--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

ผบ.เหล่าทัพ นัดถกปิดเกม !!?

โดย.ศรุติ ศรุตา

สถานการณ์การเมืองต้นเดือนเมษายน เมื่อดูปัจจัยทางการเมืองแล้ว ดูจะร้อนยิ่งกว่าอุณหภูมิช่วงก่อนวันสงกรานต์กันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่า รักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินทางไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช. คดีปล่อยให้โครงการรับจำนำข้าวเดินต่อไปไม่ฟังเสียงเตือน แล้วเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง นั่นคือจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ร้อน ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ทุกขณะ

เดิมทีนั้นมีกระแสข่าวว่า รักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์จะไม่เดินทางไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ด้วยตนเอง ทำให้มีกระแสข่าวด้วยเช่นกันว่า หากไม่ไปชี้แจงด้วยตนเอง ป.ป.ช.จะ "ลุยไฟ" สรุปสำนวนแล้วชี้มูลคดีไม่เกินวันที่ 5 เมษายน แต่เมื่อมีการเดินทางไปชี้แจงแล้วก็เร็วไปที่ ป.ป.ช.จะรวบหัวรวบหางเอาในวันนั้น

แต่ในยุคนี้ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ ดูเอาแค่ตอนสรุปคดีแล้วมีชื่อรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โผล่มาเป็นผู้ถูกร้องในคดีจำนำข้าว หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 สัปดาห์ ก็เรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

ความจริงการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.จะไม่มีปัญหาอะไรเลย หากว่า ไม่มี "มวลชนคนเสื้อแดง" ที่เป็นฝ่ายที่อยู่เคียงข้างกับรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ นัดหมายการชุมนุมใหญ่ในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน

เช่นเดียวกับ กลุ่ม กปปส.ที่มี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ ก็นัดแกนนำ กปปส.จากทั่วประเทศมาชุมนุมกันที่สวนลุมพินีด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่า เมื่อแกนนำ กปปส.จากทั่วประเทศมาทั้งที ก็คงจะไม่มาแต่เพียงคนเดียวแน่ ย่อมต้องมีมวลชนติดสอยห้อยตามมาด้วย

หน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินแล้วว่า ลำพังการเดินทางมาชุมนุมของมวลชนคนละขั้ว ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้ากันอยู่แล้ว แต่หาก ป.ป.ช.ชี้มูลผิด และรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ "ความรุนแรง" น่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ

มีการประสานงานกับกลุ่ม กปปส.ให้หลีกเลี่ยงการปะทะ หรือการเผชิญหน้ากับกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง

ถ้ามีปัญหาจริง แล้ว กปปส.อยู่ในที่ตั้งที่สวนลุมพินีไม่ได้ ก็ให้สลายการชุมนุมเพื่อรักษาชีวิตมวลชน

โดยเฉพาะกรณีเกิดการจลาจลขึ้นมา

จากนั้นกองทัพก็คงจะต้องรอดูหัวจิตหัวใจของ ศอ.รส.ว่าจะเอายังไง หากเกิดจลาจลกันขึ้นมาจริงๆ และดูทรงแล้วบานปลายจนอาจควบคุมหรือพูดคุยกันดีๆ ไม่ได้ ศอ.รส.จะทำอย่างไร

คำตอบจาก ศอ.รส.จะเอาอย่างไรไม่อาจรับรู้ได้ เพราะจะต้องรอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน แต่สำหรับกองทัพนั้น หากเห็นว่า ศอ.รส. "เอาไม่อยู่" แล้ว ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะประกาศกฎอัยการศึก เพื่อเปิดทางให้ทหารออกมาควบคุมสถานการณ์

ก่อนที่จะไปสู่เหตุการณ์นั้น กระแสข่าวว่า ผบ.เหล่าทัพได้นัดหารือกันในวันสองวันนี้ เพื่อหาบทสรุปให้เร็วที่สุด ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายไปจนถึงการใช้ความรุนแรงของมวลชนทั้งสองฝ่าย

เพราะชัดเจนแล้วว่า ความ "แรง" ของ กปปส.นั้น ลดระดับลงมาแล้ว เช่นเดียวกับท่าทีของรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์

จากที่เคยบอกว่า ต้องลาออกสถานเดียว ต้องนายกฯ คนกลาง ต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป ให้ปฏิรูปการเมืองก่อน ก็ลดระดับไปอยู่ในจุดที่เรียกว่า พูดคุยกันได้ ภายใต้ "ตุ๊กตาทางออก" ที่ผู้คน 2-3 กลุ่ม ได้บทสรุปมาแล้ว

ในส่วนของรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็เริ่มมีท่าทีที่พร้อมรับทุกข้อเสนอ แม้กระทั่ง "ยอมเสียสละ" เพียงแต่ที่ผ่านมามักจะมีเสียงลึกลับกระซิบว่า "ทำแบบนั้นไม่ได้ แบบนี้ไม่ได้"

ส่วนเมื่อพูดถึงคดีความของตนซุ่มเสียงที่ออกมา จึงเทไปในทางที่ว่า "ต้องให้ความเป็นธรรม"

ปัญหามันก็เลยค้างคากันมาจนถึงวันนี้ !

แต่เมื่อสถานการณ์เดินมาจนถึงวันที่คดีความเกิดขึ้นแล้วจริง มองเห็นแนวโน้มความรุนแรงว่าจะเกิดขึ้นจริง และมองเห็นท่าทีของ ผบ.เหล่าทัพแล้วเช่นกันว่า "พร้อมเอาจริง" หนทางเดินของรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จึงถูกจำกัดให้เดินลำบากมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้เสียงเชียร์ให้สู้จะดังกระหึ่ม แต่คำถามของเหล่าทัพก็ดังก้องอยู่ในหัว

เพราะมันไม่ใช่การถามเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เป็นทุกครั้งที่ได้มีโอกาสพบปะกัน !

ต่างกันก็แค่หนักเบา แล้วแต่โอกาสเท่านั้น

น่าสนใจว่า หากวันสองวันนี้มีการประชุมถกสถานการณ์บ้านเมืองขึ้นจริง จะเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายก่อนที่สถานการณ์การเมืองจะเข้าสู่ภาวะปกติหรือไม่

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
-------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น