
ที่มา:บางกอกทูเดย์
บทความต่อไปนี้...อาจจะยาวและแบ่งได้หลายตอน แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรคสอง...กำลังจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งมาตรา 67 วรรคสอง บัญญัติว่า...“การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จะกระทำมิได้เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวน
การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อนรวมทั้งได้ให้องค์การอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แูทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพและผู้แูทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพ ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำเนินการดังกล่าว”มาตรา 67 วรรคสอง ที่นำมาเขียนแยกให้เห็นเป็นหลายส่วนข้างต้น จะช่วยให้การพิจารณาตามมาตราดังกล่าว มองเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้นการดำเนินโครงการหรือ
กิจกรรม ตามความในมาตรา67 วรรคสอง คงแยกออกเป็น 2 ความหมาย คือการดำเนินโครงการ กับ การดำเนินกิจกรรมการดำเนินโครงการ คงหมายถึง การดำเนินการตามแผนหรือเค้าโครงที่จะกำหนดเอาไว้ เช่นโครงการก่อสร้างอาคารชุด โครงการรถไฟฟ้าโครงการเช่ารถเมล์ หรือโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิพิจารณาคำว่า “โครงการ” อย่างเดียวก็คงครอบคลุมแทบทุกอย่างที่จะทำการก่อสร้างหรือดำเนินการขึ้นทั้งในส่วนโครงการที่เป็นของราชการ รัฐ
วิสาหกิจและรวมไปถึงของเอกชนภายในประเทศและนักลงทุนจากต่างประเทศโครงการจึงตีความหมายได้อย่างมากมาย เรียกว่า...แทบทุกอุตสาหกรรมก็อยู่ในความหมายนี้ทั้งสิ้นมิใช่เพียงเฉพาะพื้นที่ของมาบตาพุดเท่านั้นแต่จะกินความรวมไปถึงทั่วทุกพื้นที่ของไทยทั้งทางบกและทางทะเลอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทำเหมือง การระเบิดหินการสร้างโรงงาน การทำรถไฟฟ้า การสร้างสนามบินการทำสนามกอล์ฟ การสร้างอาคารชุด การสร้างเขื่อนและการตัดถนนล้วนแต่
มีสิทธิโดนระงับได้ทั้งสิ้นถ้ามีการคัดค้านขึ้นมาอีกตัวอย่างที่อาจจะถูกคัดค้านก็เช่น “โครงการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่”ซึ่งถ้าพิจารณาตามความในมาตรา 67 วรรคสองแล้ว ชุมชนในบริเวณดังกล่าว ก็สามารถใช้สิทธิฟ้องหน่วยงานของรัฐให้คุ้มครองได้ เช่นเดียวกับ 76โครงการของมาบตาพุดมาพิจารณาต่อที่คำว่า “กิจกรรม” ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่มีความหมายหรือคำจำกัดความเอาไว้แต่กิจกรรมก็คงหมายถึงกิจการหรือการงานที่ประกอบ เพียงคำว่าการงานที่ประกอบ ก็ตี
ความได้อย่างกว้างขวางเช่นกันการงานที่ประกอบจะสามารถตีความไปถึง การทำอาชีพต่างๆ เช่น การรับเหมาก่อสร้าง การอุตสาหกรรมการพาณิชย์ การสื่อสารมวลชนที่ต้องมีโรงพิมพ์การเกษตรที่ใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์และยาฆ่าแมลงการเลี้ยงสัตว์เชิงพาณิชย์ เป็นต้นการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมใดๆ จึงอาจถูกชุมชนใช้สิทธิฟ้องร้องต่อหน่วยงานของรัฐเอาได้ทั้งนี้ เพราะได้เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีตัวอย่างขึ้นมาแล้ว ในโครงการของมาบตาพุดทั้ง 76 โครงการการฟ้อง
ร้องดังกล่าว ทำให้โครงการที่มาบตาพุดต้องหยุดดำเนินกิจการอย่างถาวรหรือไม่คงต้องรอฟังคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลต่อไปแต่สิทธิชุมชนที่จะฟ้องร้องนั้น เกิดขึ้นมาแล้ว โดยไม่ต้องรอบทบัญญัติแห่งกฎหมายมารองรับและกำลังจะมีการใช้สิทธิชุมชนต่อไปอีกใน 181 โครงการ...ซึ่งฟังดูแล้วก็คงจะเป็นการใช้สิทธิตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แต่ก็ต้องพิจารณาตามมาด้วยว่า...ชุมชนที่จะใช้สิทธินั้นมีขอบเขตจำกัดแค่ไหน?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น