--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ระวังเข้าทางมือที่ 3 !!?

สิริรวมอายุกว่าไตรมาสของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นโยบาย วาดฝันมากมายต้องพังทลายไปกับสายน้ำ ซ้ำรายมาถูกประณาม จากกระแสสังคมว่าอาศัยช่วงชุลมุนสอดไส้นโยบายอุ้มนายใหญ่กลับบ้าน ฯลฯ สารพัดกระแสข่าวที่พรั่งพรูออกมาจากปากคนรอบข้างตัว ท่านนายกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังมีอยู่ไม่ขาด สาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม โดยอ้างถึงความมิชอบ ในข้อกฎหมายและที่มา แต่เรื่องนี้ก็เหมือนของแสลงรสโอชา อ้าปากแต่ยังไม่กล้าเคี้ยว

มาถึง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากว่า ทำเพื่อคนเพียงคนเดียว ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวอ้างเองก็หาได้สนใจจะรับ ความปรารถนาดีนี้ไม่ เนื่องจากเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดจะต้องมารับการอภัยโทษเรื่องอะไร

มาจนถึงเรื่องเล็กๆ ที่ไม่น่าจะยอมกันได้ กับไอ้แค่การคืนพาสปอร์ต คนไทยนายหนึ่งที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”..ซึ่งก็ทราบกันดีว่าชายไทยคนนี้มีสภาพเป็นคนไทยที่ไม่ธรรมดา!!

ถึงขนาดว่า “นิด้าโพล” ออกมาประกาศว่า หากรัฐบาลคืน พาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แผ่นดินจะเดือดเป็นไฟ มวลชนคนเสื้อเหลืองจะกลับมา..ประเทศจะหาความสงบไม่ได้

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกได้คำเดียว.. “ไม่ทราบค่ะ”

และแน่นอนที่สุดทุกประเด็นที่กล่าวมาไม่เคยคลาดสายตา ฝ่ายค้านขั้นเทพอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชี่ยวชาญทั้งในแง่กฎหมาย และกระบวนการเสกสรรวาทกรรม

ทุกประเด็นที่เพื่อไทยตั้งมา ไม่พ้นที่ประชาธิปัตย์จะงัดค้าน อย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งในสภาฯ และตามหน้าสื่อ โดยเฉพาะขุนพล ฝีปากกล้าอย่าง “ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” ที่ออกมาฉะอย่างทันท่วงที โดยเห็นได้จากตามหน้าสื่อต่างๆ

จนมาถึงประเด็นสุดฮอตระเบิดหน้ากองสลากฯ ที่ดันโผล่มาในเวลาที่ไม่น่าจะเกิด งานนี้สารวัตรเหลิม เจ้าเก่าโชว์ฟอร์ม อดีตสารวัตรกองปราบฟันธงว่างานนี้เป็นฝีมือของ พวกที่เฟ้อฝัน วันๆ จ้องแต่จะล้มรัฐบาล โดยหัวหน้าแก๊งเป็น “พาร์กินสัน”..

“เขารู้กันทั้งประเทศ คอการเมืองเขารู้หมด ว่างานนี้ไม่เกี่ยว กับเรื่องผลประโยชน์ในกองสลาก มันคนละเรื่อง ที่ตนพูดคือคนที่ฝักใฝ่การเมืองทุกสมัย อยากให้มีการล้มอำนาจ ปฏิวัติ แต่ปฏิวัติ ทุกครั้งตัวเองก็ไม่ได้อะไร ก็ไปด่าคณะปฏิวัติต่อ พอบ้านเมืองสงบ มาจากการเลือกตั้งก็โกรธ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และก็ตั้งวงต่อ หาช่องทาง หาวิธีการให้บ้านเมืองปั่นป่วน เดี๋ยวตนจะไปนั่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เอง ก็ ลองกันดู เราถือกฎหมาย”

“สำหรับปีใหม่ปีนี้คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ เราจะใช้ ปี 50 เป็นตัวตั้งที่มีระเบิด 10 จุด เราจะดูการวางระเบิด สถานที่ เกิดเหตุ เป้าหมายที่ต้องการ สำหรับเหตุการณ์วางระเบิดที่กอง สลากนั้น ผมถามตำรวจสืบสวนว่าไปถึงไหนเขาเชิญผู้เกี่ยวข้อง มา 7 คน สอบยังไงไม่ได้ผลเพิ่มแสดงว่าชุดนั้นไม่ใช่ เดิมคิดว่าอีก ฝ่ายหนึ่งไม่ใช่ คมช. แต่ผมบอกว่า คมช. ขัดใจกันเองก็เลยวางระเบิดก่อสถานการณ์ แต่คราวนี้มีกลุ่มคน 4 กลุ่มที่ทำ คือกลุ่มที่ เคลื่อนไหวประจำ กลุ่มที่สูญเสียอำนาจ กลุ่มตำรวจที่เคยผูกพันกับพรรคการเมืองบางพรรคแล้วใส่ชุดดำยิงชาวบ้านพอยิงเสร็จก็เปลี่ยนชุดดำใส่ชุดตำรวจ ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มนักการเมือง”

นั่นเป็นคำพูดที่ผุดออกมาจากปากอดีตสารวัตรกองปราบ โดยไม่ทราบว่าเพื่ออะไร ซึ่งอาจเป็นการส่งสารปรามฝ่ายตรงข้าม นัยว่า “ข้ารู้นะว่าฝีมือเอง” หรือจะเป็นการหวังผลทางการเมืองอย่างอื่นก็แล้วแต่ อย่างไรก็หาได้เป็นผลดีกับรัฐบาลไม่ โดยเฉพาะในช่วงการเมืองที่ซัดส่ายอย่างเวลานี้

โดยเฉพาะสารพันเรื่องราวที่ว่ามานี้ออกมาจากปากคำของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าเป็น ไม้เบื่อไม้เมากับกองทัพมาตั้งแต่ สมัย “คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช.” เรืองอำนาจ หากไม่มีใครปรามอาจเป็นการกวนน้ำให้ขุ่นหรือแม้แต่จะเป็นการปลุกกระแสเสื้อเหลืองออกมาอีกครั้งก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นสงคราม กลางเมืองคงไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อเจ้อภาพต่างๆ ที่สะท้อนออกมาจากพรรคเพื่อไทยใน เวลานี้ ฉายภาพให้เห็นว่าการเมืองในพรรคเองกำลังไม่นิ่ง มีทั้งคลื่นลมที่ดูจะรุนแรกกว่าพายุในภาคใต้เสีย ด้วยซ้ำ ยิ่งไปแหย่หนวดเสืออย่างผู้ยิ่งใหญ่แถวสุขุมวิท ด้วยแล้วน่ากลัวจะอยู่กันยากเพราะมือที่ 3 ที่รอโอกาสก็เห็นกันอยู่ประเทศชาติยังรอการฟื้นฟูอีกมาก ไม่ว่าจะ เป็นความวุ่นวายในรูปแบบไหนก็ตามย่อมไม่เป็น ผลดีกับการบริหารงานของรัฐบาลทั้งสิ้น ไหนจะ เรื่องของความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เสื่อมไป

ระวัง!..อย่าให้ใครมาฉวยโอกาส เพราะ มือที่ 3 กำลังจับจ้องอย่างจดจ่อ!!!

ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
/////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น