--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

เพื่อไทย แพ้ย่อยยับเสียเก้าอี้ส.ส.-ชวด นายก อบจ.ปทุมฯ .

พรรคเพื่อไทยเสียหายย่อยยับเมื่อแพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 ปทุมธานี ให้กับคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ แถม ส.ส. ที่ลาออกไปชิงเก้าอี้นายก อบจ. ยังแพ้เลือกตั้งให้กับอดีตนายก อบจ. คนเก่าอย่างไม่เห็นฝุ่น “พร้อมพงศ์” อ้างประชาชนยังมีอารมณ์ค้างจากปัญหาน้ำท่วม “สุริยะใส-เทพไท” ประสานเสียงรัฐบาลขาลง เสื้อแดงเสื่อม “กรณ์” ดีใจปักธงพื้นที่เสื้อแดงสำเร็จ
++++++++++++
พรรคเพื่อไทยเสียท่าให้พรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 จังหวัดปทุมธานี
แทนว่าที่ร้อยตรีสุเมธ ฤทธาคนี ส.ส. เก่าของพรรคที่ลาออกไปลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อผลนับคะแนนออกมาปรากฏว่า นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย ได้ 24,119 คะแนน ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 27,981 คะแนน
คนใช้สิทธิน้อยแค่ 37%

นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง ระบุว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยมากเพียง 37% เท่านั้น ส่วนภาพรวมการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากไม่มีการร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งจะประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการโดยเร็ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงแสดงความยินดีกับผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ได้สะท้อนความนิยมตกต่ำของรัฐบาล เพราะมีคนมาใช้สิทธิน้อย

“ปัจจัยหนึ่งที่นำมาสู่ความพ่ายแพ้คือปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมา เพราะจากการลงพื้นที่หาเสียงพบว่าประชาชนยังมีอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ดีอยู่ เพราะไม่พอใจในการช่วยเหลือ ซึ่งพรรคจะนำผลการเลือกตั้งที่ออกไปปรับปรุงการทำงานต่อไป”

“ธิดา” โบ้ยไม่เกี่ยวเสื้อแดง
นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน กล่าววว่า การพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวกับกระแสคนเสื้อแดงลดลง เพราะการทำงานของพรรคและรัฐบาลไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง ในจังหวัดปทุมธานีมีคนเสื้อแดงอยู่หลายกลุ่ม การจะเลือกใครถือเป็นสิทธิ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณประชาชน เพราะพรรคไม่มี ส.ส. ในจังหวัดนี้มานานมากแล้ว ชัยชนะครั้งนี้เป็นเครื่องบ่งบอกว่ารัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยต้องปรับปรุงการทำงาน อย่างไรก็ตาม การที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิน้อยถือเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะแสดงให้เห็นว่าประชาชนเบื่อการเมือง
ปชป. ไม่หวังชนะที่เชียงใหม่

ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่ แทน น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงทางการเมืองตัดสิทธิทางการเมือง กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคกำลังคัดเลือกตัวบุคคล แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่นี้พรรคมีโอกาสน้อย เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาผู้สมัครของพรรคมีคะแนนตามหลังคู่แข่งอยู่มาก ต่างจากที่ปทุมธานีที่ห่างกันไม่มาก
“กรณ์” ดีใจปักธงถิ่นเสื้อแดง

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่มีผลต่อคะแนนในสภามากนัก แต่มีผลต่อการประเมินคะแนนนิยมของพรรคการเมืองได้อย่างน่าสนใจ มีบทเรียนให้กับทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ โดยเพื่อไทยได้รับบทเรียนสำคัญคือ อย่าดูถูกประชาชนด้วยการที่ให้ ส.ส. คนเดิมลาออกไปสมัครนายก อบจ. ทั้งที่เพิ่งได้รับเลือกมาได้แค่ 8 เดือน ทำเหมือนเป็นของเล่น และคะแนนเสียงเป็นของตาย และยังเป็นสัญญาณเตือนเพื่อไทยว่าอย่ามัวแต่หมกมุ่นแก้ปัญหาให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนละเลยการดูแลประชาชนที่เดือดร้อน และชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการปักธงในพื้นที่คนเสื้อแดงพื้นที่หนึ่ง และยอมรับว่าสภาพแวดล้อมเป็นใจต่อพรรคมากกว่าปรกติ จนทำให้พรรคเพื่อไทยต้องหน้าแตกในที่สุด
ชี้ 3 ปัจจัยทำเพื่อไทยแพ้

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้พรรคเพื่อไทยแพ้พรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ 3 ข้อคือ 1.ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเป็นคนนอกพื้นที่ ต่างกับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง 2.การบริหารงานของนโยบายของรัฐบาลนี้ผิดพลาด ทั้งที่เป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย แต่การช่วยเหลือประชาชนช่วงน้ำท่วมกลับล่าช้าและไม่ทั่วถึง แก้ไขปัญหาปากท้องก็ล้มเหลว ทำให้คนตกงานและสินค้าราคาแพง 3.ชาวบ้านเบื่อหน่ายการเลือกตั้ง ที่จู่ๆว่าที่ร้อยตรีสุเมธก็ลาออกจาก ส.ส. ไปลงเลือกตั้งนายก อบจ. เพราะหวังจะได้บริหารงบประมาณของตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านรับไม่ได้
ชี้ชัดเพื่อไทยขาลง

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวเช่นกันว่า ความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยมาจากปัจจัย 3 เรื่องคือ 1.การบริหารจัดการอุทกภัยล้มเหลว ทำให้พื้นที่เสียหายมากและเยียวยาล่าช้า 2.นโยบายล้มเหลวหลายเรื่องไม่เป็นจริงตามที่หาเสียงไว้ 3.การชิงบทบาทกันเองระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาจึงสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าเป็นขาลงของพรรคเพื่อไทย
เพื่อไทยแพ้อดีตนายก อบจ.

สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ซึ่งมีผู้สมัคร 5 คน ประกอบด้วย นายชาญ พวงเพ็ชร์ หมายเลข 1 (อดีตนายก อบจ.) ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ หมายเลข 2 นายสุพจน์ ศรีสุวรรณ หมายเลข 3 นายชานุ หอมหวน หมายเลข 4 และนายสมนึก สอนเนย หมายเลข 5

ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. นายชาญมีคะแนน 100,000 กว่าคะแนน นำว่าที่ร้อยตรีสุเมธที่ลาออกจาก ส.ส. มาลงสมัครชิงตำแหน่งกว่าครึ่ง เนื่องจากอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้มาเพียง 50,000 กว่าคะแนนเท่านั้น

ที่มา.หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น