--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555

นายกฯ ตัวจริง !!?

ทำเนียบรัฐบาล ณ เมืองดูไบ ออกมติ ครม.ส่งสัญญาณถึง “บ้านเลขที่ 111” เตรียมตัวเตรียมใจฟิตร่างกายให้พร้อมเพื่อการกระโดดเข้าเสียบเป็นเสนาบดีไม่เกินเดือนมิ.ย.-ก.ค.ปีนี้อย่างแน่นอน นัยว่าเพื่อช่วยอุ้มสม “ท่านนายกฯ น้องรัก” ให้กลับมาแข็งโป๊กเหมือนสมัยที่ “นายใหญ่” เคยรุ่งเรืองมาแล้วในอดีต ก็ขอให้บรรดาเจ้าของมุ้ง หัวหน้าก๊วน แต่งตัวรอการปรับ “ครม.ยิ่งลักษณ์ 3” หลังคุกการเมืองแตกในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้

แต่ขอเตือนให้ระวัง “วิกฤติตัวสำรอง” ที่กำลังลุ่มหลงในอำนาจรัฐ อาจจะดื้อไม่ยอมลุกจากเก้าอี้แต่โดยดี..เพราะหลังจากบ้านเลขที่ 111 กระโดดเสียบเป็นเจ้ากระทรวงแทนตัวสำรอง หากเคลียร์กันไม่ลงตัวย่อมเกิด “คลื่นใต้น้ำ” ตามมาภายในพรรคเพื่อไทย..ลำพังพรรคประชาธิปัตย์ชั่วโมงนี้ไม่สามารถระคายผิวรัฐบาล ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ “สนิมย่อมเกิดแต่เนื้อในตน” ปัญหาความแตกร้าวภายในพรรคเพื่อไทยเองต่างหาก จะเป็นตัวสั่นคลอน “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ให้ลงจาก อำนาจก่อนเวลาอันควร

ชั่วโมงนี้ “นายใหญ่” ไม่ต้องออกอาการเหนียมอายกันอีกต่อไปแล้ว หลังถูกโค่นอำนาจไปด้วยวิธีไม่ปกติ แต่ก็กลับมาชนะใจประชาชนอีกครั้ง จนนำพรรคเพื่อไทย มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา เข้าครอบครองอำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เมื่อทุกอย่าง เริ่มนิ่งก็ต้องรีบเดินหน้าร้องหา “ความปรองดอง” ของผู้คนภายในชาติ โดยให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อเป็นยันต์กันผีรัฐประหารและการต่อต้านจากม็อบข้างถนน

“นายกฯ ตัวจริง” เริ่มส่งสัญญาณให้ทุกฝ่ายยอมรับ “ความเป็นจริง” ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย สิ่งไหนดีควรเก็บรักษาเอาไว้ก็ไม่ต้องไปแตะ ส่วนสิ่งไหนที่เป็นปัญหากับการพัฒนาประเทศก็ต้องกล้าที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลง โดยโฟกัส ไปที่สถาบันตุลาการแบบเต็มหมัด เป็นหมู ที่ไม่กลัวน้ำร้อนอีกต่อไปแล้ว หลังจากพรรคที่ปั้นมากับมือถูก “ยุบทิ้ง” ไปถึงสองครั้งสองครา วันนี้ภาพพรรคเพื่อไทยไม่ต่าง จากพรรคพลังประชาชนหรือไทยรักไทยเดิมเลยแม้แต่น้อย แล้วยิ่ง “สารวัตรเหลิม” ออกมาคำรามผ่านสื่อว่าหากมีการจงใจยุบพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง จะเดินหน้าแก้เกมตุลาการด้วยการตั้ง “พรรคทักษิณ” ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

การส่งสารครั้งนี้ของ “นายกฯ ตัวจริง” จนเป็นประเด็นร้อนทำให้ศาลสถิตยุติธรรมแทบจะละลายเป็นขี้ผึ้งถูกไฟลน ก็ตรงที่ “นายใหญ่” ดันเผยไต๋เรื่องความพยายามจะเปลี่ยนแปลงอำนาจในฝ่ายตุลาการและองค์กรอิสระอย่าง “ศาลรัฐธรรมนูญ” โดยพยายามให้เหตุผลที่ว่า..ทุกส่วนของอำนาจในประเทศ ควรที่จะมีส่วนที่ยึดโยงกับประชาชนบ้าง..

การที่ “อดีตนายกฯ ผู้ยิ่งใหญ่” ได้ยิงตรงไปที่ศาลรัฐธรรมนูญในทำนองว่า เป็นองค์กรอิสระที่แต่งตั้งจากใครที่ไหนก็ไม่รู้ ตั้งมา 8-9 คน แล้วสามารถปลดนายกฯ ที่ประชาชนเลือกมา 10 กว่าล้านคนได้ง่ายๆ..มันควรที่จะเป็นอย่างนั้นหรือ??? สอดรับกับกรณี “สมัคร สุนทรเวช” ที่โดนสอยร่วงลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะดันไปแอบถือตะหลิว แล้วถูกองค์กรอิสระแห่งนี้เชือดแบบค้านสายตาคนดูทั้งประเทศ.. สื่อความหมายกันชัดๆ ว่าการแก้รัฐธรรมนูญเที่ยวนี้ จะต้องมีการยกเครื่องกันครั้งใหญ่ สำหรับองค์กรอิสระโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีศาลปกครองถูกหางเลข ไปด้วย

ส่วนการออกมาหยอกแรงๆ เรื่องการตั้งประธานศาลฎีกานั้นควรจะต้องมาขอการรับรองจากสภาด้วยหรือไม่??? ประเด็นนี้คงเป็นเพียงแค่หมากล่อ เพื่อข่มขู่ใคร บางคน?!?! แต่ธงของฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลนั้นก็คือ “แค้นนี้ ต้องชำระ”... ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจยุบทิ้งพรรคการเมืองไปแล้วตั้งหลายพรรค ก็คงถึงคราวที่องค์กรอิสระแห่งนี้จะรับรู้อารมณ์ของการถูกย้อนศรบ้างจะเป็น ไรไป???

ที่มา.สยามธุรกิจ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น