--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปชป.ชนะศึกชิงมือในสภา รับศึกมือที่ 3 ในม็อบ เหลือง-แดง

แล้วประชาธิปัตย์ก็ชนะ "ศึกใน" สภาผู้แทนราษฎร

ทั้งเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกมในคณะรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์อยู่ในฝ่ายได้เปรียบ

อยู่ในฐานะที่ประกาศ-ขีดเส้นวันเลือกตั้งได้ตามใจปรารถนา

ตรงกันข้ามกับพรรคร่วมรัฐบาล

ที่อยู่ในฐานะไม่แน่นอน

ตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทย-ฝ่ายค้าน ที่อยู่ในฐานะไม่พร้อม

อย่างน้อยพรรคเพื่อไทยต้องได้โหมโรงอภิปรายไม่ไว้วางใจ และได้ความชัดเจนเรื่อง "แหล่งทุน" ที่ยังคลุมเครือจาก 2 ท่อเสียก่อน

อย่างน้อยพรรคร่วมรัฐบาลต้องได้ "โฉนด" เขตเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข พร้อมกับเบี้ยยังชีพจากตารางงบประมาณรายจ่ายกลางปี 2554 วงเงิน 1 แสนล้านเสียก่อน

ตารางเลือกตั้งในใจของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่ถูกส่งสัญญาณออกมาจากปาก "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ว่าพร้อมที่สุดตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

ตามตารางใน-นอกสภาผู้แทนราษฎรที่ "สุเทพ-อภิสิทธิ์" ลงบัญชีไว้ เริ่มจากล็อกมือพรรคร่วมรัฐบาลและล็อกขาวุฒิสมาชิกให้ร่วมโหวตรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม วันที่ 11 กุมภาพันธ์

จากนั้นชุมนุมนับมือโหวตร่าง

พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2554 วงเงิน 1 แสนล้านบาท เตรียมพิจารณาวาระ 1 วันที่ 16 กุมภาพันธ์

ต่อด้วยการตั้งรับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

ถัดไปจนถึงกลางปีราวมิถุนายน อาจมีการเปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 วงเงิน 2.25

ล้านบาท

กรรมการบริหารพรรค

ประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จะผ่านแบบ "ไม่ยาก" ด้วยคะแนนที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดไม่น้อยกว่า 20 เสียง

แต่มีเงื่อนไข-ปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ระดับเลวร้ายที่สุด เป็นเงื่อนไขหลัก ที่จะทำให้การเลือกตั้งเกิดหรือดับ คือ "ม็อบสีส้ม" ที่ปะทะกันระหว่างม็อบเหลือง+ม็อบแดง และเกมป่วนของ "มือที่ 3"

การปูดข่าว "ปฏิวัติ-รัฐบาลแห่งชาติ" จึงเป็นช่องระบาย "ข่าวปล่อย" ให้แกนนำพรรคเพื่อไทย และ นปช.ได้ต่อลมหายใจ

การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และสนธิ ลิ้มทองกุล ด้วยเงื่อนไข 3 ข้อ จึงเป็นช่องทางที่จะทำให้พรรคการเมืองใหม่ได้แจ้งเกิด

การประกาศ "ทุบสถิติม็อบเสื้อเหลือง 193 วัน" แม้ไม่ใช่แคมเปญของพรรคการเมืองใหม่ แต่ไม่อาจแยกออกจากแนวร่วมพันธมิตร

การประกาศ "เราต้องการความยุติธรรมที่มีมาตรฐานเดียวและพาเพื่อนออกจากเรือนจำทั่วประเทศ..." ของเสื้อแดงที่จะเริ่มดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปก็ไม่อาจแยกออกจากแนวร่วมเพื่อไทย

รวมทั้งข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ นปช.ที่ถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และข้อเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบ 90 กว่าศพ

ยังไม่นับรวมอีกหลากหลายเป้าหมายที่ซ่อนในขบวนเสื้อแดง ทั้งต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน และแดงบางเฉดที่ต้องการให้ก้าวข้ามทักษิณ

ฉากเก่า ๆ ระหว่างเหลือง-แดงกำลังหมุนกลับมาฉายอีกครั้ง เมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล

ในขณะเดียวกัน เสื้อแดงที่นำโดยธิดา โตจิราการ และจตุพร

พรหมพันธุ์ ก็นัดชุมนุมเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อยในจังหวะทับซ้อนกัน

เป็นที่น่าสังเกตว่า การนัดเคลื่อนไหวครั้งนี้ แกนนำเสื้อแดง รีบชี้แจงต่อสู่มวลชนไว้แต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะอารมณ์เตลิดไปปะทะกับพันธมิตรฯ มิตรชั่วคราวในกระดานเวลานี้ โดยระบุท่าที่ต่อเสื้อเหลืองว่า คนเสื้อแดงต้องข้ามพ้นเสื้อเหลืองให้ได้

แม้ชนะศึกในสภาผู้แทนราษฎร แต่พรรคประชาธิปัตย์ ยังต้องตั้งรับ "ม็อบสีส้ม" ด้วยความระทึก

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น