แจงได้รับเกียรติจากป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคนแรก ลั่นสงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพ ระบุเป็นตัวแปรสำคัญนำไปสู่ทูลเกล้าฯนายกฯม.7
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ฐานะรองประธานรัฐสภา กล่าวผ่านรายการทิศทางประเทศไทย ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิน ไนนท์ ทีวี ว่าถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด ฐานกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กรณีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มมาตราที่มาของส.ว. ตนเป็นคนแรก ทั้งนี้ยังไม่ตาย และสงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพ ทั้งนี้ตามระเบียบหากป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนการไต่สวนและมติชี้มูลความผิดมายังวุฒิสภาแล้ว ต้องมีการเปิดประชุมเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาลงมติถอดถอนภายใน 20 วันนับแต่วันที่รับเรื่อง และระหว่างที่ยังไม่มีสภา ต้องขอเปิดประชุมเป็นสมัยวิสามัญ ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นช่วงรอยต่อของการได้มาซึ่งสว.เลือกตั้งชุดใหม่ ดังนั้นอยากให้การพิจารณาเรื่องดังกล่าวชะลอออกไปจนกว่าที่จะมีส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ เพื่อป้องกันปัญหาความไม่เข้าใจข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถร้องขอให้เป็นเช่นนั้นได้ เพราะขึ้นอยู่กับวุฒิสภา และอาจจะใช้เวลาพิจารณาเพียง 30 - 40 วันเท่านั้น
นายนิคม กล่าวฝากไปยังส.ว.ชุดใหม่ ว่า หากเข้ามาทำหน้าที่ถือว่าจะเป็นการรับเผือกร้อน เพราะมีการพิจารณาถอดถอนบุคคลในตำแหน่งต่างๆ เช่น ตน, อดีต สส., สว. รวมถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนอยากให้ศึกษาข้อมูลข่าวสาร ในสิ่งที่ผิดและสิ่งที่ถูกจนให้เกิดการรรับรู้ และเมื่อสว.ใหม่เข้ามาแล้วจะเกิดเงื่อนไขใดๆ หรือไม่ตนไม่สามารถรับรองได้ เช่น ความพยายามไม่รับรองผลการเลือกตั้งสว. หรืออาจเกิดข้อโต้แย้งว่าสว.เลือกตั้งที่เข้ามาใหม่ ไม่สามารถปฏิญาณตนในการประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ระบุไว้ ให้มีการพิจารณาถอดถอน โดยไม่นับจำนวน ส.ว.ที่ถูกพิจารณาโดย ป.ป.ช. หรือถูกชี้มูลโดยป.ป.ช. และเหลือเพียงสว.สรรหาและสว.เลือกตั้งอีกเพียงไม่กี่คน
นายนิคม ประเมินด้วยว่า เหตุที่ตกเป็นเป้าทางการเมือง เพราะตำแหน่งประธานวุฒิสภาของส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการหรือเป้าหมายที่บางฝ่ายต้องการอาทิ การถอนถอน นายกรัฐมนตรี, การถอดถอนอดีตส.ส. ,ส.ว. และการทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
-------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น