น้ำทะลักท่วมนิคม'บางปะอิน'สูงกว่า 1 เมตร คาดมูลค่าความเสียหายหนัก เหตุมีโรงงานไฮเทคระดับโลก สั่งป้อง'นวนคร-บางกะดี'เหตุติดกลุ่มเสี่ยง
แม้เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายพลเรือนจะพยายามป้องนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อย่างเต็มกำลังตลอด 2 วันที่ผ่านมาก็ตาม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทัดทานกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวอย่างรุนแรงทลายกำแพงดินทะลักเข้าไปในนิคมฯ เป็นแห่งที่ 4 แล้วเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยกระแสน้ำที่ได้ท่วมขังบริเวณรอบๆ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มปริมาณสูงขึ้นและไหลทะลักเข้าไปภายในนิคมฯ เมื่อกลางดึกวันที่ 14 ต.ค.บริเวณคันกั้นน้ำฝั่งตะวันออกกว้าง 5 เมตร จำนวน 2 จุด ทำให้น้ำท่วมทันทีสูง 1 เมตร จึงต้องตัดกระแสไฟฟ้าและใช้เครื่องปั่นไฟเพื่อส่องสว่างให้เจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ซ่อมรอยรั่ว ขณะที่เจ้าหน้าที่นิคมฯ และโรงงานต่างๆ ได้เร่งขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ออก
น้ำทะลักนิคมฯ บางปะอินจม
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ที่นิคมฯ บางปะอินน้ำได้ทะลักเข้าไปภายในนิคมฯ ด้านหน้าผ่านแนวคันดินที่พังทลายลงกว้างกว่า 40 เมตร ทางทิศใต้ 80 เมตร ทำให้มีน้ำท่วมขังกว่า 4 เมตร ส่วนน้ำบริเวณนอกนิคมฯ สูง 5.85 เมตร ล่าสุดได้นำดินและหินเข้ามาอุดรอยรั่วและเร่งซ่อมแซมรอยปริแนวเขื่อนกั้นน้ำด้านหลังนิคมฯ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมนิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค) น้ำเข้าท่วม 5 เมตร แต่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ยังไม่ยอมแพ้พยายามทำการกู้ อยู่ "ได้สั่งให้ทุกนิคมฯ ที่ถูกน้ำท่วมนำสารเคมีที่เป็นอันตรายไปเก็บไว้นอกนิคมฯ แล้ว มีเพียงบางส่วนที่ยังอยู่ในโรงงาน แต่ก็ได้ผนึกไว้แน่นหนา และนำไปเก็บบนชั้นดาดฟ้าจุดที่สูงสุด มั่นใจในความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนที่กรณีเจ้าของโรงงานชาวญี่ปุ่น ได้ใช้เทียนไขส่องสว่างขณะที่เข้าไปตรวจภายในโรงงานแล้วเกิดการทำปฏิกิริยากับสารละลายจำพวกกาวที่ใช้ในการพิมพ์ ที่เป็นวัตถุไวไฟจึงเกิดไฟลุกไหม้ แต่ก็ไม่ได้เสียหายใดๆ" นายณัฐพล กล่าว
ห่วงนวนคร-บางกะดีคิวต่อไป
นายณัฐพล กล่าวว่า นิคมฯ ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร และบางกะดี เนื่องจากนวนครอยู่ไม่ห่างจากนิคมฯ บางปะอิน และอยู่ในแนวน้ำไหลผ่าน ห่างจากแม่น้ำเพียง 7 กม. ซึ่งน้ำภายนอกนิคมฯ มีความสูงต่ำกว่าแนวสันเขื่อนเพียง 50 เซนติเมตร แต่ได้เสริมแนวคันดินเพิ่มอีก 50 เซนติเมตร ทำให้แนวคันดินกั้นน้ำมีความสูง 5 เมตร นิคมฯ แห่งนี้เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีโรงงาน 227 โรง มีการลงทุน 40,000 ล้านบาท และมีแรงงาน 120,000 คน
วรรณรัตน์สั่งปกป้อง
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2554 เวลา 18.30 น.น้ำได้เข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เต็มพื้นที่และบางจุดน้ำมีความสูง 2 เมตร ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พยายามป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามากขึ้น โดยจะเสริมคันดินให้แข็งแรงมากขึ้นด้วยการนำแผ่นเหล็กมาเสริม และนำกระสอบทรายมาเสริมอีกชั้น เชื่อว่าวิธีนี้จะป้องกันความแรงของแรงดันน้ำได้ และจะสูบน้ำออกจากนิคม
ทั้งนี้ นิคมบางปะอิน มีโรงงาน 90 แห่ง ในพื้นที่ 1,962 ไร่ มีมูลค่าลงทุน 60,000 ล้านบาท และการจ้างงาน 60,000 คน ส่วนใหญ่เป็นกิจการของนักลงทุนญี่ปุ่น 38.89% สหรัฐ 14.81% มาเลเซีย 12.96% เป็นต้น โดยกลุ่มที่มีการลงทุนสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องยนต์ เครื่องนุ่งห่ม
สำหรับนิคมบ้านหว้า (ไฮเทค) มีรอยรั่วของคันดินทิศใต้ 80 เมตร ซึ่งน้ำในนิคมฯ ไหลออกจากนิคมฯ ทางจุดนี้ก็จะปล่อยให้น้ำไหลออกไป และมีรอยรั่วของคันดินที่ทิศตะวันออก 40 เมตร ก็จะรอให้น้ำนิ่งแล้วใช้แผ่นเหล็กเข้าไปเสริมคันดินให้แข็งแรง และถ้าอุดรอยรั่วตรงนี้ได้ก็จะสูบน้ำออกจากนิคมฯ
ส่วนสวนอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ได้ประสานให้ผู้ประกอบการเสริมคันดินทั้ง 4 ด้าน ขึ้น 1.5 เมตร โดยได้ตรวจสอบทิศทางการไหลของน้ำพบว่ามีน้ำไหลจากทิศเหนือไปทิศใต้ ซึ่งเป็นน้ำจากพระนครศรีอยุธยาก็จะป้องกันส่วนที่ปะทะน้ำให้ดี เพราะน้ำจากเจ้าพระยายังมาไม่ถึง เพราะมีทางรถไฟกั้น สถานการณ์ปัจจุบันยังดูแลสวนอุตสาหกรรมโรจนะได้
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น