โดย.พญาไม้
ในประวัติศาสตร์โลก..เรื่องราวของสงครามกลางเมืองในสเปน..เป็นเรื่องหนึ่งซึ่งได้ถูกนำมาศึกษาตีแผ่..
ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่เป็นมหาอำนาจของโลก..แบบที่เรียกว่าจักรวรรดิสเปน..พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน...จะมีชาติที่เทียบเคียงได้ก็คืออังกฤษ..
ก่อนสงครามกลางเมืองสเปนกับคนสเปนก็เป็นเมืองน่าอยู่แผ่นดินที่มีทะเลล้อมอยู่ถึงสามด้านความสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน..ทำให้คนสเปนเป็นคนสนุกรื่นเริงมองโลกในส่วนของความรื่นรมย์และเป็นสุข..เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า..
แต่เมื่อถึงคราวแห่งความพินาศ..ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า..ชนเผ่าศาสนาและผู้นำทางการเมืองได้เริ่มแย่งชิงอำนาจซึ่งกันและกัน..
อำนาจมาจากที่ที่อำนาจจากไป..เมื่อสถาบันกษัตริย์สูญเสียความเข็มแข็ง..ประเทศจึงมีสหภาพมีคณะรักชาติเกิดขึ้น..ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับในกติกาเดิมอันเป็นหลักแล้วปักหลักมาเอาชนะคะคานกันด้วยกำลังประชากรและอาวุธ..
ทั้งสองฝ่ายต่างเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ..คนต่างชาติแบกอาวุธเข้ามาเป็นทหารอาสาสมัคร..ฮิตเล่อร์และมุสโสลินี..ซึ่งเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของเยอรมันและอิตาลี..ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่กับคณะรักชาติของนายพลฟรังโก..วีระบุรุษสงครามและผู้ปราบกบถ
ด้วยจำนวนนักรบหกแสนปืนใหญ่และเครื่องบินที่มากกว่า..ฟรันซิสโกฟรังโก..จึงเป็นผู้ชนะในสงคราม..หลังจากที่ชาวสเปนมากกว่าห้าแสนคนต้องล้มหายตายจาก..ให้กับสงครามแย่งอำนาจของสัตว์การเมืองทั้งหลาย
หลังชัยชนะ..ผู้ชนะได้จำคุกคนจำนวนมากและประหารศัตรูอีกมากกว่าสองหมื่นห้าพันคน..เพื่อขจัดเสี้ยนหนามแห่งอำนาจ..ชาวสเปนอีกหลายแสนคนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ..เพราะหวั่นหวาดกับภัยการเมือง..
กว่าสเปนจะเป็นประชาธิปไตยเช่นวันนี้..มีสถาบันกษัตริย์ที่จอมเผด็จการ..ฟื้นฟูขึ้นมา..แต่โลกไม่เคยลืม..ความทารุณโหดร้ายของสงครามกลางเมือง..
สเปน..มีขนาดประเทศ..ห้าแสนสี่พันเจ็ดร้อยแปดสิบสองตารางกิโลเมตร..ไทย..มีขนาดประเทศห้าแสนหนึ่งหมื่นสี่พันตารางกิโลเมตร..
แต่ไทยยังไม่เคยตายห้าแสนในสงครามกลางเมือง..
ที่มา.บางกอกทูเดย์
//////////////////////////////////////
ในประวัติศาสตร์โลก..เรื่องราวของสงครามกลางเมืองในสเปน..เป็นเรื่องหนึ่งซึ่งได้ถูกนำมาศึกษาตีแผ่..
ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่เป็นมหาอำนาจของโลก..แบบที่เรียกว่าจักรวรรดิสเปน..พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน...จะมีชาติที่เทียบเคียงได้ก็คืออังกฤษ..
ก่อนสงครามกลางเมืองสเปนกับคนสเปนก็เป็นเมืองน่าอยู่แผ่นดินที่มีทะเลล้อมอยู่ถึงสามด้านความสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน..ทำให้คนสเปนเป็นคนสนุกรื่นเริงมองโลกในส่วนของความรื่นรมย์และเป็นสุข..เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า..
แต่เมื่อถึงคราวแห่งความพินาศ..ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า..ชนเผ่าศาสนาและผู้นำทางการเมืองได้เริ่มแย่งชิงอำนาจซึ่งกันและกัน..
อำนาจมาจากที่ที่อำนาจจากไป..เมื่อสถาบันกษัตริย์สูญเสียความเข็มแข็ง..ประเทศจึงมีสหภาพมีคณะรักชาติเกิดขึ้น..ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับในกติกาเดิมอันเป็นหลักแล้วปักหลักมาเอาชนะคะคานกันด้วยกำลังประชากรและอาวุธ..
ทั้งสองฝ่ายต่างเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ..คนต่างชาติแบกอาวุธเข้ามาเป็นทหารอาสาสมัคร..ฮิตเล่อร์และมุสโสลินี..ซึ่งเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของเยอรมันและอิตาลี..ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่กับคณะรักชาติของนายพลฟรังโก..วีระบุรุษสงครามและผู้ปราบกบถ
ด้วยจำนวนนักรบหกแสนปืนใหญ่และเครื่องบินที่มากกว่า..ฟรันซิสโกฟรังโก..จึงเป็นผู้ชนะในสงคราม..หลังจากที่ชาวสเปนมากกว่าห้าแสนคนต้องล้มหายตายจาก..ให้กับสงครามแย่งอำนาจของสัตว์การเมืองทั้งหลาย
หลังชัยชนะ..ผู้ชนะได้จำคุกคนจำนวนมากและประหารศัตรูอีกมากกว่าสองหมื่นห้าพันคน..เพื่อขจัดเสี้ยนหนามแห่งอำนาจ..ชาวสเปนอีกหลายแสนคนต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ..เพราะหวั่นหวาดกับภัยการเมือง..
กว่าสเปนจะเป็นประชาธิปไตยเช่นวันนี้..มีสถาบันกษัตริย์ที่จอมเผด็จการ..ฟื้นฟูขึ้นมา..แต่โลกไม่เคยลืม..ความทารุณโหดร้ายของสงครามกลางเมือง..
สเปน..มีขนาดประเทศ..ห้าแสนสี่พันเจ็ดร้อยแปดสิบสองตารางกิโลเมตร..ไทย..มีขนาดประเทศห้าแสนหนึ่งหมื่นสี่พันตารางกิโลเมตร..
แต่ไทยยังไม่เคยตายห้าแสนในสงครามกลางเมือง..
ที่มา.บางกอกทูเดย์
//////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น