--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

เชื่อผู้นำชาติบรรลัย !!?

โดย : พระพยอม กัลยาโณ

ความเป็นห่วงของท่าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เรื่องการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ในวันตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ เพราะเชื่อว่าจำนวนมวลชนจะมีมากกว่าที่เคยชุมนุมมาและมีความเสี่ยงเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นได้

การแสดงความเป็นห่วงของท่าน พล.ต.อ.วรพงษ์ไม่ผิดกับประชาชนทั่วไปหรือคนส่วนใหญ่ที่เป็นห่วงว่าจะต้องเกิดความรุนแรง ถ้าทุกคนประกาศตรงกันว่าวันตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ขึ้นมา แต่ไม่มีใครพูดเลยว่าจะเป็นไปในทางสงบ สันติ มีแต่ว่าจะต้องเจอกัน ต้องห้ำหั่นกัน ต้องสู้กัน จะเอาชนะกัน ซึ่งหากเป็นแบบนี้คงยากต่อการที่จะไม่ให้มีการบาดเจ็บล้มตาย

เวลานี้เราเห็นว่าหลายคนหลุดอะไรต่ออะไรออกมากันอย่างชนิดที่เมามัน เวลาพูดเรียกว่าเกิดอารมณ์ของคนที่โห่ฮา ส่งเสริมให้นึกถึงคำอะไรที่ไม่น่าจะหลุดจะพลาดก็ออกมา เมื่อหลุดออกมาแล้วก็ไปเร้าจิต เร้าอารมณ์ เร้าใจ ให้ฝ่ายหนึ่งเกลียดชัง อีกฝ่ายหนึ่งชื่นชม ฝ่ายที่ชื่นชอบก็เชียร์ ช่วย เชื่อ และพอเชียร์ ช่วย เชื่อ ก็จะไปช่วยกันทำอะไร ไปช่วยกันให้บ้านเมืองสงบก็ดีไป ช่วย เชื่อ และทำตามผู้นำอย่างที่โบราณเราเคยได้ยินกันมาว่า “เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย” แต่คราวนี้อาตมาว่า “เชื่อผู้นำชาติจะบรรลัย”

เพราะแต่ละฝ่ายของการเป็นผู้นำมองดูท่าทีแล้วล้วนแต่หลุดอะไรออกมาแรงๆ แสลงต่ออีกฝ่ายหนึ่งทั้งคู่ จะเป็นม็อบไหนก็ตาม ไม่ได้หลุดออกมาให้อีกฝ่ายหนึ่งเย็นใจ สบายใจ แต่หลุดออกมาแล้วให้อีกฝ่ายหนึ่งคับแค้น หมองใจ สะเทือนใจ และไม่สบายใจ คนเราลองคับแค้น สะเทือนใจ ไม่สบายใจ ลองเดาทางดูซิว่าสิ่งที่เขาทำนั้นจะต้องทำกับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งสุขกายสบายใจ หรือให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องเดือดร้อนใจ และจะเดือดร้อนคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปด้วย เพราะเวลาพูดกันนั้นเขาเรียกว่าต่างคนต่างก็ “อารมณ์สยดสยอง”

อารมณ์สยดสยองในการหลุดคำต่างๆนานาออกมา หลายคนก็เอาไปยำต่อก็มี นักวิชาการ นักจัดรายการเอาไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อ และมีบางคนเติมเสริมใส่ให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้ รับทราบด้วยความขุ่นข้องหมองใจ ด้วยการอัดอั้นตันใจ แล้วก็ระบายอะไรต่ออะไรออกมา ซึ่งเป็นไปในทางที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นไปในทางที่ห้ำหั่นกันมากกว่า ตรงนี้แหละที่อยากบอกว่าน่าหวาดเสียว น่าหวาดหวั่น น่าเป็นห่วงอย่างที่นายตำรวจใหญ่ๆออกมาเป็นห่วง และความห่วงนี้สะทกสะท้านสะเทือนให้คนอื่นเหมือนกัน ขนาดตำรวจยังเป็นห่วง แล้วประชาชนจะหายห่วงกันได้ยังไง

ต่อจากนี้คงต้องเกิดอาการหวาดหวั่นพรั่นพรึง อกสั่นขวัญเสีย การทำมาหากินจะสะดุด เศรษฐกิจความเจริญคงเดินต่อไปได้ยาก ฟัง อ.สุขุม นวลสกุล ท่านพูดไว้ว่า พวกที่ทะเลาะกันทุกวันนี้ลองเหลียวไปดูชาวบ้านที่ทำมาหากินกันบ้างเถอะว่าเขาลำบาก อดอยากข้นแค้นกันอย่างไร ตั้งแต่เราทะเลาะกัน ท่านทั้งหลายทะเลาะกันมาชาวบ้านชาวช่องได้ทำมาหากินได้อย่างคล่องตัว คล่องปาก คล่องใจกันหรือไม่ มีแต่ความติดขัด การจราจรก็ติดขัด แล้วจะไปค้าไปขายได้อย่างไร

ขอให้เหลียวดูบ้าง ถ้าเหลียวดูแล้วเกิดฉุกคิดอะไรดีๆขึ้นมา เกิดโยนิโสมนสิการ เกิดวิจารณญาณ จะทำอะไรกับบ้านเมืองนี้ต่อไปยังไง ขอให้เหลียวดูคนที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการช่วงชิงแย่งอำนาจ ใครเป็นคนต้นเหตุก่อหวอดให้เกิดความเกลียดชัง แตกแยก จะเป็นคนใหม่ คนเก่า คนแก่ จะเป็นอำมาตย์ เป็นไพร่อะไรก็ตาม ขอให้เหลียวดูสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินที่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะ หาเรื่องกัน เขาอยู่อย่างไร เขาไม่ได้ออกไปด่าไปทะเลาะกับใคร แต่ต้องถูกขัดขวางการทำมากินไม่ราบรื่น แถมยังทำให้ต้องเสียโอกาสในการทำมาหากินอีก

มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายต้องกิน แล้วก็ต้องหากิน ใครที่ขัดขวางการทำมาหากิน จะให้เขาไปเป็นมิจฉาชีพประกอบอาชีพยังไง เขาทำมาหากินสุจริต แต่ท่านทั้งหลายมาทำให้เขาติดขัด ยังไงอาตมาต้องขอบิณฑบาตให้เหลียวดูความทุกข์ยากของคนอื่นบ้าง ดูผลกระทบที่คนอื่นได้รับจากที่ท่านเป็นต้นเหตุ ใครจะเป็นต้นเหตุก็ตาม ยังไงขอให้เหลียวดูแล้วก็สลดหดหู่ ถ้าจบกันได้ก็จบเถอะ เปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้ทำมาหากินอย่างราบรื่นเป็นปรกติ

เจริญพร
------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น