--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

ช่างแม่มัน.. ของทักษิณ อาจไม่ใช่ Let it be ของ The Beatles !!?

เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาในวันที่ 14 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร้องเพลง “Let it be” ที่เวทีลานศูนย์วัฒนธรรมเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โดยแปลชื่อเพลงดังกล่าวว่า “ช่างแม่มัน” โดยได้รับเสียงเชียร์จากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยกพลไปต้อนรับอย่างหนาแน่น (แม้จะร้องเพลงเสียงเพี้ยนมากๆ) โดยเฉพาะเมื่อจบท่อนสุดท้ายที่ว่า “ถ้าใครจะขวางปรองดอง ช่างแม่มัน พรรคไหนขวางแก้รัฐธรรมนูญ ช่างแม่มัน” ได้รับเสียงปรบมือกันเกลียวกราว



เพลง Let it Be เป็นเพลงจากสตูดิโออัลบั้มสุดท้ายจาก “คณะสี่เต่าทอง” The Beatles ซึ่งเป็นชื่ออัลบั้มด้วย ในช่วงการทำอัลบั้มดังกล่าวดูเหมือนว่าจะเกิดความขัดแย้งในบรรดาสมาชิกของวง โดยเฉพาะบทบาทของ โยโกะ โอโนะ ภรรยาของจอห์น เลนนอน ที่มีส่วนทำให้สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนแย่ลง เพลงนี้ถูกร้องนำโดย พอล แมคคาร์ทนีย์ มือเบสและนักร้องนำของวง โดยการประพันธ์ร่วมกับของเขาและจอห์น เลนนอน ซิงเกิ้ลดังกล่าวถูกปล่อยออกมาในเดือนมีนาคม 1970



ที่มาของเพลงนี้คือ พอล ได้นอนฝันถึงคุณแม่ของเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น เขาได้เล่าปัญหาและความตึงเครียดต่างๆให้กับแม่เขาฟัง โดยแม่เขาพูดประโยคปลอบใจพอลว่า “It will be all right, just let it be.” ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นท่อนขึ้นของเพลงว่า

“When I find myself in times of trouble, Mother Mary comes to me
Speaking words of wisdom, let it be”

“ในยามที่ฉันรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ แม่ของฉัน(แมรี่) มักจะกล่าวกับฉันด้วยประโยคเตือนสติว่า…จงปล่อยวางมันไป ” เป็นคำแปลที่สะท้อนของการไม่ยึดติดกับสิ่งที่เผชิญและคอยกดดันตัวเองอยู่ (อัสนี – วสันต์ เคยได้แรงบันดาลใจจากเพลงนี้จนไปประพันธ์เป็นเพลง “ให้มันเป็นไป” โดยมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน) ทีนี้ลองมาฟังเนื้อหาเต็มๆของเพลง Let It Be กัน (ดูคำแปลจาก ลิงก์ ที่นี่) โดยขอคัดลอกเวอร์ชั่นจากบล็อก คุณ PuhAporlo จาก Exteen

When I find myself in times of trouble
เมื่อฉันค้นหาตัวเองในยามที่แสนยากเข็ญ
Mother mary comes to me
แม่แมรี่จะมาหาฉัน
Speaking words of wisdom, let it be.
พูดคำๆนึงที่แสนฉลาด “ปล่อยมันไป”
And in my hour of darkness
และในชั่วโมงที่มืดมิด
She is standing right in front of me
เธอยืนเคียงอยู่ข้างๆฉัน
Speaking words of wisdom, let it be.
พูดกับฉันคำนึงที่แสนจะฉลาด “ปล่อยมันไป”
Let it be, let it be.
ปล่อยมันไป ปล่อยมันไป
Whisper words of wisdom, let it be.
กระซิบถ้อยคำอันปราดเปรื่อง “ปล่อยมันไป”

And when the broken hearted people
เมื่อยามที่ผู้คนที่หัวใจร้าวราน
Living in the world agree,
มาพานพบในโลกที่ยอมรับกัน
There will be an answer, let it be.
พวกเขาจะพบคำตอบว่า “ปล่อยมันไป”
For though they may be parted there is
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแยกจากกัน
Still a chance that they will see
แต่ก็ยังมีโอกาศจะได้พบกันอีก
There will be an answer, let it be.
แล้วจะพบคำตอบว่า “ปล่อยมันไป”
Let it be, let it be. yeah
ปล่อยมันไป ปล่อยมันไป
There will be an answer, let it be.
แล้วจึงจะพบคำตอบว่า “ปล่อยมันไป”

And when the night is cloudy,
เมื่อยามที่ค่ำคืนปกคลุมด้วยเมฆทะมึน
There is still a light that shines on me,
จะยังคงมีแสงฉายอยู่บนตัวฉัน
Shine on until tomorrow, let it be.
ส่องสว่างตราบจนวันพรุ่งนี้ “ปล่อยมันไป”
I wake up to the sound of music
ฉันตื่นขึ้นมาพบกับเสียงเพลง
Mother mary comes to me
ท่านแม่แมรี่มาหาฉัน
Speaking words of wisdom, let it be.
พูดคำๆนึงที่ปราดเปรื่อง “ปล่อยมันไป”
Let it be, let it be.
ปล่อยมันไป
There will be an answer, let it be.
จึงจะได้พบคำตอบว่า “ปล่อยมันไป”
Let it be, let it be,
ปล่อยมันไป ปล่อยมันไป
Whisper words of wisdom, let it be.
กระซิบคำที่ปราดเปรื่อง “ปล่อยมันไป”

การที่ทักษิณกำลังบอกว่าจะต้อง “ช่างแม่มัน” นั้นมีนัยยะที่กำลังบอกว่า ในส่วนของตัวเขานั้นที่ได้รับผลกระทบจากการเมืองมาตลอดระยะเวลา 6 ปีจะปล่อยทุกอย่าง “ช่างแม่มัน” แล้วจะหันหน้ากลับไปปรองดอง โดยไม่แคร์ว่าใครจะมาขวางกระบวนการดังกล่าว แน่นอน!ทักษิณ กำลังจะพยายามลืมทุกๆสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเขา เพียงแต่ความหมายของ เพลง Let It be ของ The Beatles นั้นไม่ได้มีนัยยะแบบนั้นเท่าไหร่นัก เมื่อคนอื่นๆรอบตัวของทักษิณก็ไม่พร้อมที่จะช่างแม่มันไปด้วย ทั้งจากขั้วตรงข้ามและที่สำคัญขั้วเดีวกันที่เคยสนับสนุนโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไม่ได้ยึดติดกับตัวคุณทักษิณ ดังนั้น Let it be ในความหมายของคณะสี่เต่าทองยังแฝงนัยยะแห่งความรับผิดชอบและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรม ซึ่งต้องถามกลับไปยังคุณทักษิณว่าหากกระบวนการทั้งหมดย้อนกลับไปก่อน 19 กันยายน 2549 มีการยุบทิ้ง คตส. และให้ทักษิณกลับสู่กระบวนการยุติธรรมตามปรกติเขาจะยอมหรือไม่? หรือเขาจะเลือกในแนวทางปัจจุบันคือทุกๆอย่างผ่านไป และเขาจะไม่กลับไปสู่กระบวนการยุติธรรม อะไรที่เกิดแล้วก็ปล่อยมันไป และจะกลับบ้านแบบเท่ๆ



ไม่สามารถคาดเดาคำตอบได้ ได้แต่เปรยกับตัวเองเบาๆว่า “ช่างแม่มัน ให้มันเป็นไป และจงปล่อยวาง”

ที่มา.Siam Intelligence Unit

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น