--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

ปฏิกิริยาสังคมต่อกรณี นายกฯ เข้ารดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม !!?


ปฏิกิริยาของแต่ละบุคคล และกระแสสังคมต่อกรณี 'ยิ่งลักษณ์' เข้ารดน้ำขอพร'พล.อ.เปรม' เนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย

กระแสสังคมและบุคคลต่างๆที่มีความเห็นหลากหลายต่อการเตรียมคณะรัฐมนตรีเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อขอพรในโอกาสปีใหม่ไทย โดยมีความเห็นหลากหลายอย่างต่อเนื่อง

โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐมนตรีที่จะเข้าในครั้งนี้จะเป็นในส่วนของรองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพื่อเป็นการขอพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย และพล.อ.เปรม ถือเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ให้ความเคารพ ขออย่าโยงเป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งการเข้าพบในครั้งนี้ไม่ได้มีการหารือข้อราชการ หรือ เรื่องการเมือง และพร้อมที่จะรับคำแนะนำจากท่าน

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางไปพร้อมนายกรัฐมนตรี จะประกอบด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และตน ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงและนายชุมพล ศิลปอาชา ติดภารกิจ โดยจะเดินทางไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ในเวลา 14.00 น.

ทั้งนี้การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำคณะเข้าพบ พล.อ.เปรม จะทำให้ประชาชนสบายใจ และท่าที่ตรวจสอบปฏิกิริยาจากผู้นำเหล่าทัพ ตั้งแต่ระดับผบ.ส.ส.จนถึงผบ.เหล่าทัพ อย่างผบ.ทบ.ก็คุยกับตนตอนเดินทางลงภาคใต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าการที่นายกฯเข้ารดน้ำดำหัวพล.อ.เปรมเป็นเรื่องดี การแสดงความเคารพผู้ใหญ่เป็นภาพที่ดี เหล่าทัพไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงบางส่วนแสดงความไม่เห็นด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า คงมีบางส่วน แต่อยากให้คนเหล่านั้นมองภาพรวมของประเทศ ในการสร้างความปรองดอง เพราะหากบ้านเมืองเรายังแตกแยก จะสูญเสียความสามารถในการพัฒนา ส่วนฝ่ายอื่นที่ยังไม่เห็นด้วยก็คงต้องมีการทำความเข้าใจต่อไป

ด้านผู้นำฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า การที่ครม.จะรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ในโอกาสสงกรานต์เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่เกี่ยวข้องกับความปรองดอง เป็นการแสดงความเคารพ เพราะถ้าอยากแสดงความปรองดองต้องให้แกนนำเสื้อแดงไปขอขมา พล.อ.เปรมมากกว่า เช่น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตร นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ไปขอขมาได้ว่าสิ่งที่เคยกล่าวหา พล.อ.เปรม เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงจะเรียกว่าปรองดอง

แต่ถ้าเป็น ครม.เข้ารดน้ำดำหัวเป็นเรื่องของการทำตามประเพณี ถ้านายณัฐวุฒิเข้าไปและขอขมาในสิ่งที่เคยล่วงเกินก็จะได้เห็นว่าปรองดองจริงหรือไม่ แต่ถ้านายณัฐวุฒิไม่ไปก็จะยิ่งชัดเข้าไปใหญ่ว่า ในเมื่อ ครม.ว่างหมดแล้ว ทำไมนายณัฐวุฒิจะไม่ว่างอยู่คนเดียว สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร

ด้านผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เชื่อไม่มีนัยยะทางการเมืองที่ นายกรัฐมนตีจะนำคณะรัฐมนตรี เข้ารดน้ำขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยไม่มี 2 แกนนำนปช.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับ จตุพร พรหมพันธุ์ เข้าร่วมด้วย

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องดีที่ผู้ใหญ่ได้พบกัน แต่ใครจะรู้สึกอะไรก็ขอให้นึกถึงประเทศชาติในระยะยาว และความรู้สึกที่ดีต่อกันถือเป็นเรื่องดี ทั้งนี้ การทำให้คนจำนวนมากมีความเห็นเหมือนกันหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า "ทั้งผู้น้อยผู้ใหญ่ควรจะหันหน้าไปในทิศทางเดียวกันเพื่ออนาคตของประเทศ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครจะขอขมาใคร ประเด็นมันอยู่ที่ต้องเห็นว่าประเทศไทยต้องเห็นร่วมกันว่าเราจะจมปลักอยู่ กับความขัดแย้งไม่ได้"

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การที่นายกฯไป ท่านคิดไตร่ตรองแล้วและในยามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ท่านก็มีหน้าที่ทำทุกอย่าง ส่วนตนได้นำทหารไปรดน้ำ พล.อ.เปรม ด้วยความเคารพในตัวท่าน เพราะท่านเป็นรัฐบุรุษคนหนึ่ง ยามนี้อะไรที่ทำได้และเป็นสิ่งที่ดีก็ต้องทำ ถ้ากลัวคนค้านก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ส่วนจะมีการไปทำความเข้าใจหรือไม่นั้น เราต้องดูว่า คนไหนที่เราจะอธิบายได้และเขาเข้าใจก็อธิบายไป แต่บางคนอธิบายให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง ก็ตัดทิ้งไป เราก็รู้ว่าใครเป็นใคร ก็ดูเอา

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค​เพื่อ​ไทย เผยว่า ทางพรรค​เพื่อ​ไทย ​ได้รับ​โทรศัพท์ว่า ประชาชนรู้สึกสบายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ​และ ครม. ​ได้​เข้าพบ​ผู้​ใหญ่อย่าง พล.อ.​เปรม ​ทำ​ให้ประชาชนรู้สึกว่าบ้าน​เมืองกำลังมุ่ง​ไปสู่​ความปรองดองสมานฉันท์ ​และจะ​ทำ​ให้รัฐบาลมี​การประสานงานกับ​ผู้​ใหญ่ องค์กรต่างๆ ​ทำ​ให้ประชาชน​เกิด​ความ​เชื่อมั่น​ในรัฐบาลมากขึ้น ​ซึ่งถือ​เป็นนิมิตหมายที่ดี

อย่างไรก็ตามกระแสส่วนมากจากโลกออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คต่างเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกันตามความเห็นชอบของแต่ละบุคคล อย่างเช่นหนึ่งความเห็นจากเฟสบุ๊คที่มองว่า "การกลับกรอกของคำพูดบางคนที่อ้างอยากเห็นความปรองดอง แต่ธาตุแท้กลับไม่อยากปรองดอง ที่ทำเพื่อหวังช่วยใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น"

กระแสสังคมออนไลน์ส่วนมากยังติดใจกับคำพูดในอดีตของบางท่านที่เคยพูดไม่ดีถึง พล.อ.เปรม เมื่อครั้งปราศรัยบนเวที ทำให้เชื่อว่าการเข้าพบขอพร พล.อ.เปรม ครั้งนี้มีนัยยะซ่อนเร้นทางการเมืองมากกว่าหวังการปรองดองเพื่อชาติ

โดยส่วนมากมีเสียงวิจารณ์จากกลุ่มคนเสื้อแดงที่แสดงความไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนี้อย่างเด่นชัด

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น