ข่าว(ในประเทศ)
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 10 ฉบับที่ 2612 ประจำวัน ศุกร์ ที่ 21 สิงหาคม 2009
“ประโภชฌ์” ไขก๊อกตามพี่ชาย ระบุเพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ รับมีการแสวงหาประโยชน์ในขั้นปฏิบัติการ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประโภชฌ์ สภาวสุ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารหนังสือลาออกจากรองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนมาแจกจ่ายผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล โดยในเอกสารดังกล่าวระบุว่าวันที่ 20 สิงหาคม ที่สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน สำนักนายกรัฐมนตรี นายประโภชฌ์ สภาวสุ รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดยระบุว่าการลาออกครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้มีการปรับโครงสร้างทั้งระบบของโครงการชุมชนพอเพียง เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โครงการนี้เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากระดับชุมชน หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะช่วยเหลือชุมชนต่างๆทั่วประเทศได้กว่า 80,000 ชุมชน
“เมื่อมีการตรวจสอบโครงการพบว่ามีปัญหาในขั้นตอนการปฏิบัติและมีผู้แสวงหาประโยชน์กันอยู่มาก ดังนั้น เพื่อให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสและมีความคล่องตัว อิสระในการปรับโครงสร้างการบริหารงานของคณะกรรมการได้อย่างเต็มที่ จึงขอลาออกจากการทำหน้าที่ในครั้งนี้ และหวังว่าการเดินหน้าของโครงการชุมชนพอเพียงจะสามารถสร้างประโยชน์ให้ชุมชนได้อย่างแท้จริง”
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงของพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานโครงการสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) ลาออกจากตำแหน่งประธานโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน
โดย น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า การที่นายกอร์ปศักดิ์ลาออกดูผิวเผินเหมือนแสดงความรับผิดชอบ แต่จะลดกระแสสังคมได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนปล้นประชาชนอย่างไร้ยางอาย ขอให้ผู้มีอำนาจหยุดโกงกินในโครงการ แต่จะหยุดความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจากการลาออกเป็นเพียงแค่สับขาหลอก แต่ยังยิงประตูได้ เพราะโครงสร้าง สพช. แปลกประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดในโลกคือ นายกอร์ปศักดิ์ 1.เป็นรองนายกฯ กำกับดูแลนโยบาย 2.เป็นประธานบอร์ดโครงการนี้ ทั้งนี้ ยังให้บอร์ดตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการที่เป็นฝ่ายบู๊ มีนายกอร์ปศักดิ์เป็นประธาน และ 3.คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการที่เป็นฝ่ายบุ๋น มีนายมีชัย วีระไวทยะ เป็นประธาน
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวอีกว่า ฝ่ายบู๊มีอำนาจอนุมัติเงินโครงการ 22,000 ล้านบาท และยังมีการตั้งรอง ผอ. 6 คน กลับไม่ใช่รอง ผอ. ขับเคลื่อนงาน แต่ไปตั้งกลุ่มภารกิจบริหารจัดการงบประมาณ มีนายประโภชฌ์ สภาวสุ รอง ผอ.โครงการชุมชนพอเพียงรับผิดชอบ และยังมีกลุ่มภารกิจดำเนินการสรุปผลและพิจารณาโครงการ มีนายประโภชฌ์รับผิดชอบบริหารจัดการงบภายในและชงเรื่อง ก่อนที่เส้นทางเงิน 22,000 ล้านบาทที่ทุจริตจะกระจายไปทั่วประเทศ
จะเห็นได้ว่ารองนายกฯดูแลทั้งนโยบาย เป็นประธานบอร์ดอนุมัติโครงการ และเป็นประธานคณะอนุกรรมการที่มีอำนาจเต็มในการอนุมัติงบก่อนรายงานบอร์ด ดังนั้น การกระจายงบประมาณ 22,000 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับนายกอร์ปศักดิ์ทุกกระบวนการ แม้ลาออกจากประธานบอร์ด และให้นายมีชัยขึ้นเป็นประธานบอร์ด แต่อำนาจบริหารจัดการโครงการยังอยู่ที่คณะอนุกรรมการฝ่ายอำนวยการที่มีนายกอร์ปศักดิ์เป็นประธาน ดังนั้น นายกอร์ปศักดิ์ต้องลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเปิดให้มีการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
นายเจริญ คันธวงศ์ ประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงชุมชนพอเพียง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าการขายสินค้าต่างๆไม่มีบริษัทอื่นๆเข้าร่วมในการแข่งขัน หรือไม่มีการเข้ามาแข่งในด้านการจัดซื้อ นอกจากนี้ยังพบว่าได้มีการแจ้งไปยังชุมชนว่ามีเงินมาแล้ว จากนั้นมีการติดต่อบริษัทโดยตรง ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
นายเจริญกล่าวอีกว่า การสอบสวนในเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติกระทำความผิดในบางขั้นตอนอย่างชัดเจน ทั้งนี้ สำหรับโครงการชุมชนพอเพียงเห็นว่าควรที่จะดำเนินการต่อไป แต่ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส เพราะโครงการนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น