โดย.พญาไม้
เหมือนการแข่งขันชกมวย..หรือการแข่งขันกีฬาทุกชนิดหากคู่ต่อสู้ปฏิเสธการต่อสู้..ผู้ยืนอยู่และพร้อมสำหรับการต่อสู้ก็คือผู้ชนะ
การเลือกตั้งไม่น่าจะแตกต่างไปจากนี้..
เมื่อมีพระบรมราชโองการให้มีการเลือกตั้ง..เพื่อให้ประชาชนเลือกผู้แทนราษฏร์ของเขาขึ้นมาเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาลหาตัวนายกรัฐมนตรี..
ก็เป็นหน้าที่ของรัฐ..ที่จะต้องจัดการให้เป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด
ก็เป็นหน้าที่ของ..กรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องทำให้ภาระหน้าที่อันเป็นที่มาของคณะกรรมการการเลือกตั้งสำเรน็จลุล่วงไป
ไม่ใช่หน้าที่ของผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..
พรรคการเมือง..ที่ไม่ส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..ก็เท่ากับท่านปฏิเสธพระบรมราชโองการและยินยอมโดยสมัครใจ..ที่จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วม..
มีแต่พรรคการเมืองอันธพาลเท่านั้น..ที่ปฏิเสธการเลือกตั้งและพยายามบีบบังคับให้การเลือกตั้งให้เป้นไปตามที่พวกตนประสงค์..
หน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องพิจารณาว่า..ขบวนการขัดขวางการเลือกตั้งนั้น..มาจากที่ใด..และหากนำสืบได้ว่า..ผู้ขัดขวางการเลือกตั้งก็คือพรรคการเมืองที่ไม่ส่งคนลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..หรือเคยเป็นหรือเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นก่อนหน้า..
อำนาจตามที่มีอยู่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง..ย่อมจะต้องพิพากษาให้กับผู้ขัดขวางหรือพรรคการเมืองที่ไม่ส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..
ไม่ว่าจะสั่งยุบพรรคห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองแบบมีกำหนดเวลา..หรือโทษอื่นใดตามที่กฏหมายให้อำนาจไว้..
แต่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง..จะทำไม่ได้อย่างเด็ดขาดก็คือการสนับสนุนพรรคที่ปฏิเสธการเลือกตั้งอันเป็นพระบรมราชโองการ..หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ..
หากว่า..พรรคเพื่อไทย..จะปฏิเสธการเลือกตั้งและกระทำการอย่างเดียวกับที่พรรคการเมืองบางพรรคทำหรือนำสืบได้ว่าการขัดขวางดังกล่าวมาจากพฤติกรรมของคนเคยสังกัดพรรคดังกล่าว
ก็เชื่อว่า..การเลือกตั้งคงไม่เป็นโมฆะและพรรคเพื่อไทยจะได้รับโทษถึงขั่นยุบพรรค..ก็เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบนแผ่นดินใด..หายนะก็กำลังบังเกิดขึ้นบนแผ่นดินนั้น
ที่มา.บางกอกทูเดย์
--------------------------------------------------
เหมือนการแข่งขันชกมวย..หรือการแข่งขันกีฬาทุกชนิดหากคู่ต่อสู้ปฏิเสธการต่อสู้..ผู้ยืนอยู่และพร้อมสำหรับการต่อสู้ก็คือผู้ชนะ
การเลือกตั้งไม่น่าจะแตกต่างไปจากนี้..
เมื่อมีพระบรมราชโองการให้มีการเลือกตั้ง..เพื่อให้ประชาชนเลือกผู้แทนราษฏร์ของเขาขึ้นมาเพื่อไปจัดตั้งรัฐบาลหาตัวนายกรัฐมนตรี..
ก็เป็นหน้าที่ของรัฐ..ที่จะต้องจัดการให้เป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด
ก็เป็นหน้าที่ของ..กรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องทำให้ภาระหน้าที่อันเป็นที่มาของคณะกรรมการการเลือกตั้งสำเรน็จลุล่วงไป
ไม่ใช่หน้าที่ของผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..
พรรคการเมือง..ที่ไม่ส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..ก็เท่ากับท่านปฏิเสธพระบรมราชโองการและยินยอมโดยสมัครใจ..ที่จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วม..
มีแต่พรรคการเมืองอันธพาลเท่านั้น..ที่ปฏิเสธการเลือกตั้งและพยายามบีบบังคับให้การเลือกตั้งให้เป้นไปตามที่พวกตนประสงค์..
หน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้งที่จะต้องพิจารณาว่า..ขบวนการขัดขวางการเลือกตั้งนั้น..มาจากที่ใด..และหากนำสืบได้ว่า..ผู้ขัดขวางการเลือกตั้งก็คือพรรคการเมืองที่ไม่ส่งคนลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..หรือเคยเป็นหรือเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นก่อนหน้า..
อำนาจตามที่มีอยู่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง..ย่อมจะต้องพิพากษาให้กับผู้ขัดขวางหรือพรรคการเมืองที่ไม่ส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง..
ไม่ว่าจะสั่งยุบพรรคห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองแบบมีกำหนดเวลา..หรือโทษอื่นใดตามที่กฏหมายให้อำนาจไว้..
แต่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง..จะทำไม่ได้อย่างเด็ดขาดก็คือการสนับสนุนพรรคที่ปฏิเสธการเลือกตั้งอันเป็นพระบรมราชโองการ..หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ..
หากว่า..พรรคเพื่อไทย..จะปฏิเสธการเลือกตั้งและกระทำการอย่างเดียวกับที่พรรคการเมืองบางพรรคทำหรือนำสืบได้ว่าการขัดขวางดังกล่าวมาจากพฤติกรรมของคนเคยสังกัดพรรคดังกล่าว
ก็เชื่อว่า..การเลือกตั้งคงไม่เป็นโมฆะและพรรคเพื่อไทยจะได้รับโทษถึงขั่นยุบพรรค..ก็เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบนแผ่นดินใด..หายนะก็กำลังบังเกิดขึ้นบนแผ่นดินนั้น
ที่มา.บางกอกทูเดย์
--------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น