จนถึงวันนี้ประชาชนทั้งประเทศก็ยังไม่สามารถได้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ด เพราะที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มกราคม ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ ทั้งที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เรียกกิจการร่วมค้าวีสมาร์ท ผู้ผลิตมาเจรจาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดปัญหาความล่าช้าขึ้น
ทั้งที่เมื่อปลายปี 2553 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีไอซีที ได้ยืนยันว่าปัญหาความขัดแย้งกับกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว และจะเร่งดำเนินการโดยเร็วตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ประชาชนได้ใช้งานบัตรโดยเร็วที่สุด ที่ผ่านมามติ ครม. ได้กำหนดให้กระทรวงมหาดไทยต้องเป็นผู้นำเข้า ครม. และคาดการณ์ว่าประชาชนจะได้ใช้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ขณะที่มีผู้ถือบัตรเหลืองล่าสุดกว่า 3 ล้านคน ซึ่งก่อนหน้านี้นายจุติเคยชี้แจงว่า มีปัญหาการทำบล็อกแผนที่ประเทศไทยเป็น 3 มิติ ซึ่งต้องใช้เวลา 30 วัน และต้องทำที่ต่างประเทศ หากบล็อกเสร็จจะใช้กระบวนการผลิตบัตรเพียง 30 วัน จากเดิม 45-60 วัน ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตยืนยันว่าบัตรรอบแรกจะสามารถทยอยส่งมาให้ก่อน 500,000-1 ล้านใบ
ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ร่วมกับกระทรวงไอซีที ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลการไม่เซ็นรับบัตร เพราะบัตรไม่ถูกต้องตามที่ตกลงกันไว้ แต่นายอภิสิทธิ์ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อแผ่นดินกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ระบุว่า หากสามารถตกลงกับผู้ผลิตได้ คาดว่าภายใน 1 เดือนน่าจะเรียบร้อย แต่หากเกิดความเสียหายจนกระทั่งไม่สามารถนำบัตรมาใช้ได้ ก็ต้องตรวจสอบดูอีกครั้งว่าเป็นความผิดของใคร และหากเกินเลยไปจากความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยจะต้องมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป
สรุปแล้วประชาชนยังไม่รู้ว่าจะต้องถือบัตรเหลืองแทนสมาร์ทการ์ดไปอีกนานแค่ไหน ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ก็รู้ดีว่าปํญหานี้เริ่มต้นจากความขัดแย้งของรัฐมนตรี 2 กระทรวง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์หรือการทุจริตคอร์รัปชันก็ตาม นายอภิสิทธิ์ก็ต้องไม่ปล่อยให้ปัญหานี้ยืดเยือมานานหลายเดือนเช่นนี้
ดังนั้น กรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จะนำเรื่องบัตรสมาร์ทการ์ดมาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีรายบุคคล โดยถือว่าเป็นความผิดของนายอภิสิทธิ์และ ครม. ทั้งคณะ เนื่องจาก ครม. มีมติให้กระทรวงมหาดไทยแก้กฎกระทรวงมหาดไทย เพื่อรองรับบัตรสมาร์ทการ์ดที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นมาแบบไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง เท่ากับว่า ครม. ร่วมกันฟอกสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง
แต่ผลเสียหายที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ใช่แค่รัฐบาลจะกระทำผิดกฎหมาย หรือมีการทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่เท่านั้น ยังทำให้ประชาชนหลายล้านคนขณะนี้เดือดร้อนในการทำธุรกรรมต่างๆอย่างมากด้วย
ที่มา. หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น