--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

ที่สุดของความวุ่นวาย !!?

โดย. พญาไม้

หากจะถามว่า...

ปัญหาของประเทศไทยการเมืองที่วุ่นวายยุ่งเหยิงในวันนี้..เกิดมาจากสาเหตุอันใด..ก็ต้องย้อนกลับกันไปดู..ตั้งแต่..ปลายสมัยของนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร..จนมาถึงปีแรกของการเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง..

ทันทีที่..วุฒิสภาเปลี่ยนประธานวุฒิสภาจาก พลตรี มนูญกฤต รูปขจร..มาเป็น..นายสุชน ชาลีเครือ..ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคนใกล้ชิดกับคนในครอบครัวของ ทักษิณ ชินวัตร..

ปฏิบัติการล้มล้างรัฐบาลเลือกตั้งของ..นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ก็เริ่มต้น..และนำไปสู่การผนึกกำลังกับผู้สูญเสียผลประโยชน์จากอีกหลายฝ่าย..

จนในที่สุดก็เกิดการปฏิวัติ..2549 ขึ้นมา..ปิดฉากอำนาจของ..ทักษิณ ชินวัตร..แต่เปิดฉากแห่งความวุ่นวายชนิดที่ไม่าเคยเกิดมาก่อนในประเทศไทยและวุ่นวายสืบต่อมาจนถึงบัดนี้..

แต่..เพราะฐานที่มั่นถิ่นที่หยัดยืนของ ทักษิณ ชินวัตร..คือ..ประชาธิปไตย..อำนาจที่เขาได้รับมานั้น..มาจากกล่องทิ้งคะแนนในวันเลือกตั้ง..

ผู้คนจำนวนมากจึงยืนอยู่ข้างเขา..

ดูเหมือนว่า..ทักษิณ ชินวัตร..ก็เรียนรู้ว่า..รากฐานแห่งอำนาจการเมืองของเขานั้น..คือประชาชน..เขาจึงทุ่มเทเพื่อจะรักษาฐานคะแนนนี้ไว้และหาทางเพิ่มพูนขยายให้..แน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น
ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จ

แต่ประเทศไทย..ไม่ง่ายเช่นนั้น..ประชาธิปไตยไม่ใช่ต้นสุดและปลายสุดของอำนาจ..ประชาชนกับประชาชนยังมีความเป็นอยู่แตกต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว..

ทักษิณสนุกอยู่กับการกวาดต้อนเอาคะแนนจากคนชั้นล่าง..แต่คนชั้นกลางและสูงขึ้นไปนั้น..กลับรู้สึกว่าตนเองเล็กลงทุกวัน..ข้าราชการทุกระดับชั้น..โดนฝ่ายการเมืองขูดสับ..อำนาจในมือถูกฉกฉวย..

ถึง ทักษิณ ชินวัตร จะผูกขาดชัยชนะในการเลือกตั้งทุกครั้ง..แต่..เวทย์มนต์ของฝ่ายตรงกันข้ามที่ฝังอยู่ในรัฐธรรมนูญปฏิวัติ..ก็บดขยี้เข้าใส่..

ไม่มีเหตุผลไม่มีความถูกต้องมีแต่เป้าประสงค์และต้องทำให้สำเร็จ..

การเมืองไทย..จึงกลายเป็นสงคราม..และเมื่อมันเป็นสงคราม..มันจึงมีแต่แพ้กับชนะ..ถึงวันนี้มันก็ยังเบ็ดเสร็จไม่ได้..ใครคือผู้ชนะ..

ทักษิณ ชินวัตร จะชนะหรือไม่..ก็อยู่ที่เขายังรักษามวลชนของเขาไว้ได้หรือไม่..แต่ที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้..ฝ่ายตรงกันข้าม..ผลักดันมวลชนให้มาอยู่ฝ่ายทักษิณมากขึ้นทุกวัน..

ที่มา.บางกอกทูเดย์
----------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น