--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปากชักศึก

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

อ่านข่าวนายกษิต ภิรมย์ พูดในงานสัมมนา "ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เหตุการณ์ปกติ?"

ไม่น่าเชื่อแต่ละคำแต่ละประโยคจะออกจากคนเป็นรมว.การต่างประเทศ และอดีตทูตไทยประจำประเทศใหญ่ๆ

ไม่เพียงประกาศท้ารบตลอดแนวชายแดน ยังข่มขู่กัมพูชาด้วยว่าถ้ายังทำตัวเป็นเด็กเกเรก็มีแต่เจ็บตัวลูกเดียว

ยิ่งกว่านั้น รัฐมนตรีกษิต ยังกล่าวหารัสเซีย อินเดีย ฝรั่งเศส 3 ประเทศยักษ์ใหญ่ว่าอยู่เบื้องหลังสนับสนุนกัมพูชาเปิดศึกสู้รบกับไทย

แถมระบุเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม 21 ที่กัมพูชาใช้ยิงถล่มบ้านภูมิซรอลของไทยก็ได้มาจากสหรัฐ จีน และบัลแกเรีย

ส่วนได้มาวิธีใด ซื้อขายหรือได้มาฟรีๆ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล

ไม่รู้ว่าสติของอดีตทูตกษิต ยังดีอยู่หรือเปล่าถึงได้พูดออกมาอย่างนั้น

เพราะนอกจากเป็นการพูดจาโดยไม่มีหลักฐาน

ยังเสี่ยงต่อการทำให้สถานการณ์ที่เริ่มสงบเกิดปะทุรุนแรงขึ้นมาอีกรอบ

ความเสียหายจากศึกปะทะทหารไทยกับกัมพูชา

ประชาชนในพื้นที่เป็นฝ่ายรับเคราะห์ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ลูกเด็กเล็กแดง คนเฒ่าคนแก่ต้องวิ่งหลบลูกปืน ทิ้งบ้านช่องไปอยู่ในศูนย์อพยพ

ภาพเหล่านี้ไม่เป็นที่รับรู้ของรัฐมนตรีกษิต เลยหรืออย่างไร

ทั้งยังผิดวิสัยนักการทูตเก่า ที่ต้องยึดหลักแก้ไข ปัญหาขัดแย้งระหว่างประเทศด้วยวิธีการพูดจาภาษาดอกไม้ ไม่ใช่ภาษาม็อบคลั่งชาติ

ที่เอะอะก็เอาแต่ท้าตีท้าต่อย

ที่สำคัญเมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ก็ยังโทษข้าราชการ หาว่ากระทรวงการต่างประเทศเป็นแดนสนธยา ถูกครอบงำจากอดีตข้าราชการประจำและอดีตนักการเมือง

ไม่ยอมส่องกระจกดูตัวเองเลยว่า

ตั้งแต่เข้ามาทำงาน 2 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และมหาอำนาจอีกหลายประเทศ ดีขึ้นหรือเลวลงอย่างไร

มิตรรักษาไว้ไม่ได้ เก่งแต่เพาะศัตรู

แถมยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ได้อยากมาเป็นรัฐมนตรีแต่แรกเพราะอยู่บนเวทีพันธมิตรฯก็สนุกสนานดีอยู่แล้ว

ก็แล้วแต่ ถ้าคิดว่าการยึดทำเนียบ ยึดสนามบินเป็นเรื่องสนุกสนาน อาหารดี ดนตรีไพเราะ

เชิญลาออกไปร่วมด้วยตอนนี้ยังทัน

เพราะดูแล้วม็อบแถวๆ สะพานมัฆวานฯ ยังต้องการกำลังคนอีกมาก

และท่าทางจะไม่เลิกบ้าง่ายๆ

ที่มา.ข่าวสดรายวัน
////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น