ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ปลอดพลังงานนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกใน 42 ปีหลังปิดเตาปฏิกรณ์
ตัวสุดท้ายจากทั้งหมด 50 เตาเพื่อซ่อมบำรุง ท่ามกลางความวิตกว่าจะเกิดไฟฟ้าขาดแคลน
ขณะที่ภาครัฐและเอกชนเร่งส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก
เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โทมาริ จังหวัดฮ็อกไกโดของบริษัท
ฮ็อคไกโด อิเล็กทริค พาวเวอร์ ถูกปิดลงเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วง ตี 4 วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
หลังจากช่างเทคนิคเริ่มใส่แท่งควบคุมเพื่อหยุดปฏิกริยาลูกโซ่ที่เตาปฏิกรณ์เมื่อเวลา 5 โมง
เย็นวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าจากเตาดังกล่าวเริ่มลดลงตอน 5 ทุ่มเมื่อ
คืนและหยุดลงอย่างสิ้นเชิงเมื่อเวลา ตี 4 วันนี้ และเตาปฏิกรณ์จะอยู่ในสภาพโคลด์ ชัตดาวน์
หรือมีอุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดเดือด 100 องศาเซลเซียสในวันบ่ายพรุ่งนี้
การปิดเตาปฏิกรณ์ที่โรงไฟฟ้าโทมาริเพื่อซ่อมบำรุง หมายความว่าจำนวนเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด
50 ตัวในญี่ปุ่นหยุดเดินเครื่องทั้งหมดเป็นครั้งแรกนับจากเดือนพฤษภาคม 2513
การปิดเตาเพื่อทดสอบระบบความปลอดภัยหรือซ่อมบำรุงตามตารางทั้งหมดเหล่านี้เป็นผลมา
จากวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิที่ปล่อยกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล เมื่อ 1 ปีก่อน ทำให้
ชาวญี่ปุ่นไม่มั่นใจในความปลอดภัยของเทคโนโลยนิวเคลียร์ ที่เคยผลิตไฟฟ้าให้กับญี่ปุ่นเป็น
สัดส่วนถึง 1 ใน 3 ตลอดหลายสิบปี และหากจะเปิดเดินเครื่องอีกครั้ง เตาปฏิกรณ์จะต้องผ่าน
การทดสอบว่าสามารถต้านทานแผ่นดินไหวและสึนามิได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงได้รับความ
เห็นชอบจากชุมชนใกล้เคียงก่อน
และเมื่อวานนี้มีประชาชนที่ต่อต้านนิวเคลียร์ราว 5,500 คนออกมาชุมนุมเฉลิมฉลอง การปิดเตา
ปฏิกรณ์ตัวสุดท้ายที่สวนสาธารณะในกรุงโตเกียว โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวสู่ยุค
ปลอดนิวเคลียร์
แต่มีความวิตกกันว่าญี่ปุ่นจะประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนในขณะนี้ ซึ่งอาจมี
อุณหภูมิสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส รัฐบาลจึงเริ่มรณรงค์ให้ข้าราชการงดใส่สูทผูกไทและ
สวมเสื้อสบายๆเพื่อลดการใช้เครื่องปรับอากาศตั้งแต่ 1 พ.ค.แล้ว และรัฐบาลกำลังพิจารณา
กำหนดเป้าหมายส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนราว 25%-35% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
ภายในปี 2573 ขณะที่บริษัทเอกชนหลายแห่งเริ่มหันไปผลิตและใช้พลังงานหมุนเวียน
ที่มา.เนชั่น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น