--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ลือฟุ้ง คุณหญิงหน่อย ‘ตั้งพรรคใหม่’ บทเรียนสอนใจ ‘คดียุบพรรค’


เป็นที่รู้ๆ กันดูในแวดวงการเมืองว่า “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือเจ้าของฉายา ผู้หญิงเหล็ก เป็นบุคคลการเมืองที่ทำงานมุ่งมั่นในวันที่ประเทศไทยมีโรคซาร์สเข้ามาระบาด คุณหญิงหน่อยรับหน้าที่เป็น รมว.สาธารณสุข เวลานั้นท่านได้ลุยงานหนักจนสามารถยับยั้งโรคซาร์สได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ซึ้งดู

แล้วแตกต่างกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009ที่ระบาดหนัก...จนคุณหญิงเองก็เคยได้รับอานิสงส์ในเรื่องนี้ไปเหมือนกันจนมาถึงในวันที่มีการทำปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 49คุณหญิงได้เก็บตัวเงียบมานาน และมีคำพูดเดิมๆ เสมอ...เมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องการเมืองท่านก็ได้แต่พูดว่า “ไม่ค่ะ...ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง”แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา...มีข่าวฟุ้งไปทั่วแวดวงการเมืองว่า“คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อม ส.ส.ภาคกรุงเทพฯ “เตรียมจัดตั้งทัพ

ใหม่”เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการทำงานทางการเมืองของคนการเมืองในภาคกรุงเทพฯโดยกระแสข่าวที่มาอ้างว่า “คุณหญิงหน่อย” ได้ส่งหนึ่งในคนสนิทไปทำการปัดฝุ่นจัดตั้งพรรคใหม่ทัพใหม่ เพื่อตระเตรียมการในการทำงานทางด้านการเมืองซึ่งหากเป็นจริงดังว่า...เรื่องนี้อาจจะเป็นการ “ส่งสัญญาณ”อะไรบางอย่างที่ส่อให้เห็นเค้าว่า “พรรคเพื่อไทย” อาจมีอะไรในก่อไผ่หรือไม่เพราะเมื่อมองตามหลักความเป็นจริง...พรรคเพื่อไทย นับวันยิ่งมีคนใหญ่คนโตเข้าร่วม

พรรคมากขึ้น ดังนั้นการบริหารจัดการก็เหนื่อยขึ้นหรือว่า...อาจมีสัญญาณอะไรที่ส่งข้ามนํ้าข้ามทะเลมาถึงโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่มิอาจทราบได้แต่เมื่อได้มีโอกาสพบปะกับ “เอนก หุตังคบดี” ขวัญใจคนเขตธนบุรี อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานกรรมาธิการคณะการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎรซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคณะทำงานของคุณหญิงหน่อยที่อ่านเกมการเมืองขาด “ระดับขุน” จึงได้ถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่ปรากฏขึ้นโดยนายเอนก กล่าวว่า...ส.ส.

กทม. ยังอยู่ที่พรรคเพื่อไทย และไม่มีวันทิ้งพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ใครทิ้งพรรคตอนนี้ก็ใช้ไม่ได้เป็นพวกเนรคุณ“พวกเรารักกันเหมือนสายเลือดไม่ใช่สายนํ้า”ส่วนเรื่องที่ว่า “คุณหญิงหน่อย” ให้คนสนิทไปตระเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองเอาไว้นั้น เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันเพราะว่าพวกเราในพรรคทุกคนมีบทเรียนกันมาแล้ว...ในวันที่เขายุบ “พรรคไทยรักไทย” ซึ่งเป็นพรรคที่ประชาชนไว้ใจ และเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่จากนั้นได้ไปอยู่ที่ “พรรคพลังประชาชน” ซึ่งต่อมาก็

โดนยุบไปอีก...พอมาวันนี้อยู่ “พรรคเพื่อไทย” ก็เริ่มส่อแววหวั่นเหตุการณ์“ซํ้ารอย” ในยุคที่ผู้มีอำนาจเป็นใหญ่เป็นประเทศเปิดหน้า “สองมาตรฐาน”ซึ่งอาจมีการตั้งธงไว้ว่าจะยุบ “พรรคเพื่อไทย” และหากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเราจะไปอยู่ที่ไหนกัน...จึงต้องมีการคิดและตระเตรียมเอาไว้นายเอนก กล่าวต่อคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถามว่า...ยังใช้ชื่อ“พรรคพลังไทย” หรือไม่? เพราะว่าเคยเป็นชื่อกลุ่มเดิมของ“คุณหญิงหน่อย” สมัยที่เคยส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่น

ของกรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งแต่เรื่องชื่อนั้นสำคัญไฉน...จะเป็นอะไรก็ได้ “พลังไทย” หรือ“ไทยเพื่อไทย” อะไรก็ได้ทั้งสิ้น...แต่ต้องเป็นพรรคการเมืองที่สืบสานอุดมการณ์ของ “พรรคไทยรักไทย”แต่ขอยํ้าชัดว่า...คนทำงานภาคกรุงเทพฯ ของพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีความคิดทิ้งพรรค...เวลาเจ็บต้องเงียบเหมือนเสือดีกว่าร้องเหมือนหมาส่วนเรื่องของกระแสข่าวดังกล่าวถือเป็นเรื่องธรรมดา...เพราะทุกวันนี้กระแสพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่มีคนเห็นใจและสงสารพวก

เรามากขึ้นในแง่เรื่องของ “ความเป็นธรรม”นายเอนกยํ้าชัดหนักแน่นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...สิ่งที่ “คุณหญิงหน่อย” คิดและตระเตรียมการเพื่อวางรากฐานทางการเมืองในอนาคตโดยการจัดตั้งพรรคใหม่คงเป็นการ “สำรองพรรคอะไหล่” ไม่ใช่การทอดทิ้งพรรคเพื่อไทย...โดยที่ทุกคนยังรู้ว่าอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณชินวัตร” เป็นหัวเรือใหญ่อย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น