--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไทยฟื้นคดี สังหารทูต เสกปมอมเพชร ซาอุฯ หายวับ



ที่มา มติชน
8 สิงหาคม 2552
รัฐมนตรียุติธรรมฝันความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯฟื้น หลังออกหมายจับชาวอาหรับผู้ต้องหาฆาตกรรม 3 ทูตซาอุฯเมื่อ19ปีก่อน ก่อนคดีจะหมดอายุความลง แต่วงการยังกังขาซาอุฯจะเชื่อน้ำยาไทยอยู่หรือ เมื่อฝ่ายไทยโยนปมสังหารให้เป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศระหว่างซาอุกับชาติอาหรับด้วยกัน

ขณะที่ไม่มีการมุ่งคดีไปที่เรื่องเพชรซาอุที่โดนอมแต่อย่างใดนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีศาลอนุมัติหมายจับนายอาบู อาลี ชาวอาหรับ เป็นผู้ต้องหาฆ่านายอับดุลเลาะห์ เอ อัล เบชารีห์ เลขานุการโทของสถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อ 19 ปีที่ผ่านมา ว่า การออกหมายจับครั้งนี้ถือเป็นความคืบหน้าของคดี

เพราะก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนไม่รู้แม้แต่จะจับใคร ทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ และคดีมีความคืบหน้า ก็เชื่อว่า น่าจะมีการยกระดับคามสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุฯได้ดีขึ้น อย่างน้อยการออกหมายจับครั้งนี้ทำให้รู้รูปพรรณสัณฐานของคนร้าย โดยการออกหมายจับไม่คำนึงว่าบุคคลตามหมายจับจะอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ขั้นตอนต่อไปเป็น

หน้าที่ของดีเอสไอที่ต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดี นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวมีผู้ก่อเหตุเป็นกระบวนการ สาเหตุเกิดจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย แม้คดีดังกล่าวจะผ่านมาแล้วถึง 19 ปี แต่เป็นสำนวนในความรับผิดชอบของตำรวจ จึงเชื่อว่าดีเอสไอจะสามารถสั่งฟ้องคดีได้ก่อนหมดอายุความ 20 ปี ซึ่งกำชับให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด

แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าผู้ต้องหาเป็นคนยิง แต่สามารถใช้พยานแวดล้อมได้ก่อนหน้านี้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)แถลงเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ว่า ศาลอาญาได้อนุมัติให้ออกหมายจับนายอาบู อาลี ชาวอาหรับ ซึ่งเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงนายอัลลุเลาะห์ เอ อัล เบซารีห์ เลขานุการโท ของสถานเอกอัครราชฑูตซาอุดิอาระเบีย

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 บริเวณด้านหน้าศรีวัฒนาอพาร์ตเม้นท์ เลขที่ 34/3(บ้านสุทธิพงษ์) ตรงข้ามซอยเย็นอากาศ2 ถนนเย็นอากาศ แขวงทุ่งมหาเฆม เขตสาธร กรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า คดีดังกล่าว ดีเอสไอได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการฆาตรกรรมนักการทูตซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเกิดเหตุมาตั้งแต่ปี 2533 มาดำเนินการตั้งแต่ปี 2547 และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล

ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศร่วมกับพนักงานอัยการคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้มาโดยตลอด อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวน กได้พยานสำคัญจากต่างประเทศ พร้อมทั้งประจักษ์พยาน ยืนยันตัวบุคคลที่กระทำความผิดในคดีนี้ จนนำมาสู่ความเห็นชอบร่วมกันระหว่างพนักงานอัยการและคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา

ขอออกหมายจับดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไปสำหรับคดีฆาตกรรมนายอัลลุเลาะห์ เอ อัล เบซารีห์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 บริเวณด้านหน้าศรีวัฒนา อพาร์ตเม้นท์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ

โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุดังกล่าวประมาณ 10 นาที มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งใช้อาวุธปืนยิงนายฟาฮัด เอแซด อัลบาฮลี เลขานุการโทและนายอาหะหมัด เอ.อัลชาอีพ ผู้ช่วยเลขานุการ สถานทูตซาอุฯ เสียชีวิต ซึ่งทางการสืบสวนเชื่อว่า น่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ต่อมาในวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ

จากการสืบสวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม รวมถึงพยานผู้เชี่ยวชาญยืนยัน นำเสนอต่อศาลว่า นายอาบู อาลี เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ดีเอสไอจึงส่งสำนวนคดีดังกล่าวต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษเพื่อพิจารณาสั่งคดีต่อไปพ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะโอนสำนวนการสอบสวนมายังดีเอสไอ สำนวนดังกล่าวได้ถูกดำเนินการโดยกรมตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน โดยมีการตั้งประเด็นการสอบสวนสาเหตุการฆาตรกรรม เนื่องมาจาก

1. การขัดแย้งผลประโยชน์ในการส่งแรงงานไปทำงานยังประเทศซาอุดิอาระเบีย

2. เจ้าหน้าที่สถานทูตบางคนร่วมกับบุคคลภายนอก ส่งสินค้าผิดกฎหมาย เช่น กัญชาอัดแท่ง ไม้หอมและน้ำมันไปประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยใช้เอกสิทธิทางการทูต

3. การขัดผลประโยชน์ของกลุ่มแก๊งค์พัทยาที่มีนายมุนีย์ อาหะหมัด เป็นหัวหน้าพ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ประเด็นทั้ง 3 เรื่องที่กรมตำรวจตั้งเป็นประเด็นการสืบสวน นำไปสู่การจับกุมและดำเนินการคดีกับผู้ต้องหาบางราย ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ส่วนคดีความที่ส่งขึ้นพิจารณาในชั้นศาล ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้องทั้งหมด อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า ส่วนการสืบสวนของดีเอสไอ ได้ตั้งประเด็นแตกต่างไปจากกรมตำรวจ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เห็นว่า

ประเด็นสาเหตุการฆาตรกรรมน่าจะมาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศซาอุดิอาระเบียกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งพบว่า ก่อนหน้าที่จะมีการฆาตรกรรมเจ้าหน้าที่สถานทูต ประเทศซาอุดิอาระเบีย เคยมีหนังสือขอความร่วมมือมายังประเทศไทย

ให้ช่วยดูแลเจ้าหน้าที่และประชาชนชาวซาอุดิอาระเบียในประเทศไทย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ ซึ่งเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า คดีฆาตรกรรมนักการทูตซาอุดิอาระเบียที่ได้รับการคลี่คลาย จนนำไปสู่การอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ถือว่า เป็นความคืบหน้าอีกระดับหนึ่งในความพยายามของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะแสดงให้รัฐบาลซาอุดิอาระเบียเชื่อมั่นว่า

รัฐบาลไทยมีความจริงใจที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศขึ้นข่าวแจ้งว่า ความขัดแย้งที่ดีเอสไออ้างถึงหมายถึงความขัดแย้งกับกลุ่มชาวอาหรับบางประเทศเนื่องจากในช่วงวันที่ 31 กรกฎาคมและต้นเดือนสิงหาคมเกิดการจลาจลที่นครเมกกะ

ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นช่าวอาหรับกว่า 400 คน ในจำนวนนี้มีชาวอาหรับประเทศดังกล่าวถึง 275 คน ซึ่งหลังจากนั้นมีนักการทูตซาอุฯหลายประเทศถูกฆาตกรรม จนรัฐบาลซาอุฯทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยในเดือนตุลาคม 2532 ให้ช่วยระมัดระวังในความปลอดภัยของนักการทูตชาวซาอุฯด้วยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดการฆาตกรรมนักการทูตชาวซาอุฯ3 คนและนักธุรกิจชาวซาอุฯอีก 1 คน ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและซาอุนอย่างรุนแรง

จนมีการสั่งระงับไม่หใส่งแรงงานไทยไปทำงานในซาอุฯและมีการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตให้เหลือแต่เพียงส่งอุปทูตมาประจำสถานทูตในประเทศไทยคนสงสัยคดีไม่มีโยงเรื่องเพชรซาอุคดีดังกล่าวตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มานานว่า อาจเกี่ยวพันกับกรณีเพชรซาอุฯที่นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานไทยที่ทำงานในวังเจ้าฟ้าชายไฟซาลขโมยเพชรออกมา

ต่อมาได้ขายให้ร้านอัญมณีในเมืองไทย และผู้รับซื้อถูกตำรวจนำโดยพล.ต.ท.ชะลอ เกิดเทศ สังหาร แต่เพชรดังกล่าวสูญหายไป โดยเฉพาะเพชรบลูไดมอนด์ โดยมีเสียงร่ำลือว่าตกไปเป็นสมบัติของ......รายหนึ่ง ทางซาอุฯจึงส่งเจ้าหน้าที่ทูตชุดดังกล่าวมาติดตาม และที่สุดก็โดนสังหารเหตุการณ์ผ่านไปเกือบหมดอายุความ 20 ปี ตำรวจไทยได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยการฆาตกรรมทูตซาอุฯ โดยได้พุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งของชาติอาหรับด้วยกัน ไม่มีการตั้งข้อสงสัยพัวพันเพชรซาอุฯแต่อย่างใด

จึงเป็นที่น่าติดตามว่า เรื่องนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของไทยกับซาอุฯจะดีขึ้นตามที่รัฐบาลหวังไว้หรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น