ข่าวสด : เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. สำนักข่าว dap-news.com เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ยอดนิยมของกัมพูชา รายงานว่า นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดเจดีย์ในจังหวัดกัมปงจามเมื่อวันจันทร์ ว่า ตนมีคำสั่งล่าสุดให้ส่วนราชการทั้งระดับชาติและระดับจังหวัดทบทวนการทำข้อตกลง รวมถึงบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ต่างๆ ที่ทำกับฝ่ายไทย ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงลงนามไปแล้วหรือยังไม่ได้ลงนาม
นายฮุนเซน กล่าวว่า นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2537 เป็นต้นมา กัมพูชาทำข้อตกลงกับไทย 23 ฉบับ บางส่วนเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว บางส่วนอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนข้อตกลงสุดท้ายที่ลงนามกันไป คือ ข้อตกลงให้เงินกู้ช่วยเหลือก่อสร้างถนน ลงวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2552 มูลค่า 1,400 ล้านบาท ถ้ากัมพูชายังคงขอรับเงินช่วยเหลือดังกล่าวต่อไปก็เหมือนกับเป็นหนี้บุญคุณฝ่ายไทย จึงตัดสินใจยกเลิก และจะสร้างถนนสายนี้ด้วยเงินกัมพูชาเอง
นายฮุนเซน เตือนข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยว่า อย่าลงนามในข้อตกลงใดๆ หรือขอเงินช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยเด็ดขาด ถ้าใครฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกไล่ออก แต่การรับความช่วยเหลือจากไทยทำได้เฉพาะรับเงินบริจาคด้านการกุศล
ส่วนกรณีมีข่าวว่า นายกษิตกล่าวหากัมพูชาว่าเป็นฝ่ายเริ่มต้นสร้างเงื่อนไขทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียดเพราะไปแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจ นายฮุนเซนตอบโต้ว่า สัมพันธ์ไทย-กัมพูชารอบใหม่นี้เริ่มปะทุตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2551 ภายหลังจากทหารไทยข้ามพรมแดนเข้ามายังฝั่งกัมพูชาโดยผิดกฎหมาย
“กษิต คุณคือแกนนำกลุ่มพันธมิตร คุณคือคนๆ หนึ่งที่รุกล้ำเข้ามายังเขตพระวิหารโดยผิดกฎหมาย และเคยด่าผมเสียๆ หายๆ อย่างรุนแรงระหว่างการชุมนุม คุณมันคนต่ำช้า ถ้าไม่เชื่อก็ขอให้ลองไปเปิดฟังเทปปราศรัยของคุณแล้วจะรู้เอง” นายฮุนเซน กล่าว และว่า ในกลุ่มนายกรัฐมนตรี 10 คนที่ตนเคยทำงานด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์ทำงานด้วยยากที่สุด และยังเป็นคนที่ทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชาตึงเครียด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น