--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ไม่ใช่ข้อแก้ตัว

ข่าวสดรายวัน

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ในการลุกขึ้นตอบโต้ฝ่ายค้านระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องการตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ได้พยายามทำให้เกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องประสบก็คือแรงกดดันจากภายนอกให้เลิกการชุมนุม และมีปัจจัยหลายประการที่คาดไม่ถึงมาแต่ต้น ทำให้สถานการณ์ออกมาดังที่เห็น

ซึ่งรัฐบาลยืนยันความตั้งใจว่าจะแสดงถึงสำนึกของความรับผิดชอบ

ไม่ว่าผลการสอบสวนของคณะกรรม การอิสระที่จะตั้งขึ้นมาออกมาอย่างไรก็จะยอมรับ

คําชี้แจงดังกล่าวอาจน่าเห็นใจและเข้าใจได้ในฐานะของนายอภิสิทธิ์ที่เป็นปัจเจกชน แต่ในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล คำชี้แจงดังกล่าวไม่มีน้ำหนักพอแก่การรับฟัง

เพราะสังคมยอมเสียสละทรัพยากรส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจตามกฎหมายหรืองบประมาณ ก็เพื่อให้รัฐสร้างกลไกที่จะป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียจากความขัดแย้งในสังคมนั้นเอง

หากไม่ตระหนักหรือขาดประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรักษามาตรฐานนี้ รัฐบาลก็พึงพิจารณาตนเองว่าเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่หรือไม่

ข้อจำกัดหรือแรงกดดันอันเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของการทำงาน

มิใช่ประเด็นที่จะหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อแก้ตัวได้

เพราะในฐานะรัฐบาลที่กุมอำนาจและกลไกรัฐทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองกำลังติดอาวุธอย่างตำรวจและทหารเอาไว้

การตัดสินใจผิดพลาดตั้งแต่ก้าวแรก จะนำไปสู่ความเสียหายมหาศาลในลำดับต่อๆ มา

ฉะนั้น เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นในช่วงต้นของปฏิบัติการ ในขณะที่มีการทักท้วงทัดทานทั้งจากข้าราชการที่ร่วมทำงานอยู่ด้วยกัน ไปจนกระทั่งถึงจากสังคมภายนอก แล้วยังเลือกที่จะเดินหน้าในสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นต่อไป

การแสดงออกถึงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองตัดสินใจ ไม่จำเป็นจะต้องให้มีผู้อื่นมาชี้เท่านั้น

แต่รัฐบาลจะต้องสำนึกและตระหนักเองเป็นเบื้องต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น