--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยิงเบลล์ 212 ประกาศอธิปไตยเหนือดินแดน !!?

ส่อว่าจบไม่ลงง่ายๆ สำหรับเหตุการณ์ทหารกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ 212 ของกองทัพเรือไทย บริเวณกองกำลังจันทบุรี-ตราด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา แม้ในวันรุ่งขึ้น ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ได้ทำหนังสือประท้วงให้กระทรวงกลาโหม ส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา

ขณะที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกถึงเรื่องนี้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ว่า เกิดจากความเข้าใจกันผิดนิดหน่อยตามที่กรมเอเชียตะวันออก รายงานมา ยังไม่ได้มีการรายงานล่าสุดมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เป็นปัญหาที่จะทำให้เกิดข้อบาดหมางกัน

กระทั้ง 18 ธันวาคม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังจันทบุรี-ตราด พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ซึ่งเข้าประชุมเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย และกัมพูชา บอกว่า ผู้บัญชาการทหารประจำจังหวัดเกาะกง ยอมรับ และขอโทษที่ทหารฝ่ายกัมพูชา ประมาท ทำเกินกว่าเหตุ และเขาจะนำเรื่องทั้งหมดไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกัมพูชา ให้รับทราบเพื่อจะได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของไทย แล้วค่อยมาหารือกันอีกครั้ง

ท่าทีล่าสุดของ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล บอกระหว่างเยือนนครเนปีดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือประท้วงรัฐบาลกัมพูชา ต่อกรณีทหารกัมพูชายิงเฮลิคอปเตอร์ของไทย ว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดที่สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งทางกัมพูชาก็ได้แสดงความเสียใจผ่านทาง พล.อ.ยุทธศักดิ์ มาแล้ว ส่วนจะทำหนังสือประท้วงตามข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ คงทำไม่ได้ เพราะวิธีคิดไม่เหมือนกัน แต่เราต้องหาทางพูดคุยกัน เราเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกัน ย่อมสามารถทำความเข้าใจกันได้อยู่แล้ว ในเมื่อทางกัมพูชาได้แสดงความเสียใจมาแล้วว่า เป็นเรื่องความผิดพลาดของการสื่อสาร ไม่ควรเอาเรื่องจนก่อให้เกิดความบาดหมางใจกันอีก

ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา บอกถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ได้ให้กองทัพไทย ร่างคำแถลงข่าวแล้วแสตมป์ไว้เพื่อยืนยันว่าข่าวนี้เป็นไปตามที่เราแถลง โดยจะมีการส่งให้สำนักนโนบายและแผนนกระทรวงกลาโหม เพื่อให้โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงข่าวและแสตมป์ไว้ ซึ่งทางกัมพูชา ก็มีการแถลงข่าวและแสตมป์โดยโฆษกกัมพูชาก่อนหน้านี้ไปแล้ว เป็นการยืนยันว่า 2 ประเทศคิดเช่นนี้

ส่วนการประท้วงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องไปเรียกทูต มาเพื่อประท้วง ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงกลาโหม โดยในวันที่เกิดเหตุ รัฐมนตรีว่าการกะทรวงกลาโหมกัมพูชา พล.อ.เตีย บันห์ ได้โทรศัพท์มาพุดคุยด้วยทันที ทั้งนี้ในระดับผู้บังคับบัญชามีความเข้าใจ เป็นความผิดพลาดในการสื่อสาร ซึ่งเครื่องมือติดต่อสื่อสารของกัมพูชาไม่ทันสมัย

จากท่าทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งสวนทางกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ค่อนข้างนิ่งเฉยจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชา นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่า ต้องไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงกลาโหม เรายืนยันว่าไม่เสียดินแดน ยังไงก็ไม่เสียดินแดน ถึงเวลาจะไปคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเอง ยืนยันว่าทหารเราไม่ยอม ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนยืนยันว่า ต้องรักษาอธิปไตยของแผ่นดินไทยไว้ด้วยชีวิตทุกคน ส่วนตัวเข้าใจและยืนยันในจิตใจของผบ.เหล่าทัพ ทุกคน เอาจริง และจริงจังด้วย ไม่ยอมให้คนไทยมีความรู้สึกในทางที่ไม่ดี หรือจะต้องเสียใจ

ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ฮอ นัมฮง กลับบอกว่า เหตุการณ์ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ แบบเบลล์ 212 ของกองทัพเรือไทย บริเวณกองกำลังจันทบุรี-ตราด เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเพราะเฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพเรือไทย บินรุกล้ำดินแดนกัมพูชา จึงจำเป็นต้องยิงเพื่อเตือน

เรื่องนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ความเข้าใจผิด เมื่อกัมพูชา ยืนยันว่าไทยรุกล้ำอธิปไตย ปฏิกิริยาที่นิ่งเฉยของรัฐบาลเท่ากับว่าไทยยอมรับการเสียดินแดนให้กัมพูชา

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
//////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น