--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เจ้าของประเทศ

การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดเมื่อ 5 มิถุนายน 2553 เป็นแค่ปรากฏการณ์ทางการเมืองหนึ่งเท่านั้น ถ้าจะถามว่า...มันตอบโจทย์ของประเทศไทยหรือไม่? ผมบอกได้เลยว่า “ไม่” แต่เป็นการตอบโจทย์นักการเมืองมากกว่าตอบโจทย์ของประเทศ เรื่องจริงที่ยิ่งกว่าจริง และจริงแท้แน่นอนก็คือ มันเป็นการตอบโจทย์นักการเมืองอย่างชัดเจนอย่างน้อยสองคน คือ สุเทพ เทือกสุบรรณ สองนายกรัฐมนตรี กับ เนวิน ชิดชอบ ผู้ทำให้ปรากฏการณ์ทางการเมืองมีการเปลี่ยนขั้วจากเพื่อไทยมาเป็นประชาธิปัตย์ และยังตอบโจทย์

ทางการเมืองต่อไปอีกนั่นคือการชำระบัญชีแค้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถามต่อว่า... ปรับ ครม.หนนี้แก้ปัญหาเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้านไหม ตอบได้เลยทันทีว่า “ไม่” ถามต่อว่า แล้วจะทำให้ภาพการทุจริตของคนในรัฐบาลลดลงหรือไม่? ตอบได้เลยว่า “ไม่” ถ้าเช่นนั้นการปรับ คณะรัฐมนตรีหนนี้

ทำเพื่ออะไร? ต้องตอบตามความจริงว่า...เพื่อความมั่นคงของรัฐบาล และความไม่มั่นคงของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นี่คือเกมการเมืองที่นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเลือกที่จะเล่น และเล่นเป็นทีมกับพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับพรรคช่วยรัฐบาลด้วย ถามว่าจากนี้ไปการเมืองประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป? ตอบว่า...

ไม่มีใครหยั่งรู้ได้ว่า...คนที่เลือกให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไป จะมีแผนและเกมอย่างไรในอนาคตข้างหน้านี้ แล้วประชาชนคนไทยควรทำอย่างไร? ตอบได้แค่ว่า...ประชาชนคนไทยคงได้แต่รอให้สถานการณ์ข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรครัฐบาลถามว่า...วันหน้าอนาคต

ประเทศไทยฝากไว้กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนเดียวหรือ? ผมเองคงตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอกครับ แต่เจ้าของประเทศตัวจริงอย่างประชาชนคนไทยคงตอบเรื่องนี้ได้ดีกว่าผมจากการแสดงออกของพลังประชาชน ถ้าพวกท่านปรารถนาจะเป็นเจ้าของประเทศ และใช้อำนาจของท่านเองอย่างแท้จริง
คอลัมน์.ปัญหาโลกแตกมด คันไฟ
ที่มา.บางกอกทูเดย์
...............................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น