ขณะที่ในห้วงเวลาไล่เรี่ยกันได้เกิดปรากฏการณ์กระหน่ำซ้ำจากการแถลงข่าวของรองโฆษกพรรคเพื่อไทย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ออกมาเปิดเกมรุกต่อกทม.ซ้ำ ด้วยการประกาศถึงความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ของพรรคเพื่อไทยที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมกราคม ปี 56 แถมยังพยายามโชว์ฟอร์มการเป็นกูรูด้วยการประเมินว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อาจตัดสินใจไขก๊อกพ้นตำแหน่งก่อนหมดวาระ ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ภายในสิ้นปี 2555
พร้อมกันนั้นยังได้คณะทำงานในการเตรียมความพร้อม 5 ชุดที่ประกอบด้วย ชุดติดตามตรวจสอบผลงานระดับเขต, ชุดติดตามตรวจสอบผลงานระดับผู้บริหาร กทม. เช่นผลงานผู้ว่าฯกทม., รองผู้ว่าฯกทม., ชุดติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณของกทม., ชุดเผยแพร่ผลงานที่ย่ำแย่ของกทม. และชุดยุทธศาสตร์ “ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม” โดยคนกทม.เพื่อคนกทม.เพื่อพัฒนากทม.อย่างจริงจัง รายงานข่าวยังได้ระบุว่ากรรมการทั้ง 5 ชุดจะชี้ให้คนกรุงเทพฯได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นจากคณะผู้บริหารกทม.ชุดปัจจุบันที่มี “คุณชาย” สุขุมพันธุ์ กำกับดูแล
เรียกว่าเป็นการส่งสัญญาณชักธงรบกันตั้งแต่หัววัน ประเภทขอพื้นที่ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ชนิดที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยหรือมีสัญญาณอะไรแจ้งกันล่วงหน้า แถมยังพ่วงท้ายรายการด้วยการเปิดรายชื่อบุคคลเข้าประกวดประเภทสะท้อนให้เห็นว่าบุคลากรในพรรคมีเยอะเป็นเข่งๆ ไม่ว่าจะเป็น ประภัสร์ จงสงวน กรรมการผู้ช่วยรมว.คมนาคม อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม., นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการระบายน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.), นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หรือแม้กระทั่งแกนนำรุ่นลายคราม ประมุขภาคกทม.อย่าง “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.
แค่นั้นยังไม่พอตามรายงานข่าวที่แถลงโดย “จิรายุ” ยังได้กล่าวพาดพิงไปถึง รองผู้ว่าฯธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ว่าอาจจะลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. พร้อมกับอ้างว่าเห็นท่านรองผู้ว่าฯเดินทางเข้าออกพรรคปชป.บ่อยๆ พร้อมยังระบุว่าอาจเป็นประเด็นที่ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เกิดอาการน้อยใจจนมีข่าวว่าจะตัดสินใจไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะได้เห็นภาพการออกมาตอบโต้จากผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ด้วยลีลาท่าทางนิ่มๆ แต่แฝงด้วยคำคมในแบบฉบับพรรคประชาธิปัตย์ผ่านสื่อมวลชนว่า หากจะลาออกจริงจะบอกผู้สื่อข่าวเป็นกลุ่มแรก ก่อนที่นายจิรายุจะรู้ พร้อมกับหัวเราะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ความจริงปฏิบัติการเขย่าเก้าอี้ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ไม่ได้เพิ่งมาเปิดฉากอย่างเป็นทางการตามที่ “จิรายุ” เปิดการแถลงตามที่ได้กล่าวในข้างต้น ก่อนหน้านี้หากยังจำกันได้กรณีเรื่องของกล้องซีซีทีวีที่เป็นประเด็นร้อนก็ถูกเขย่ามาแล้วจากพลพรรคเพื่อไทย ถัดจากนั้นมาก็มาเปิดปฏิบัติเขย่าต่อจากการยึดคืนตลาดนัดจตุจักรจากกทม.ในเงื้อมมือของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ คือบททดสอบด่านแรกที่ทางพรรคเพื่อไทยจัดหนักโดยเฉพาะสำหรับกทม.ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอย่าลืมว่าผลประโยชน์ในตลาดนัดจตุจักรมีค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ใต้โต๊ะหรือบนโต๊ะสามารถสร้างความมั่งคั่งให้ใครต่อใครหลายคนมาแล้ว และดูเหมือนว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา การเมืองแต่ละยุคสมัยต่างเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากรายได้ของตลาดนัดกันทั้งสิ้น กระทั่งมีการมองว่านี่คือแดนสนธยาที่ยาก ต่อการตรวจสอบ ระหว่างมาเฟียกับกลุ่มผู้ค้าแทบจะแยกกันไม่ออก ไม่รู้ใครเป็นใคร
และแล้วพรรคเพื่อไทยก็สามารถยึดคืนพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรแห่งนี้ได้สำเร็จ แถมเจ้ากระทรวงยังได้ประกาศไว้ชัดเจนเสียงดังฟังชัดว่ายังไงก็ไม่ให้กทม.เข้าไปบริหารตลาดนัดจตุจักรอีกแล้ว พูดกันง่ายๆ ก็คือปิดประตูตลาดนัดสำหรับกทม.เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าขณะนี้ตลาดนัดจตุจักรถูกเปลี่ยนผ่านจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเพื่อไทยเรียบร้อย พร้อมๆ กับมีรายงานข่าวที่เชื่อถือได้ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมา คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้มอบหมายให้คนของตนซึ่งเคยมีตำแหน่งในการบริหารตลาดนัดเดินทางไปกลุ่มผู้ค้าบางกลุ่มเพื่อเช็กตรวจสอบกระแส จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมีกระแสข่าวบนหน้าสื่อระบุว่า “คุณหญิง” คือผู้อยู่เบื้องหลังในการยึดคืนพื้นที่ตลาดนัดแห่งนี้มาโดยตลอด
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงได้มีชื่อของ “คุณหญิง” ปรากฏบนหน้าสื่ออยู่เรื่อยๆ ในฐานะผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ขณะที่เจ้าตัวไม่เคยออกมาตอบรับหรือปฏิเสธว่าจะลงหรือไม่ลงเลือกตั้ง แต่ก็คงเป็นเรื่องที่น่าคิดเป็นอย่างยิ่งสำหรับทีมงาน “คุณหญิง” เพราะอย่าลืมว่าครั้งหนึ่งเคยพ่ายต่อ “นายสมัคร สุนทรเวช” มาแล้วจากการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. จนกลายเป็นฝันร้ายสำหรับ “เจ้าแม่กทม.” เพราะหากพ่ายอีกเป็นคำรบสอง ก็คงจะบอกได้คำเดียวว่างานนี้ “จบเห่” หาโอกาสแจ้งเกิดอีกยาก ดีไม่ดีอาจจะเป็นเงาที่ตามหลอกหลอนเธอไปตลอดชีวิต งานนี้จึงเชื่อว่าทีมงานคงต้องชั่ง น้ำหนักกันอีกหลายยก
แต่ไม่ว่าใครจะได้รับมอบฉันทานุมัติให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทยในการสู้ศึก คงบอกได้คำเดียวว่าศึกนี้ใหญ่หลวงนัก เชื่อว่าทางพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ยอมให้ยึดสนามเมืองหลวงแห่งนี้ไปได้ง่ายๆ เหมือนเช่นที่ถูกยึดคืนตลาดนัดจตุจักรไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด ทางพรรคเพื่อไทยจึงเตรียมเปิดแผนใหม่ด้วยการเสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ด้วยการเสนอให้มีการเลือกตั้งใน 2 ระดับ กล่าวคือ ระดับแรกเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และสมาชิกสภากทม. (ส.ก.) ส่วนระดับที่สอง เป็นการเลือกตั้งผู้อำนวยการเขต พร้อมกับยกฐานะบทบาทของสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) เสียใหม่ โดยมองว่าการเลือกตั้งในลักษณะเช่นนี้ถือเป็นการกระจายอำนาจไม่ต้องมากระจุกตัวอยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.เพียงผู้เดียว งานนี้ทางพรรคมอบหมายให้ “เสี่ยวิชาญ มีนชัยนันท์” ส.ส.กทม.เป็นโต้โผใหญ่ในการขับเคลื่อน ว่ากันว่าตามเกมที่ได้วางไว้ ทางพรรคกำหนดจะให้แล้วเสร็จในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งใหม่ที่จะมาถึงในปี 2556 งานนี้คงต้องเฝ้าติดตามกันต่อให้ดีอย่ากะพริบตา สำหรับศึกชนช้างครั้งใหม่ระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่ ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นศึกศักดิ์ศรีที่วางเดิมพันไว้สูง
ที่มา:สยามธุรกิจออนไลน์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น