้อยตามกัน..เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ในสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้ ด้วยการเสนอตั้ง “ส.ส.ร.3” 77 คนจาก 77 จังหวัด และตัวแทนจากซีก นักวิชาการอีก 22 คน ซึ่งทั้งหมดจะนำไป สู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปี 2555
ขณะเดียวกัน “ธิดา ถาวรเศรษฐ์” รักษาการประธาน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ระบุถึงปมแก้ รธน.ว่า การดำเนินเรื่องทั้งหมดถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทยเพราะเคยหาเสียงไว้กับประชาชน ในเรื่องนี้ แต่ นปช.ต้องสานต่อตามที่ประกาศ นโยบายไว้ เสนอร่างแก้ไข รธน.ฉบับ คปพร.มาเป็นต้นเรื่อง รวมกับข้อเสนอของ นิติราษฎร์ เพื่อขอแก้ รธน.50 ใน 10 ประเด็น กอปรไปด้วย..ยกเลิกมาตรา 309, มาตรา 36-37 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2549, ยกเลิก ส.ว.แต่งตั้ง, แก้มาตรา 265-266, แก้มาตรา 190 เรื่องการทำสนธิสัญญา, แก้มาตรา 237 เรื่องการยุบพรรค
ทั้งยังมีข้อเสนอประเด็นสาธารณะให้มีการอภิปราย คือกรณีอำนาจตุลาการ จำเป็นหรือไม่ต้องให้ยึดโยงกับอำนาจของ ประชาชน หรือเรื่องการถอดถอน ส.ส. นักการเมือง องค์กรอิสระ รวมไปถึงการแก้ รธน.ให้ทำได้โดยตรงจากการเข้าชื่อของประชาชนหรือไม่
“เดอะตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. เพื่อไทย และแกนนำ นปช. ย้ำหัวตะปูว่า ควรเร่งแก้ไข ม.291 เพื่อให้เกิด ส.ส.ร. โดยเปิดช่องให้มีการแก้ไข รธน.ทั้งฉบับ รัฐบาลไม่ควรที่จะชะลอการแก้ไขออกไปเพราะเรามีบทเรียนมามาก แม้ว่าจะไม่แก้ รธน. กระบวนการโค่นล้มรัฐบาลก็มีอยู่ดี เหมือนในสมัยของรัฐบาลนายสมัคร และนายสมชาย ที่ไม่ได้มีการแก้ไขแม้แต่มาตรา เดียว ก็ยังถูกโค่นล้ม! ดังนั้นรัฐบาลต้องรีบ แก้ไข รธน.ก่อนที่ประชาชนจะดำเนินการ เอง เพราะทราบมาว่าภาคประชาชนได้มีการล่ารายชื่อจำนวน 5 หมื่นชื่อ เพื่อยื่นร่างแก้ รธน.มาตรา 291 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลไม่มีสิทธิ์จะมาขัดขวางประชาชน
“วรวุฒิ วิชัยดิษฐ” โฆษก นปช. กล่าวว่า ประเทศไทยหลังจากนี้ต่อไปคนที่มีอำนาจต้องตระหนักว่าประชาชนต้องการ อะไร เวลานี้คนเสื้อแดงต้องการประชาธิปไตยและความเสมอภาค ไม่ต้องการให้หน่วยงานใดมาเข้าข้างคนเสื้อแดง เพียงแต่ต้องการให้เป็นกลาง
ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร วันนี้ เข้าใจว่าอยู่ข้างประชาชน แต่กระบวน การยุติธรรมในประเทศยังเห็นว่าไม่เป็น กลางเท่าที่ควร ทั้ง กกต., ป.ป.ช. และ คตส. ที่มีผลพวงมาจากการทำรัฐประหารปี 2549 นปช.จึงมีมติอย่างชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการก่อให้เกิดปัญหายิ่งใหญ่ในอนาคต จึงมีมติรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเร็ว ที่สุด โดยจะเริ่มตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนฝ่ายที่ออกมาต่อต้าน ก็คือพวกที่ชอบ รัฐประหารไม่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่ง นปช.ต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้า ไปได้ด้วยดี ต้องการประนีประนอมและปรองดองกับทุกฝ่าย เพราะคนไทยไม่ว่าเสื้อสีใดก็เป็นคนไทยด้วยกัน
“หลังปีใหม่จะมีการหารายชื่อให้ครบ 50,000 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อรัฐสภา เราจะเริ่มดำเนินการหลังปีใหม่เป็นต้นไป ที่ผ่านมาเคยมีการรณรงค์ในการชุมนุมที่สกลนครไปแล้วหนึ่งครั้ง และจะมีไปเรื่อยๆ จนกว่าประเทศนี้จะมีประชาธิปไตยที่แท้จริงในเรื่องของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บ้านเมืองนี้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง นี่คือสิ่งที่คนเสื้อแดงต้องดำเนินการกันต่อไป เป้าหมายใหญ่คือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะมีแนวนโยบาย อย่างไรนั้นก็สุดแต่รัฐบาล แต่เรา นปช. แดงทั้งแผ่นดิน มีจุดยืนชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญ 2550 เป็นฉบับของเผด็จการ ดังนั้นจำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นฉบับของประชาชนในทันที”
ขณะที่แดงสายฮาร์ดคอร์อย่าง “ขวัญชัย ไพรพนา” ประธานชมรมคนรักอุดรฯ ก็หมายหัวไว้ว่า..การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะล้มเลิกหรือทำยึกยักไม่ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าไม่แก้ตอนที่ยังมีอำนาจแล้ว จะไปแก้ตอนไหน!!
ล่าสุด ก็ข้ามห้วยไปแตะมือกับ “แดง รักเชียงใหม่ 51” ซึ่งนำโดย “เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล” ร่วมกันล่ารายชื่อประชาชน 6-7 หมื่นรายชื่อ เพื่อแสดงพลัง บี้ให้รัฐบาล เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว!
“หากรัฐบาลดำเนินการล่าช้า ออกอาการไม่จริงจัง ผมอาจนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งที่ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เพื่อแสดงความต้องการของภาคประชาชน แต่ จะไม่ชุมนุมในกรุงเทพฯ เพราะกังวลมือที่สามอาจเข้ามาสร้างความวุ่นวาย ส่งผลให้ทั้ง รัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดงพังไม่เป็นท่า อีกทั้งต้องการส่งสัญญาณว่า..เราไม่อยาก รอการดำเนินการจาก ส.ส. เพราะที่ผ่านมามีแต่ราคาคุย! เอาแต่หาผลประโยชน์ให้ตนเอง”
นี่คือ มุมสะท้อนปมแก้รัฐธรรมนูญจากอารมณ์-ความรู้สึกของ “แกนนำแดง” รวมไปถึงซีกแดงฮาร์ดคอร์อย่าง “ขวัญชัย” ที่ชิงประกาศล่วงหน้ากดดันเกม “ยื้อแก้ รธน.” ท่ามกลางกระแสแห่งวิพากษ์ว่ามีการสับขาหลอก เพื่อกัน ส.ส.เพื่อไทยออก จากเกม ให้หลุดพ้นข้อกล่าวหา..ทำเพื่อคนคนเดียว!
“บันไดขั้นแรก” ในการตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อยกร่าง รธน.ฉบับปลดล็อกรากเหง้า รัฐประหาร จะเป็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” อย่างที่ทุกฝักฝ่ายในสังคมคาดหวังได้หรือไม่..เกมคว่ำมรดกบาป คมช. ที่คนเสื้อ แดงออกมาเชียร์กันสุดโต่ง! จะนำไปสู่หมายเหตุแห่ง “ปรองดอง” หรือกลาย เป็น “ระเบิดเวลา” ที่รอวันทำลายตัวเอง.. ขึ้นอยู่กับเจตนาของฝ่ายที่ยกร่าง!?!
ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
/////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น