--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มุมแดงแจงสี่เบี้ย ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา

รับกับสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างรุนแรงจนถึงขั้นปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา “ลูกไม้ใต้ต้น” ฉบับนี้ จึงขอนำเสนอ ส.ส.รุ่นเก๋าแห่งพรรคเพื่อไทย “พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ” ส.ส.นครราชสีมา ที่ยืนหยัดอยู่ในสภามากว่า 20 ปี ซึ่งท่านสวมหมวกอีกใบที่เกี่ยวข้องกับการทหารโดยตรงคือ ประธานกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร

>>ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา

“ปัญหาความขัดแย้งในเรื่องของชายแดนมันมีมานานแล้ว ไม่ใช่เฉพาะกัมพูชาอย่างเดียว แต่รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่การแบ่งปันเขตแดนในประเทศอื่น เช่น ลาว พม่า หรือมาเลเซีย เสร็จสิ้นไปหมดแล้ว จึงไม่พบความขัดแย้ง ในบริเวณนี้นัก ยกเว้นกัมพูชา ที่ยังมีพื้นที่ทับซ้อนหลายแห่งทั้งบนบกและในทะเล”

>>มูลเหตุของความขัดแย้ง

“สาเหตุหลักเนื่องจากทั้งไทยและ กัมพูชาเองต่างถือแผนที่กันคนละฉบับ จึงทำ ให้แนวเขตแดนไม่ตรงกัน ทำให้ต่างคนต่างถือ ว่าดินแดนในแผนที่เป็นของตัวเอง จนมีการ นำเรื่องเขาพระวิหารเข้าพิจารณาในศาลโลก ตั้งแต่ประมาณปี 2505 จึงทำให้เกิดปัญหามา เรื่อยๆ จนปัจจุบัน”

>>ความรุนแรง

ถึงขั้นปะทะกันในครั้งนี้“การเมืองในประเทศที่กำลังมีการ เคลื่อนไหวกันอยู่ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เกิดปัญหาความรุนแรงขึ้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายการยั่วยุประเทศเพื่อนบ้าน แม้จริงๆ แล้วไม่อยากจะมองเป็นอย่างนี้ อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นเลศนัย มีการแฝงประโยชน์จากกลุ่มการเมือง ก็มอง ได้อย่างชัดเจนว่า พี่น้องประชาชนที่มาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันทหารเขมรให้ออกจากพื้นที่ตามแผนที่ที่เรามี ซึ่งก็เท่ากับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเรา จึงทำ ให้รัฐบาลต้องออกอาการอย่างที่เราเห็น และทะเลาะกับกัมพูชาตามที่เป็นข่าว”

>>วิถีชีวิตชาวบ้านทั้งสองฝั่ง

ต่างพึ่งพากัน“เรื่องนี้แน่นอน เพราะถ้าใครไปเที่ยว เขาพระวิหาร ก็ต้องพักที่ฝั่งไทย แต่ที่ผ่าน มามันเป็นเรื่องของการปลุกเร้ากระแสคลั่ง ชาติของผู้นำชุมชน ผู้นำประชาชนบางกลุ่ม ที่ต้องการให้ประชาชนมองเห็นว่าที่ดินตรง นี้เป็นที่ดินของไทย ซึ่งถ้าไม่มีข้อพิพาทคง ไม่เกิดเหตุอะไรขึ้น แล้วที่ผ่านมาเราก็ปล่อยปละละเลยกันมายาวนานมากจนกระทั่งมันไล่ไม่ออก เพราะฉะนั้น ต้องหาทางเจรจา หาข้อยุติโดยเร็ว”

>>หลายฝ่ายมองว่า

เป็นเรื่องของผลประโยชน์“ถ้ามองในมุมของผลประโยชน์ ก็อาจ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของการเมืองในประเทศ อาจมีการเบี่ยงเบนประเด็นของเรื่องบางเรื่อง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงประเด็น ให้ประชาชนสนใจในเรื่องการเมืองของไทย กับกัมพูชา ในเวลาเดียวกันก็อาจทำให้รัฐบาล ลอยตัวได้ในเรื่องของทุจริตคอร์รัปชั่น แต่อย่างไรก็ตาม คิดว่าวันนี้นี่ปัญหาหลักๆ คือ ปัญหาของเขตแดน และปัญหาของพระวิหาร ซึ่งศาลตัดสินไปแล้ว แต่มีคนกลุ่มหนึ่ง บอกว่า สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้ เพราะมีการสงวนสิทธิเอาไว้ แต่ว่ามันมีกำหนดระยะเวลาเอาไว้ ซึ่งมันเกินกำหนด ระยะเวลามานานแล้ว แต่เราก็เอากลับมา ฟื้นเรื่องนี้กันใหม่”

“ถามว่าทำได้ไหม ก็ต้องบอกว่าถ้าทำ ได้ก็ดี แต่ยังไงก็ตาม ต้องเป็นแบบสันติวิธี แล้วไม่ให้เกิดการต่อสู้ขึ้น เพราะรบกันไม่มี อะไรดี มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีประโยชน์”

>>สิ่งที่รัฐบาลควรทำในขณะนี้

“รัฐบาลจำเป็นต้องเดินเกมด้วยการ ทูตอย่างเร่งด่วน เพราะการปะทะกันไม่ได้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งนอก จากจะเสียหายทั้งสองฝ่ายแล้ว ประชาชนยังเดือดร้อน ในขณะที่ประเทศชาติก็ลำบาก เพราะฉะนั้น การสู้รบกันจะไม่มีใครชนะ แต่จะทำให้เกิดความเสียหายมากมาย โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องเจอกันตลอด การปะทะกันก็เปรียบเสมือนลิ้นกับ ฟัน ถ้าจะต้องมาทะเลาะกันอยู่ทุกวันคงทำ ไม่ได้ ยิ่งถ้าแค่เสียงปืนดังแล้วยังปล่อยให้ อยู่อย่างนี้ มันก็ยังจะมีการปะทะเกิดขึ้นได้ อีก แล้วเมื่อหยุดปะทะแล้วไม่เจรจากันต่อ ก็มีโอกาสที่จะเกิดการปะทะกันได้อีก”

>>รัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไป

หลังการหยุดยิง“วันนี้ต้องให้คณะกรรมการปักปันเขต แดนหรือ JBC ซึ่งทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา เป็นคณะกรรมการร่วมอยู่ และให้ทั้งสองฝ่าย ตกลงร่วมกันอย่างรวดเร็วต่อเนื่องและทำ อย่างจริงจัง ซึ่งเดิมมีการประชุมกันมาหลาย ปีแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต่างคนต่าง หลีกเลี่ยงกันบ้าง ต่างฝ่ายต่างมีปัญหาบ้าง แล้วในที่สุดก็ไม่ได้ทำอย่างจริงจังต่อเนื่อง ที่สำคัญจำเป็นต้องมีคนกลางคอยไกล่เกลี่ย ซึ่งนี่แค่พื้นที่บนบกที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนเท่านั้น ยังมีปัญหาในเรื่องของพื้นที่บริเวณ เกาะกูด อ่าวไทยและหลักเขตที่ 78 อีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านี้มาก เพราะเป็นอาณาเขตพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งนี่เป็นแค่จุด เริ่มต้น”

>>การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

“เรื่องของเขตแดนพื้นที่ทับซ้อน หากต่างคนต่างเกี่ยงกันแบบนี้ คงปล่อยให้ เป็นต่อไปไม่ได้ คือถ้าเรามองจริงๆ หากตกลงกันไม่ได้ คงมาปั่นหัวปั่นก้อยไม่ได้ พอถึงเวลาจริงๆ จึงน่าใช้พื้นที่ทับซ้อนทำประโยชน์ร่วมกัน แต่ก็จะเกิดปัญหาตามมา อีกเพราะจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมเพราะถือว่าดินแดนเป็นของเรา แต่ความ จริง ณ วันนี้ ต่างประเทศก็ประกาศไปแล้วว่าดินแดนวัดแก้วสิกขาเป็นของเรา แต่อยู่ดีๆ มาบอกให้มาบูรณะร่วมกัน เก็บประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งถ้าทำได้ก็ดี เป็นเจ้าของทั้งสองประเทศ แต่เวลาเดียวกันกลุ่ม พี่น้องประชาชนจะยอมรับได้หรือไม่ รัฐบาลก็ลำบาก”

>>รัฐบาลถูกกดดันมวลชนรอบด้านในหลายเรื่อง

“แน่นอนตอนนี้รัฐบาลถูกกดดันจาก ทั้งมวลชนเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ถามว่า วันนี้รัฐบาลเปิดศึกหลายด้านคงไม่ไหว ในประเทศยังย่ำแย่ขนาดนี้ แล้วไปรบกับ เพื่อนบ้านอีกคงไม่ได้ ตอนนี้จึงดูเหมือนว่า รัฐบาลค่อนข้างคลอนแคลน แล้วจะเอาอะไร ไปต่อสู้กับข้าศึกศัตรู”

>>หลายฝ่ายมองว่าฮุนเซน

ฉวยโอกาสตอนรัฐบาลไทยอ่อนแอ“ทางกัมพูชาเขามีการดำเนิน กลยุทธ์และทางการทูตกันต่อเนื่องอยู่แล้ว กับประเทศไทย ซึ่งเขามองดูว่าวันนี้มันมีปัญหากันระหว่างไทยกับกัมพูชา เขาก็จะพยายามที่จะแก้ปัญหาการเมืองภายในของเขา ในการเรียกศรัทธาจากพี่น้องประชาชนในประเทศ ในเวลาเดียวกันเขา ก็รู้อยู่แล้วว่าการเมืองไทยเป็นอย่างไร แล้วไมตรีที่มีต่อกันกับรัฐบาลชุดนี้มีค่อนข้างน้อย ไม่ใช่เฉพาะรัฐมนตรีต่างประเทศ (กษิต ภิรมย์) เท่านั้น แต่ยังมีอย่างอื่นด้วย ทำให้เขามองว่า ประเทศไทยยังไม่เป็นมิตร ที่ดีต่อเขา”

“ประกอบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ของเขาประสบปัญหาค่อนข้างเยอะ แต่ก็ ได้รับการช่วยจากประเทศใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนามหรือจีน ทำให้เขามองว่าเขา มีหลัก มีแบ็กอัพ มีแหล่งที่จะสนับสนุนเขา เพราะฉะนั้น เราอย่าไปมองว่าเราจะเอา ชนะกัมพูชาได้ง่ายๆ เขามีแบ็กเยอะ ในขณะที่เราถูกโดดเดี่ยว เราจะทำเก่งคงไม่ได้ ตอนนี้คงไม่คุ้มแน่”

>>เรื่องการทูตของรัฐบาลนี้

ค่อนข้างล้มเหลว“หลายฝ่ายเห็นว่าเรื่องของการทูต การต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร กับรัฐบาลปัจจุบันต่างกันอย่างลิบลับ เพราะยุคของทักษิณเศรษฐกิจดี ประชาชนคนในชาติมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในช่วงที่มีปัญหาการเผาสถานทูตไทย ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในเรื่องของความเด็ดขาด การสั่งอพยพคนไทย การตัดสัมพันธ์ทางการทูต แต่ในยุครัฐบาลนี้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ค่อนข้างลำบาก เพราะบ้านเมืองระส่ำระสาย เศรษฐกิจไม่ดี การทหารก็มัวแต่อิงการ เมือง ห่วงแต่เรื่องของการเมือง จึงทำให้ความใส่ใจในเรื่องนี้น้อยลงไป เพราะฉะนั้น นายกฯ ต้องรีบดำเนินการโดยด่วนในการ นำคนไทยที่ติดคุกในกัมพูชาออกมาโดยเร็ว ที่สุด ซึ่งความจริงตั้งแต่วันถูกจับนายกฯ ต้องแสดงภาวะผู้นำก็ให้กัมพูชาปล่อยคนไทยออกมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว”

>>คนส่วนหนึ่งมองว่า

เราอาจเสียพื้นที่ทับซ้อน“เรื่องศาลโลกผมไม่แน่ใจ แต่เขาท้า ให้เราไปขึ้นศาลโลก ซึ่งผมคิดว่าเราคงไม่กล้าขึ้น เพราะขึ้นไปเราก็เจอตอแน่ เพราะประเทศหลักหนุนเขาทั้งนั้น”

>>เรื่องของศึกภายใน

ระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดง“เรื่องนี้คงยุติได้แต่ต้องใช้เวลาสักพัก ซึ่งตัวจักรสำคัญก็คือ คณะกรรมการปรองดองแห่งชาติ ซึ่งเขาก็ค่อยๆ ทำงาน แต่อาจเพราะรัฐให้ความสำคัญค่อนข้างน้อย เพราะมีเรื่องใหญ่ที่ต้องคอยรับมือมากกว่า”

>>การปฏิรูปการเมือง

“จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฏิรูปการ เมือง เพื่อให้เกิดจิตสำนึก ความรับผิดชอบ ไม่ใช่เกิดเหตุเพื่อชิงความได้เปรียบทาง การเมือง เช่นตัวอย่างที่เห็นอย่างชัดเจน ณ ปัจจุบัน อย่างการแบ่งเขตเลือกตั้งที่มุ่งหวังเอาเปรียบทางการเมืองโดยไม่คำนึง ถึงอะไร”

>>ความพร้อม

ในการเลือกตั้งครั้งหน้า“เรื่องของความพร้อมคิดว่าทุกคนคงพร้อมรับการเลือกตั้งตลอดเวลา แต่จะ ได้รับเลือกหรือไม่ ก็ต้องขึ้นกับพี่น้องประชาชน ซึ่งหากเลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเกินครึ่งก็ไม่น่าเป็นปัญหากับการตั้งรัฐบาล”

ครบถ้วนกระบวนความสำหรับมิติ ปัญหา “ไทย-กัมพูชา” ผ่านมิติมวยมุมแดง “พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ” ประธาน กมธ.ทหาร

ที่มา.สยามธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น