--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โอบาม่า-โอบามาร์ค สอบตก!

ไม่รู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ที่คะแนนนิยมของผู้นำที่มีชื่อคล้ายกัน ระหว่าง “บารัค โอบามา” ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และ “โอบามาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ต่างลดลงหลังเจอวิกฤตทางการเมือง โดยผลผลสำรวจจากโครงการวิจัยทัศนคติทั่วโลกของศูนย์วิจัย Pew พบว่า คะแนนนิยมทั่วโลกของประธานาธิบดี “บารัค โอบามา” ลดลงปานกลางในปีนี้ แต่ก็ยังดีกว่าของ

อดีตประธานาธิบดี “จอร์จ ดับเบิลยู บุช” ในสหรัฐอเมริกามีผู้ตอบแบบสอบถาม 65% ที่แสดงความเชื่อมั่นว่า...โอบามาจะทำในสิ่งที่ถูกที่ควรในการแก้ปัญหาระดับโลก ขณะที่ในญี่ปุ่นนั้น 76% ของผู้ตอบแบบสอบถาม 700 คนเชื่อเช่นเดียวกัน ซึ่งลดลง 9% จากการสำรวจปีที่แล้ว แต่ถึงกระนั้นญี่ปุ่นก็ยังเป็นประเทศในเอเชีย

ที่เชื่อมั่นในโอบามามากที่สุดจากการสำรวจนี้ การสำรวจครั้งนี้ครอบคลุมประชากร 24,790 คนใน 22 ประเทศทั่วโลก ซึ่งพบว่ามีเพียง “รัสเซีย” และ “เคนย่า” ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของบิดาโอบามา ที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นในตัวโอบามามากขึ้นในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งที่

ค้นพบในการสำรวจครั้งนี้คือ การที่คะแนนนิยมของโอบามาและประเทศสหรัฐอเมริกาลดลงใน 7 ประเทศโลกมุสลิม ส่วนผลการสำรวจความนิยมในตัว “โอบามาร์ค”ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจาก 27 จังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศต่อสถานการณ์ความขัดแย้ง

ทางการเมืองในปัจจุบันหลังผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงมา 1 เดือน พบว่า ภายหลังการประกาศแผนปรองดองแล้วมีเพียงร้อยละ 18.4 ที่ระบุว่ามีคะแนนนิยมต่อรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 38.6 ระบุว่ามีคะแนนนิยมเท่าเดิม แต่ร้อยละ 22.9 ระบุว่า คะแนนนิยมลดลง ขณะเดียวกันผลสำรวจยังพบว่า

ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศหลังผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงมาแล้ว 1 เดือนได้คะแนนเฉลี่ยรวม 4.28 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยพึงพอใจด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด แต่พึงพอใจด้านการแก้ปัญหา

ความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม เพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งและแตกแยกในสังคมน้อยที่สุด แม้ว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลโอบามาร์ค จะลดลง แต่ความพยายามในการทำประชานิยมของรัฐบาลก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าแผนปรองดอง ท่ามกลาง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือการปฏิรูปประเทศไทย ที่ยังไกลเกินฝัน

รวมทั้งมาตรการช่วยแล้ง ตำพริกละลายแม่น้ำ แจกตังค์ชาวนาครอบครัวละ 1,000 บาท การนิรโทษกรรม นปช. งานนี้จึงไม่รู้มาตรการที่กล่าวมาจะช่วยให้คะแนนนิยมของรัฐบาล กลับคืนมาเหมือนเช่นก่อนได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆงานนี้ “โอบาม่า”และ “โอบามาร์ค” สอบตกเห็นๆ
ที่มา.บางกอกทูเดย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น