--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อย่าหน้ามึน !!????


ที่มา:ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน

ชัดเจนชนิดไม่ต้องมาถกเถียงกันอีกแล้วกับคำให้การของ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย จำเลยคดีความมั่นคงของกัมพูชา

นายศิวรักษ์ ให้การสารภาพกับศาลกัมพูชาว่า ส่งข้อมูลการบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา และที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน ให้กับนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ตามคำร้องขอ

เพียงแต่ไม่คิดว่าเป็นข้อมูลลับผิดกฎหมายอะไร

ซึ่งก็พ้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้ว่ามีการเตรียมเครื่องบินเอฟ 16 ไว้รอท่าล่าทักษิณกลางฟ้า

ที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่เคยออกมายอมรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ เพียงเลี่ยงบาลีว่าข้อมูลการบินไม่ใช่ความลับ

แต่ก็พูดไม่หมดว่าถึงไม่ได้ลับมากมายอะไร แต่ก็ไม่ใช่ข้อมูลที่จะนำมาเปิดเผย

ไม่เช่นนั้นอนาคตหากมีผู้นำประเทศอื่นๆ มาเยือนเมืองไทย เราก็สามารถเปิดเผยตารางบินให้สาธารณชนรับรู้ได้เช่นนั้นหรือ!??

หากวันหนึ่ง นายบารัก โอบามา มีกำหนดบินมาเยือนเมืองไทย แล้วเกิดมีประเทศอาหรับ หรือกลุ่มอัล ไคด้า อยากได้ข้อมูลตารางการบินของผู้นำสหรัฐ รัฐบาลไทยก็พร้อมน้อมส่งให้ใช่หรือไม่ เพราะไม่ถือว่าเป็นความลับ!??

แม้ไทยจะอ้างว่าตารางการบินไม่ใช่ความลับทางราชการ แต่กฎหมายความมั่นคงกัมพูชาจัดเป็นชั้นความลับ เพราะถือว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องอารักขาดูแลความปลอดภัย

คำถามจึงมีตามมาว่า นายคำรบ รู้หรือไม่ว่าการขอให้ส่งตารางการบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้นายศิวรักษ์ ละเมิดกฎหมายของกัมพูชา!??

ถ้าตอบว่ารู้ ก็ไม่ต้องมีคำถามอื่นตามมา เพราะเป็นการขอให้คนไทยทำผิดกฎหมายของประเทศเพื่อนบ้านชัดเจน

แต่ถ้าตอบว่าไม่รู้...คำถามต่อมาก็คือไม่รู้จริงๆ หรือ ทำเป็นไม่รู้กันแน่!??

หากไม่รู้จริงๆ ก็แสดงว่าบกพร่องต่อการทำหน้าที่อย่างแรง เพราะการดำรงตำแหน่งถึงเลขาฯทูต ย่อมต้องศึกษาขนบธรรมเนียม และตัวบทกฎหมายของประเทศที่ตนไปประจำอยู่

ยิ่งหากทำเป็นไม่รู้ ถือว่าร้ายแรงเข้าไปใหญ่

และจนทุกวันนี้ นายคำรบก็ยังเก็บตัวเงียบ จนแม่ของนายศิวรักษ์ ต้องเรียกร้องให้ออกมารับผิดชอบ กับคำสั่งที่ทำให้ลูกของเธอต้องตกเป็นนักโทษ

คงไม่ใช่เพียงนายคำรบเท่านั้น หากแต่รวมไปถึงคนที่อยู่เหนือขึ้นไปที่สั่งการลงมาเป็นทอดๆ ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง

อย่างน้อยขอโทษครอบครัวเขา หรือหาทางชดเชยกับสิ่งที่นายศิวรักษ์ ต้องเผชิญ

ไม่ใช่ทำเป็นหน้ามึน ไม่รู้ไม่เห็นเหมือนที่ผ่านๆ มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น