--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

ประสานสังคม ต่างสี ฝ่าจุดเสื่อมสังคมไทย !!?

วิกฤติการเมืองขณะนี้ ต่างฝ่ายต่างมองหาแสงสว่างจากอุโมงค์ปลายทาง ซึ่งไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่ายังอีกยาวไกลขนาดไหน ในเรื่องดังกล่าวนี้ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ จัดการเสวนาเรื่อง “ปฏิรูปประเทศไทย : คิดไปไกลหรือไปได้จริง” โดย มีการเชิญตัวแทนจากไผ่ต่างกอ สังคมต่างสี มาร่วมหาแนวคิดเรื่องความปรองดองแบบอารยะสนทนา

ภายในงานนี้มีกลุ่มแกนนำทางการเมืองจากกลุ่มต่างๆ ทั้ง นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ตัวแทนแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายประพันธ์ คูณมี ตัวแทนแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พันธมิตร) และตัวแทนนักวิชาการ อย่างนายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน และ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอิสระ

นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในการเสวนาว่า ปัญหาของสังคมไทย มันมีรากฐานมาว่าไม่ว่าจะเป็นการปกครอง ในรูปแบบลักษณะใดก็ตาม ไม่ว่ายุคใดสมัยใด สิ่งหนึ่งที่ค่อยลงหลักปักฐานลงไปในสำนึกของคนไทยคือเสรีภาพ ขณะที่รูปแบบของประชาธิปไตย กลับเติบโตแบบบอนไซ ฉะนั้นในการปฏิรูปก็ควรปฏิรูปตั้งแต่หลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย คือประชาชน เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย แต่ในขณะนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยพัฒนาอะไรได้สำเร็จจริงๆสักครั้ง ทั้งที่มีการพูดเรื่องนี้มาเป็นสิบปี อำนาจอธิปไตยยังถูกแย่งชิงไปมาระหว่างกลุ่ม ทั้งฝ่ายทหารและนักการเมือง นอกจากนี้ ระบบการบริหารประเทศยังไม่มีความต่อเนื่อง พรรคการเมืองต่างๆ ที่เป็นตัวแทนประชาชน เมื่อได้ใครเลือกเข้ามากลับใช้อำนาจในการตักตวงผลประโยชน์เพื่อตนเอง และพวกพ้อง นำไปสู่การแทรกแซงของระบบทุนนิยม จึงทำให้เกิดปัญหาของสังคมในปัจจุบัน

จะว่าไประบบทุนนิยมเองมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันมีกลไกนำไปสู่การปฏิรูปได้หลายวิธีแล้วแต่จะทำ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับ ผู้บริหารเองด้วย..

ทั้งนี้ นายจรัล ยังกล่าวอีกว่า แนวทางการสร้างความปรองดองที่พยายามจะสร้างขึ้นในขณะนี้ เป็นการสร้างความปรองดอง แบบขาดองค์ความรู้และขาดความเข้าใจ เนื่องจากการปรองดองนั้น ไม่สามารถทำให้เกิดได้ทันทีด้วยกฎหมาย แต่ต้องใช้ระยะเวลาหลายปี ดังนั้น ทุกฝ่ายควรหันมายอมรับความจริงกันก่อนที่จะเริ่มกระบวนการปรองดอง

ขณะที่ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน กล่าวว่า หากคิดจะปฏิรูปเราต้องเอาประเทศชาติเป็นหลัก เราถึงจะได้แง่คิดที่ตรงกัน ปัญหา “ความจริง” เราต้องเอาความจริงมาคุยกัน แต่บ้านเมืองเราความจริงเป็นสิ่งที่หายากเราต้องตั้งโจทย์ให้ถูกต้อง

ปัจจุบันสังคมไทย รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกต้อง สาเหตุมาจาก การตั้งโจทย์ที่ผิดพลาดและการไม่ยอมรับความจริง ทั้งที่สิ่งเหล่านี้ เป็นก้าวแรกของการแก้ปัญหาสังคม ถ้ามองย้อนกลับ ปัญหาของ สังคมตอนนี้ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีการใช้อำนาจในการบริหาร ประเทศเพื่อตนและพวกพ้อง สังคมจะมีปัญหาหรือไม่ นอกจากนี้ การสร้างความปรองดองต้องอยู่บนความถูกต้อง และมีความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ให้กับสังคม!..การเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ทุกฝ่ายควรได้รับอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่เยียวยาเฉพาะพวกและฝ่ายของตน

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอิสระ เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยวันนี้เป็นปัญหาที่สะสมหมักหมม

ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้ เป็นเพราะเหตุปัจจัย 3 ส่วนที่ไม่สอดประสานจนเกิดปัญหาคือ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง โดยมีปัจจัยหลักที่เข้ามาทำให้เกิดปัญหาในทุกส่วน คือ ระบบทุนนิยม ซึ่งเข้ามาปรนเปรอในระบบราชการ ไม่ว่าจะทั้งในส่วนการเมือง หรือข้าราชการประจำ ตามด้วยกระบวนการดูดซึมภาษีมาต่อท่อน้ำเลี้ยงกลายเป็นกระบวนการคอร์รัปชั่น มโหฬาร

ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ได้คือ การล้างระบบของทั้ง 3 ส่วนแล้วใช้ประโยชน์ของประชาชนเป็นจุดเริ่มต้น การแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมด ของประเทศชาติได้ และวิธีการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติไม่จำเป็นต้องใช้การปฏิรูปเท่านั้น

สำหรับในด้านของเศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยสำคัญในการปฏิรูป เพราะถ้าเศรษฐกิจดีประชาชนท้องอิ่ม ปัญหาต่างๆ ก็ไม่เกิด อย่างด้านสังคมอาชญากรก็จะน้อยลง การคอร์รัปชั่นก็ไม่มี แต่ขณะนี้เศรษฐกิจ เราติดลบจากที่เคยเป็นอันดับต้นๆของอาเซียน แต่ตอนนี้เราล้าลงทุกที เพราะการเมืองที่เล่นเกมกันจนทำให้เศรษฐกิจเราขาดศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดโลก หรือแม้แต่ ตลาดในภูมิภาค ส่วนด้านสังคมตอนนี้เสื่อมโทรมมากโดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นความเสื่อมของประเทศอย่างเต็มระบบ ฉะนั้นแค่การปฏิรูปคงไม่พอ..

นายประพันธ์ คูณมี ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า คำว่าปฏิรูปประเทศไม่เพียงพอแล้ว เพราะปัญหาสะสมมานาน ต้องใช้คำว่า ปฏิวัติสังคมทุกมิติ โดยต้นตอของปัญหาคือ ผู้มีอำนาจทางการเมืองเห็นประชาชนเป็นเกมทางการเมืองประเทศไทยในขณะนี้ไม่มีการพัฒนาที่เดินหน้า แต่เป็นการเดินถอยหลัง โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่กระทั่งแผนการปรองดอง ไม่สามารถนำไปสู่การปฏิรูปประเทศได้เนื่องจากวิธีการแก้ปัญหาทั้งสองนั้น เป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้กับสังคมมากขึ้น เพราะจุดประสงค์ของการแก้ไขปัญหาเพื่อต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นผิด และการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเอง การแก้ปัญหาดังกล่าวจึงไม่ใช่การแก้เพื่อให้ประเทศชาติมีความก้าวหน้า

ในการเสวนาครั้งนี้มีอยู่บางประเด็นที่น่าสนใจคือไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการจากฝั่งไหน สีอะไร ต่างก็มีความคิดเห็นร่วมกันในเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นที่ถูกครอบงำจากกลุ่มทุน เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาในสังคมไทย ส่วนนักการเมืองในฐานะฝ่ายบริหารก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างจริงจังและมุ่งหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่า

ที่มา.สยามธุรกิจออนไลน์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น