--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

"ไอซีที"งงกรมปกครองเด้ง"สมาร์ทการ์ด"คืนสงสัยทะเลาะกันเอง เล็งเลิก17ล้านใบ"จุติ"ลั่นไม่ผิดยุเอกชนฟ้อง

รายงานข่าวจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แจ้งว่า กรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 มิถุนายน 2553 ถึงปลัดไอซีที เรื่องการส่งมอบบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (สมาร์ทการ์ด) ระบุว่า ตามที่ไอซีทีได้ฝากบัตรสมาร์ทการ์ด 600,000 บัตร ให้ ปค.รับฝากและเก็บรักษาไว้ที่สำนักบริหารการทะเบียนในระหว่างรอความเห็นชอบ ปค.ได้ตรวจสอบและพิจารณาแล้วมีความเห็นดังนี้ 1.รูปแบบบัตรนั้นมีเส้นสีแดง (MICROTEXT) พาดผ่านตำแหน่งพิมพ์รูปภาพด้านหน้าบัตร ซึ่งไม่เป็นไปตามลักษณะแบบบัตรที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบอเนกประสงค์ตามท้ายกฎกระทรวงหลายฉบับที่กำหนดให้บัตรมีสีขาวลายพื้นสีฟ้า 2.สัญลักษณ์ด้านหลังบัตรซึ่งเป็นจุดตรวจสอบบัตร ภาพแรกที่ปรากฏบน HOLOGRAM ไม่ใช่รูปแผนที่ประเทศไทย ซึ่งไม่เป็นไปตามลักษณะบัตรตามท้ายกฎกระทรวง จึงขอให้ไอซีทีส่งเจ้าหน้าที่มารับมอบบัตรที่ฝากไว้ไปแก้ไขปรับปรุงรูปแบบลักษณะบัตรให้ถูกต้องตามกฎกระทรวง และให้เร่งส่งมอบ ปค.ต่อไป เพราะขณะนี้ไม่มีบัตรออกให้กับประชาชน

แหล่งข่าวจากไอซีทีกล่าวว่า เส้นสีแดงและสัญลักษณ์ด้านหลังบัตรเป็นเรื่องความปลอดภัยและป้องกันการปลอมแปลงบัตรที่เพิ่มเติมขึ้นจากรูปแบบบัตรสมาร์ทการ์ดเดิม โดยรูปแบบดังกล่าวนายมงคล สุระสัจจะ อธิบดี ปค. เมื่อครั้งนั่งตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนอธิบดี ปค. ได้ทำหนังสือถึงไอซีที ลงวันที่ 25 เมษายน 2553 ระบุว่า ปค.ทดสอบบัตรเสร็จสิ้นแล้ว ผลการทดลองบัตรตัวอย่าง 25,000 บัตร สามารถทำงานร่วมกับระบบของ ปค.ได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ คณะกรรมการตรวจรับบัตรสมาร์ทการ์ดไอซีทีจะต้องไปตรวจรับบัตรงวดที่ 2 อีกจำนวน 4 ล้านบัตร แต่ยังติดปัญหาว่าขณะนี้ยังไม่สามารถจัดหาสถานที่จัดเก็บได้ และยังไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหาต่อไปอย่างไร เมื่อ ปค.ไม่ยอมรับรูปแบบบัตรดังกล่าว คณะกรรมการคงหารือ และมีแนวโน้มอาจพิจารณายกเลิกการผลิตบัตรสมาร์ทการ์ดจำนวนที่เหลืออีก 17 ล้านบัตรด้วย ขณะเดียวกันยังมีจำนวนสมาร์ทการ์ดอยู่ในกระบวนการผลิตอีก 4 ล้านบัตรด้วย

"การบอกเลิกการผลิต เอกชนต้องฟ้องไอซีทีแน่ ตอนนี้โครงการนี้อยู่ในภาวะลูกผีลูกคน เรามืดแปดด้านทั้งที่เอกสารที่เรามีอยู่ทั้งหมดถูกต้องทุกอย่าง เรามองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทะเลาะกันเองของผู้บริหารในมหาดไทย แต่เขาไม่ยอมรับว่ามีปัญหาภายในกันเอง" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวถึงความเป็นมาก่อนเกิดปัญหา ปค.ปฏิเสธไม่รับบัตรว่า ช่วงก่อนหน้านั้น ทราบว่าบัตรสมาร์ทการ์ดเดิมจะหมดลงในเดือนมิถุนายน 2553 จึงได้ประสานไปยังบริษัท วี-สมาร์ท จำกัด เอกชนผู้รับจ้างเร่งการผลิตบัตรงวดที่ 2 จำนวน 5 ล้านบัตร ให้ก่อนจำนวน 1 ล้านบัตร เพื่อให้ทันกับการใช้งาน โดยเริ่มทยอยส่งมอบให้ ปค.ได้ล็อตแรก 300,000 บัตร เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 ล็อตสอง 300,000 บัตรในวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 รวมเป็น 600,000 บัตรแรกที่ ปค.รับมอบไป ต่อมาการส่งมอบสมาร์ทการ์ดอีกจำนวน 400,000 บัตร เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2553 ปค.แจ้งมาว่าจะไม่รับฝากบัตรจำนวนดังกล่าว และจะขอคืนสมาร์ทการ์ดทั้ง 2 งวดก่อนหน้านี้กลับไป ไอซีทีจึงได้แก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยขอความร่วมมือไปยังบริษัท วี-สมาร์ท เพื่อฝากบัตรจำนวน 400,000 บัตรหลังไว้ก่อน

ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการไอซีที กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เรียกคณะกรรมการตรวจรับพัสดุการจ้างเหมาจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดมาชี้แจง ยืนยันว่าไอซีทีไม่ผิด แต่ไม่สามารถไปบังคับให้กระทรวงมหาดไทยรับบัตรได้ รวมถึงไม่สามารถทำอะไรกับบัตรที่เอกชนผลิตออกมาแล้ว ดังนั้นถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ แต่ความเสี่ยงที่ไอซีทีจะรับผิดชอบความเสียหายนั้นถือว่าน้อย เพราะไอซีทีไม่ผิด

"เอกชนฟ้องก็ดี จะได้รู้ว่าความจริงคืออะไร แต่เรายืนยันว่าเราไม่ผิด ทุกอย่างจึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ"นายจุติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการขาดแคลนบัตรสมาร์ทการ์ดช่วงที่ผ่านมา กรมการปกครองไม่สามารถออกบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับประชาชนที่ยื่นขอทำบัตรประชาชนใหม่ได้ จึงได้ออกบัตรเหลือง หรือบัตร บ.ป.2 ให้ผู้ที่มาขอทำบัตรประชาชนนำไปใช้แทนชั่วคราว

วันเดียวกัน นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครองได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบกรณีที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยตั้งกรรมการสอบตนเองกรณีบัตรสมาร์ทการ์ดอย่างไม่เป็นธรรม
ที่มา.มติชนออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น