--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ทำไมยังโหยหาถึงแต่"ทักษิณ"

วันจันทร์ 24 สิงหาคม 2009 — chapter 11
Why they still long for ThaksinAugust 16, 2009
ที่มา – Philippine Daily Inquirerแปลและเรียบเรียง – chapter 11

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผู้นำต่างๆของประเทศไทยปฎิเสธที่จะทำความเข้าใจ และจัดการกับปัญหาที่แบ่งแยกประเทศออกเป็นฝ่าย “เสื้อแดง” และ ฝ่าย “เสื้อเหลือง” ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับพวกเขาเอง

ช่างคล้ายกับประเทศฟิลิปปินส์ อำนาจในประเทศไทยตกอยู่ในกำมือของศักดินาหัวโบราณ ซึ่งคุมสถาบันต่างๆและดำเนินการในสิ่งที่พวกเขาเห็นว่า จะปกป้องผลประโยชน์ให้กับตัวเองโดยไม่แยแสถึงประชาชนจำนวนมากซึ่งยากแค้น และแทบจะหมดหนทางหรือไม่มีทางที่จะได้เข้าถึงอำนาจทางการเมือง

ไม่ว่าทักษิณจะเข้ามามีอำนาจจากการโกหกและการหลอกลวงตามที่รัฐบาลปัจจุบันกล่าวอ้าง อดึตนายกรัฐมนตรีที่กำลังลี้ภัยทักษิณ ชินวัตร สามารถเปลี่ยนแปลงสมการนั้นได้ชั่วคราว ถึงแม้จะอยู่ในระหว่างการลี้ภัย ทักษิณยังคงย้ำเตือนความจำให้กับผู้สนับสนุนในชนบท ให้คิดถึงคุณประโยชน์ที่ได้เคยทำไว้ให้กับพวกเขา และปลุกจิตสำนึกให้พวกเขารู้ว่า อำนาจเป็นพวกเขาเองและพวกเขาเองเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้

ทักษิณ แม้จะถูกรัฐบาลถากถางเหน็บแนมว่า “เป็นคนที่โกงกินและใช้อำนาจในทางผิดมากที่สุด” กลับกลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเป็นประชาธิปไตย

ศาสตราจารย์ เควิน เฮวิสัน ผู้อำนวยการศูนย์แคโรไรนาเอเซีย ภาควิชาเอเซียศึกษา มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไรนา แห่งสหรัฐอเมริกากล่าวไว้ว่า “ทักษิณอาจจะกลับไทยไม่ได้ ผมไม่คิดว่าทักษิณจะมีอนาคตทางการเมืองในประเทศไทย แต่ขณะนี้ปัญหาคือ ทักษิณเป็นตัวแทนของอะไร”

นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับการแต่งตั้งมาจากรัฐสภา หลังจากตุลการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกองทัพเป็นผู้แต่งตั้งขี้นมา เป็นตัวการสำคัญในการยุบรัฐบาลถึงสองครั้ง ที่นำโดยพรรคการเมืองนิยมทักษิณที่ได้รับชัยชนะเข้ามาจากการเลือกตั้งอย่างใสสอาด

เสื้อแดงต่างคับแค้นใจที่ตัวแทนที่พวกเขาได้เลือกเข้าไป ถูกโค่นล้มซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคำสั่งของศาลซึ่งถูกมองว่า ไม่มีความยุติธรรม และ ไม่เป็นประชาธิปไตย

ศาสตราจารย์ เควิน เฮวิสัน กล่าวว่า “ถ้าขืนเรื่องแบบนี้ยังเกิดขี้นบ่อยๆ ถ้าคะแนนเสียงของพวกเขากลายเป็นโมฆะ ถ้าเมื่อไรพวกเขารู้สึกว่าไม่มีหนทางชนะ เมื่อนั้นแหละจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขี้นได้”
นอกเสียจากว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์สามารถจัดให้มีการเลือกตั้ง แล้วผู้ที่เสื้อแดงลงเสียงให้พ่ายแพ้ ซึ่งการเลือกตั้งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยุติธรรมมากที่สุด

มิฉะนั้นแล้ว ความคับแค้นใจจะทับถม และพวกเขาจะหันไปใช้วิธีการลุกฮือขี้นมา ซึ่งจะนำไปสู่ความรุนแรงได้

ศาสตราจารย์ เควิน เฮวิสัน อธิบายถึง ประวัติของความเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ต้นจนจบว่า “ผู้ที่มีอำนาจ ผู้ที่มีเงิน” ควรแลกเปลี่ยนอำนาจในมือเพียงเล็กน้อยให้กับชนชั้นล่างของสังคม อันจะเป็นหนทางป้องกันไม่ให้เกิดการลุกฮือขี้นมาได้ หรือพวกเขาจะทำวิธีใดก็ได้ที่จะทำให้ประชาชนคิดว่า พวกเขาได้แบ่งปันอำนาจแม้ว่าไม่ได้แบ่งจริงๆ

อย่างไรก็ดี ในเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ เควิน เฮวิสัน ไม่คิดว่าศักดินาในประเทศไทยและประเทศฟิลิปปินส์ จะยอมประนีประนอมในการแบ่งอำนาจกับมวลชน เขากล่าวอีกว่า ศักดินาอยากที่จะคุมอำนาจไว้กับตัวเองมากกว่าจะแบ่งปัน

เขากล่าวว่า “พวกเขา (คนไทยทั้งหลาย) จะต้องหาวิธีประนีประนอมให้กับพวกที่ถูกริดรอนสิทธิ ซึ่งแท้จริงแล้วพวกเขาต้องมีส่วนในการตัดสินใจด้วยเช่นกัน ถ้าคนไทยไม่สามารถหาหนทางเพื่อให้เกิดการประนีประนอมกันได้ ผมคิดว่า คนไทยเองนั่นแหละ ที่จะต้องตกอยู่ในสภาพลำบาก ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า พวกศักดินาจะยอมหรือเปล่า”

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคนไทยจึงได้รู้สึกวิตกว่าทักษิณ และผู้สนับสนุนจะสร้างความไม่สงบบนท้องถนนอีกครั้ง หรืออาจจะรุนแรงมากไปกว่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น