ขณะไปเป็นประธานในพิธีเปิดอนุสาวรีย์ "พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา" ที่ค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้มองเห็นป้ายข้อความแกะสลักใต้ฐานอนุสาวรีย์ ซึ่งอ้างอิงมาจากคำพูดของ พล.กฤษณ์ ที่ระบุว่า
"ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา"
จากนั้น จึงพูดกับนายทหารที่มาร่วมงานว่า "ต้องบอก ผบ.ทบ. ให้มาอ่านตรงนี้"
ผู้คนต่างตีความแตกต่างกันออกไปถึง คำพูดล่าสุดของ "ป๋าเปรม"
บางคนเห็นว่ามีนัยยะสำคัญทางการเมือง ในบริบทที่รัฐบาลเพื่อไทยกำลังถูกโยกคลอนอย่างหนักจากกลุ่มกปปส. เรื่อยมาจนถึงกระบวนการทำงานต่อเนื่องของบรรดาองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
บางคนเห็นว่า"ป๋า"แค่พูดแซวเล่นๆไม่มีนัยยะทางการเมืองลึกซึ้งอะไร
ขณะที่ "พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง" แม่ทัพภาคที่ 2 ก็แปลงสาส์นให้ "ป๋าเปรม" เสร็จสรรพว่า ป๋าท่านเรียกให้ "ผบก.จทบ.สกลนคร" มาดูป้ายข้อความ ไม่ใช่"ผบ.ทบ."
แต่พร้อมๆ กับที่ "สาส์น" ของท่านแม่ทัพถูกเผยแพร่มายังสื่อมวลชน "คลิป" ที่นักข่าวถ่ายทำไว้ก็เดินทางมาถึงกองบรรณาธิการในกทม.เช่นกัน
และ "ป๋าเปรม" ในคลิป ก็พูดเสียงดังฟังชัดว่า "ต้องบอก ผบ.ทบ. ให้มาอ่านตรงนี้"
พ้นไปจากการแปลความคำพูดของประธานองคมนตรี ผู้เป็น "ทหารแก่ที่ไม่มีวันตาย"
คนยุคนี้จำนวนมากอาจไม่รู้แล้วว่า "พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา" ที่ พล.อ.เปรม ไปเป็นประธานเปิดอนุสาวรีย์ให้
รวมทั้งยังเป็นเจ้าของ "วรรคทอง" ที่ป๋าอยากให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ได้มาอ่าน นั้นคือใคร? และมีความสำคัญอย่างไร?

พล.อ.กฤษณ์เป็นอดีตผบ.ทบ.และเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ "ป๋าเปรม"
ถือเป็น "ทหารการเมือง" คนสำคัญอีกรายหนึ่ง ในช่วงทศวรรษ 2510
ในยุคที่ข้าราชการประจำสามารถควบตำแหน่งข้าราชการเมืองได้
นายทหารใหญ่อย่างพล.อ.กฤษณ์จึงเคยดำรงตำแหน่งมาแล้วทั้งรมช.ศึกษาธิการ, รมช.กลาโหม, รมว.อุตสาหกรรม ในรัฐบาล "จอมพลถนอม กิตติขจร" และสมาชิกวุฒิสภาพแบบแต่งตั้ง
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่กลุ่ม "ถนอม-ประภาส-ณรงค์" กระเด็นหลุดวงโคจรอำนาจ
พล.อ.กฤษณ์ ซึ่งกลายเป็นตัวแทนของ "ทหารการเมือง" อีกขั้วหนึ่ง จึงได้รักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด อีกหนึ่งตำแหน่ง
ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2557
ต่อมา พล.อ.กฤษณ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ในรัฐบาล "ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช"
ทว่าหลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นาน นายทหารท่านนี้ก็ถึงแก่อสัญกรรมอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2519
สาเหตุของการถึงแก่อสัญกรรมยังเป็นที่สงสัยกัน ตั้งแต่ช่วงเวลานั้นมาจนถึงปัจจุบัน
เพราะก่อนหน้าการเสียชีวิต พล.อ.กฤษณ์ ก็แค่เดินทางไปเล่น "กอล์ฟ" และทาน"ข้าวเหนียวมะม่วง" เท่านั้นเอง
ไม่กี่เดือนถัดมา หลังจาก พล.อ.กฤษณ์ ถึงแก่อสัญกรรม
"จอมพลถนอม กิตติขจร" ที่เดินทางออกนอกประเทศไปหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ก็เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ผ่านการบวชเป็นสามเณรที่สิงคโปร์ และเข้ามาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบวรนิเวศวิหาร
อีกไม่นานนัก เหตุการสังหารหมู่ 6 ตุลาคม 2519 ก็อุบัติขึ้น
ที่มา.มติชน
///////////////////////////
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้มองเห็นป้ายข้อความแกะสลักใต้ฐานอนุสาวรีย์ ซึ่งอ้างอิงมาจากคำพูดของ พล.กฤษณ์ ที่ระบุว่า
"ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง ที่ประชาชนคนไทยหวังเป็นที่พึ่งขั้นสุดท้ายของเขา"
จากนั้น จึงพูดกับนายทหารที่มาร่วมงานว่า "ต้องบอก ผบ.ทบ. ให้มาอ่านตรงนี้"
ผู้คนต่างตีความแตกต่างกันออกไปถึง คำพูดล่าสุดของ "ป๋าเปรม"
บางคนเห็นว่ามีนัยยะสำคัญทางการเมือง ในบริบทที่รัฐบาลเพื่อไทยกำลังถูกโยกคลอนอย่างหนักจากกลุ่มกปปส. เรื่อยมาจนถึงกระบวนการทำงานต่อเนื่องของบรรดาองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
บางคนเห็นว่า"ป๋า"แค่พูดแซวเล่นๆไม่มีนัยยะทางการเมืองลึกซึ้งอะไร
ขณะที่ "พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง" แม่ทัพภาคที่ 2 ก็แปลงสาส์นให้ "ป๋าเปรม" เสร็จสรรพว่า ป๋าท่านเรียกให้ "ผบก.จทบ.สกลนคร" มาดูป้ายข้อความ ไม่ใช่"ผบ.ทบ."
แต่พร้อมๆ กับที่ "สาส์น" ของท่านแม่ทัพถูกเผยแพร่มายังสื่อมวลชน "คลิป" ที่นักข่าวถ่ายทำไว้ก็เดินทางมาถึงกองบรรณาธิการในกทม.เช่นกัน
และ "ป๋าเปรม" ในคลิป ก็พูดเสียงดังฟังชัดว่า "ต้องบอก ผบ.ทบ. ให้มาอ่านตรงนี้"
พ้นไปจากการแปลความคำพูดของประธานองคมนตรี ผู้เป็น "ทหารแก่ที่ไม่มีวันตาย"
คนยุคนี้จำนวนมากอาจไม่รู้แล้วว่า "พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา" ที่ พล.อ.เปรม ไปเป็นประธานเปิดอนุสาวรีย์ให้
รวมทั้งยังเป็นเจ้าของ "วรรคทอง" ที่ป๋าอยากให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ได้มาอ่าน นั้นคือใคร? และมีความสำคัญอย่างไร?
พล.อ.กฤษณ์เป็นอดีตผบ.ทบ.และเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ "ป๋าเปรม"
ถือเป็น "ทหารการเมือง" คนสำคัญอีกรายหนึ่ง ในช่วงทศวรรษ 2510
ในยุคที่ข้าราชการประจำสามารถควบตำแหน่งข้าราชการเมืองได้
นายทหารใหญ่อย่างพล.อ.กฤษณ์จึงเคยดำรงตำแหน่งมาแล้วทั้งรมช.ศึกษาธิการ, รมช.กลาโหม, รมว.อุตสาหกรรม ในรัฐบาล "จอมพลถนอม กิตติขจร" และสมาชิกวุฒิสภาพแบบแต่งตั้ง
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่กลุ่ม "ถนอม-ประภาส-ณรงค์" กระเด็นหลุดวงโคจรอำนาจ
พล.อ.กฤษณ์ ซึ่งกลายเป็นตัวแทนของ "ทหารการเมือง" อีกขั้วหนึ่ง จึงได้รักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด อีกหนึ่งตำแหน่ง
ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2557
ต่อมา พล.อ.กฤษณ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ในรัฐบาล "ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช"
ทว่าหลังจากรับตำแหน่งได้ไม่นาน นายทหารท่านนี้ก็ถึงแก่อสัญกรรมอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2519
สาเหตุของการถึงแก่อสัญกรรมยังเป็นที่สงสัยกัน ตั้งแต่ช่วงเวลานั้นมาจนถึงปัจจุบัน
เพราะก่อนหน้าการเสียชีวิต พล.อ.กฤษณ์ ก็แค่เดินทางไปเล่น "กอล์ฟ" และทาน"ข้าวเหนียวมะม่วง" เท่านั้นเอง
ไม่กี่เดือนถัดมา หลังจาก พล.อ.กฤษณ์ ถึงแก่อสัญกรรม
"จอมพลถนอม กิตติขจร" ที่เดินทางออกนอกประเทศไปหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ก็เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ผ่านการบวชเป็นสามเณรที่สิงคโปร์ และเข้ามาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบวรนิเวศวิหาร
อีกไม่นานนัก เหตุการสังหารหมู่ 6 ตุลาคม 2519 ก็อุบัติขึ้น
ที่มา.มติชน
///////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น