--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เส้นบรรจบพรมแดน และคำถามถึงความมั่นใจของรัฐบาลไทย กลัวทำไมกับสหประชาชาติ-ศาลโลก?

โดย สรกล อดุลยานนท์

ผมมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง

นาย ก.มีเพื่อนบ้านชื่อนาย ข.

ทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องที่ดิน 4.6 ตารางเมตรที่อยู่ระหว่างกลาง

นิดเดียวเมื่อเทียบกับพื้นที่บ้าน 1 ไร่ของนาย ก.และนาย ข.

เถียงกันอยู่นานหลายปีว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้

นาย ก.ก็อ้างว่ามีหลักฐานชัดเจน

ส่วนนาย ข.ก็เถียงว่าหลักฐานของเขาน่าเชื่อถือกว่า

เถียงกันไปเถียงกันมาจนทะเลาะและลงมือลงไม้กัน

สุดท้าย "นาย ข." บอกว่าจะนำเรื่องนี้ไปให้ "ผู้ใหญ่บ้าน" เป็น "คนกลาง" ในการเจรจา และถ้าความขัดแย้งยังไม่ยุติก็จะนำเรื่องฟ้องศาล

แต่นาย ก.ไม่ยอม บอกว่ายังไงก็ต้องคุยกัน 2 คน

ปัญหาของเรา 2 คน จะไปแจ้งความให้คนอื่นมายุ่งได้อย่างไร

น่าแปลกที่ นาย ก.ซึ่งอ้างตลอดว่ามีหลักฐานยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของเขา

ชัดเจนที่สุด ถูกต้องที่สุด สู้อย่างไรก็ต้องชนะ

แต่นาย ก.กลับท่องคาถา "ทวิภาคี" ตลอด ไม่ยอมให้ใครมาเป็น "คนกลาง"

ในขณะที่นาย ข.กลับเรียกหา "คนกลาง" และขู่ฟ้องศาลตลอด

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

มันน่าจะมีแค่ 2 สาเหตุ

สาเหตุแรก คือ นาย ข.ตัวเล็กกว่านาย ก. ขืนเจรจาแบบตัวต่อตัวต่อไป

โอกาสที่จะเจ็บตัวมีมากกว่า

การดึง "คนกลาง" เข้ามา จะช่วยให้เขาลดความเสียเปรียบลง

สาเหตุที่สอง นาย ข.ต้องมั่นใจใน "หลักฐาน" ของเขามากจึงกล้าให้คนอื่นมาร่วมตัดสิน

ซึ่งหาก นาย ก.มั่นใจในหลักฐานของตนเองเหมือนกับที่พูด

เขาก็ต้องไม่กลัวที่จะขึ้นศาล

แต่นาย ก. กลับท่องคาถา "ทวิภาคี" ตลอด

ปฏิเสธเรื่อง "คนกลาง" และการขึ้นศาล

ด้วย "ภาษาท่าทาง" ที่ นาย ก. แสดงออกมา

ใครๆ ก็อ่านออกว่าสิ่งที่พูด กับ "ความจริง" ที่อยู่ในใจ นาย ก.นั้นตรงข้ามกัน

เขาไม่ได้มั่นใจในหลักฐานเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์มา

ครับ ถ้าผมเป็นนาย ก. ที่ไม่มั่นใจในหลักฐานของตัวเอง

กลัวว่าขึ้นศาลเมื่อไร จะแพ้คดี และเสียที่ดิน 4.6 ตารางเมตรไป

ยุทธศาสตร์ที่ควรทำก็คือ อย่าไปเถียงว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของเรา

แต่ต้องบอกว่าเป็น "พื้นที่ทับซ้อน"
เปลี่ยนจาก "ของข้า-ของเอ็ง"
มาเป็น "ของเรา"
และใช้ความสัมพันธ์ที่ดี คุยกับนาย ข.ว่าเมื่อต่างคนต่างคิดว่าเป็นของตัวเอง

เถียงไปก็เหนื่อยเปล่าๆ

ที่ดินก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร

เรามาปลูกต้นไม้ เป็นกำแพงสีเขียวกั้นบ้านเรากันดีกว่า

ไม่ต้องสนใจว่าพื้นที่นี้เป็นของใคร แต่แน่ๆ ก็คือเราได้พื้นที่สีเขียวร่วมกัน

คนฉลาดควรจะทำอย่างนี้ไม่ใช่หรือ??

วันก่อน อ่านคอลัมน์ "เทศมองไทย" ใน "มติชนสุดสัปดาห์" เล่มใหม่ ผมชอบทรรศนะของนักการทูตอาวุโสคนหนึ่ง

เขาบอกว่า "เส้นเขตแดน" ไม่ควรจะหมายความว่าเส้น "แบ่ง" เขตแดนระหว่างประเทศหนึ่งกับอีกประเทศหนึ่ง

แต่ควรจะเป็นการ "บรรจบ" กันของเขตแดน

แม้จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่เมื่อใช้ "คำ" ที่แตกต่างกัน "ความรู้สึก" ก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน

ถ้าเราคิดแบ่ง ก็ต้องมีคนได้และคนเสีย

มีแต่ "ความทุกข์"
แต่ถ้าเราคิดจะหาเส้นที่บรรจบกัน

เราจะมีแต่ "ความสุข"
ครับ คนไทยโชคดีที่ได้ "อภิสิทธิ์" เป็นนายกฯ

จริงหรือ????

ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น