นับนิ้วเช้าเย็น-ปชป.ได้200ที่นั่ง
“เพื่อไทย”เกทับ! การันตี 265 อั๊พ!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นเมือง กับการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าเบื้องหลังจริงๆแล้ว อะไรคือเหตุผลที่แท้จริง
แต่ที่น่าตลกก็คือ คนบางคนไม่รู้จัก ไม่ได้คุ้นเคย หรือว่าใกล้ชิดกับ พล.อ.ชวลิต เลยสักนิด กลับมีการวิเคราะห์เป็นตุเป็นตะ ว่าเพราะเรื่องนั้นเรื่องนี้
โดยเฉพาะความพยายามสร้างกระแสที่ว่า เกิดจากกรณีการขึ้นเวที นปช. เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ของแกนนำ นปช. ซึ่งถูกมองว่าเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย
ซึ่งประเด็นที่เกิดแรงกดดันนั้นก็เป็นเพราะมีการไปตีความในเรื่องคำพูดของแกนนำ นปช. โดยเป็นการตีความที่ขึ้นกับขั้วหรือจุดยืนของผู้ตีความนั่นเอง เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
แต่หากดูใบลาออกของ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้มีการอธิบายความใดๆไว้เลย เป็นแค่ใบลาออกที่แจ้งความจำนงว่าต้องการลาออกเท่านั้นเอง โดยไม่ได้ยกเหตุผลในเรื่องความอึดอัดใจ หรือแรงกดดันอะไรทั้งสิ้น
ซึ่งนายบรรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังกล่าวถึงการที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกจากการเป็นประธานพรรคเพื่อไทย เพียงแค่ว่า......
เชื่อว่ากลุ้มใจในหลายเรื่อง
แต่ยอมรับว่าโดยส่วนตัวแล้วยังไม่ได้คุยกัน จึงไม่ทราบถึงสาเหตุการลาออกที่แท้จริง ??
ในขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลาออกจากพรรคเพื่อไทยของ พล.อ.ชวลิต ว่ารู้สึกใจหาย เสียดายและคิดถึง
แต่ก็เชื่อว่าความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาช้านานจะไม่ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ชวลิต กับพรรคขาดหายไปไหน
ที่ผ่านมาได้ทราบมาบ้างว่า พล.อ.ชวลิตถูกอะไรบางอย่างบีบคั้นใจ จนต้องบ่นกับตนมานานว่ามีอะไรทิ่มแทงใจตลอดเวลา ซึ่งในส่วนของพรรคก็เข้าใจ พล.อ.ชวลิต
แต่ก็เชื่อว่าการลาออกนั้นไม่กระทบกระเทือนกับกระแสพรรค
เพราะ พล.อ.ชวลิตยังไม่ได้มีการแจ้งความจำนงจะลงเลือกตั้งในเขตใด
“พล.อ.ชวลิตเป็นที่เคารพของ ส.ส.อีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัดนครพนม แต่ไม่เชื่อว่าจะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย วู่วามลาออกตาม พล.อ.ชวลิตไป เพราะส่วนตัวก็ยังเชื่อว่าการไปของ พล.ชวลิต เป็นการไปเพียงชั่ว
คราวเท่านั้น” นายปลอดประสพกล่าว
สำหรับในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นได้หารือและเห็นตรงกันว่าจะปรับท่าที และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีปัญหาอย่างที่เคยเกิดขึ้นอีก
ส่วนเรื่องที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เคยประกาศจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยนั้น จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร นายปลอดประสพ ยอมรับว่า ไม่ทราบ เพราะนายเสนาะก็มีพรรคของตัวเองอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็ร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ทั้งตอนเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
กรณีที่เกิดขึ้น ทำให้มีการฉกฉวยจังหวะ มองในทำนองที่ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะแตก และอาจจะมีผลต่อการเลือกตั้ง และจำนวนส.ส.ก็เป็นได้
ซึ่งบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยยังเชื่อมั่นว่า การลาออกของ พล.อ.ชวลิตในครั้งนี้ ไม่น่าที่จะกระทบไปถึงผลการเลือกตั้ง
ในขณะที่นายปลอดประสพ ได้มีการหยิบยกในเรื่องของผลโพลล่าสุดที่ได้ผลสรุปออกมาว่า พรรคเพื่อไทย ได้เสียงมากถึง 267 เสียง ว่าทางพรรคประเมินจำนวนเสียงที่พรรคจะได้รับเลือกจากประชาชนอยู่ตลอดเวลา
และผลก็ออกมาว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 265 เสียง
อีกทั้งในส่วนของพื้นที่ กทม.คาดว่าจะได้ 16-18 เสียง จาก 33 เสียง
โดยส่วนที่เหลือเว้นไว้ให้พรรครักษ์สันติ 3 เสียง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะ”พรรคคู่ปรับทางการเมือง” ย่อมไม่มีการยอมกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะในศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จึงไม่แปลกที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะพูดถึงแนวโน้มภายหลังเลือกตั้งจะมีพรรคไหนที่ได้ ส.ส.เกิน 200 เสียงบ้าง ว่า การเป็นเลขาธิการพรรค ทำให้เดี๋ยวนี้เก่งเลข เนื่องจากต้องนั่งนับอยู่ทุกวันทั้งเช้าทั้งเย็น นับตลอดเวลา
โดยแม้จะเชื่อว่าผลที่ได้จะอยู่ที่ 200 กว่าเสียง แต่คงยากที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
“มั่นใจว่า 2 ปีที่ผ่านมาประชาชนเห็นเหตุการณ์และวิกฤตการณ์ของบ้านเมือง ประชาชนก็เห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่สามารถพาบ้านเมืองฟันฝ่าวิกฤตการณ์เหล่านี้มาได้ คิดว่ามีคะแนนนิยมที่อยู่ในใจประชาชนอยู่ โดยนายอภิสิทธิ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วนผมเป็นรองนายกฯ ที่ดีที่สุด”นายสุเทพพูดแบบที่สามารถมองได้ว่าเข้าข้างตัวเองสุดๆ
หรือเชื่อมั่นในกำลังหนุนพิเศษแบบสุดๆเลยก็เป็นได้.....!!
ที่มา.บางกอกทูเดย์
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“เพื่อไทย”เกทับ! การันตี 265 อั๊พ!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นเมือง กับการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่าเบื้องหลังจริงๆแล้ว อะไรคือเหตุผลที่แท้จริง
แต่ที่น่าตลกก็คือ คนบางคนไม่รู้จัก ไม่ได้คุ้นเคย หรือว่าใกล้ชิดกับ พล.อ.ชวลิต เลยสักนิด กลับมีการวิเคราะห์เป็นตุเป็นตะ ว่าเพราะเรื่องนั้นเรื่องนี้
โดยเฉพาะความพยายามสร้างกระแสที่ว่า เกิดจากกรณีการขึ้นเวที นปช. เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ของแกนนำ นปช. ซึ่งถูกมองว่าเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย
ซึ่งประเด็นที่เกิดแรงกดดันนั้นก็เป็นเพราะมีการไปตีความในเรื่องคำพูดของแกนนำ นปช. โดยเป็นการตีความที่ขึ้นกับขั้วหรือจุดยืนของผู้ตีความนั่นเอง เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
แต่หากดูใบลาออกของ พล.อ.ชวลิต ไม่ได้มีการอธิบายความใดๆไว้เลย เป็นแค่ใบลาออกที่แจ้งความจำนงว่าต้องการลาออกเท่านั้นเอง โดยไม่ได้ยกเหตุผลในเรื่องความอึดอัดใจ หรือแรงกดดันอะไรทั้งสิ้น
ซึ่งนายบรรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังกล่าวถึงการที่ พล.อ.ชวลิต ลาออกจากการเป็นประธานพรรคเพื่อไทย เพียงแค่ว่า......
เชื่อว่ากลุ้มใจในหลายเรื่อง
แต่ยอมรับว่าโดยส่วนตัวแล้วยังไม่ได้คุยกัน จึงไม่ทราบถึงสาเหตุการลาออกที่แท้จริง ??
ในขณะที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลาออกจากพรรคเพื่อไทยของ พล.อ.ชวลิต ว่ารู้สึกใจหาย เสียดายและคิดถึง
แต่ก็เชื่อว่าความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมาช้านานจะไม่ทำให้สายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ชวลิต กับพรรคขาดหายไปไหน
ที่ผ่านมาได้ทราบมาบ้างว่า พล.อ.ชวลิตถูกอะไรบางอย่างบีบคั้นใจ จนต้องบ่นกับตนมานานว่ามีอะไรทิ่มแทงใจตลอดเวลา ซึ่งในส่วนของพรรคก็เข้าใจ พล.อ.ชวลิต
แต่ก็เชื่อว่าการลาออกนั้นไม่กระทบกระเทือนกับกระแสพรรค
เพราะ พล.อ.ชวลิตยังไม่ได้มีการแจ้งความจำนงจะลงเลือกตั้งในเขตใด
“พล.อ.ชวลิตเป็นที่เคารพของ ส.ส.อีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัดนครพนม แต่ไม่เชื่อว่าจะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย วู่วามลาออกตาม พล.อ.ชวลิตไป เพราะส่วนตัวก็ยังเชื่อว่าการไปของ พล.ชวลิต เป็นการไปเพียงชั่ว
คราวเท่านั้น” นายปลอดประสพกล่าว
สำหรับในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นได้หารือและเห็นตรงกันว่าจะปรับท่าที และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีปัญหาอย่างที่เคยเกิดขึ้นอีก
ส่วนเรื่องที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เคยประกาศจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยนั้น จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร นายปลอดประสพ ยอมรับว่า ไม่ทราบ เพราะนายเสนาะก็มีพรรคของตัวเองอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็ร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ทั้งตอนเป็นฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
กรณีที่เกิดขึ้น ทำให้มีการฉกฉวยจังหวะ มองในทำนองที่ว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะแตก และอาจจะมีผลต่อการเลือกตั้ง และจำนวนส.ส.ก็เป็นได้
ซึ่งบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยยังเชื่อมั่นว่า การลาออกของ พล.อ.ชวลิตในครั้งนี้ ไม่น่าที่จะกระทบไปถึงผลการเลือกตั้ง
ในขณะที่นายปลอดประสพ ได้มีการหยิบยกในเรื่องของผลโพลล่าสุดที่ได้ผลสรุปออกมาว่า พรรคเพื่อไทย ได้เสียงมากถึง 267 เสียง ว่าทางพรรคประเมินจำนวนเสียงที่พรรคจะได้รับเลือกจากประชาชนอยู่ตลอดเวลา
และผลก็ออกมาว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 265 เสียง
อีกทั้งในส่วนของพื้นที่ กทม.คาดว่าจะได้ 16-18 เสียง จาก 33 เสียง
โดยส่วนที่เหลือเว้นไว้ให้พรรครักษ์สันติ 3 เสียง
อย่างไรก็ตาม ในฐานะ”พรรคคู่ปรับทางการเมือง” ย่อมไม่มีการยอมกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะในศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จึงไม่แปลกที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะพูดถึงแนวโน้มภายหลังเลือกตั้งจะมีพรรคไหนที่ได้ ส.ส.เกิน 200 เสียงบ้าง ว่า การเป็นเลขาธิการพรรค ทำให้เดี๋ยวนี้เก่งเลข เนื่องจากต้องนั่งนับอยู่ทุกวันทั้งเช้าทั้งเย็น นับตลอดเวลา
โดยแม้จะเชื่อว่าผลที่ได้จะอยู่ที่ 200 กว่าเสียง แต่คงยากที่จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
“มั่นใจว่า 2 ปีที่ผ่านมาประชาชนเห็นเหตุการณ์และวิกฤตการณ์ของบ้านเมือง ประชาชนก็เห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาลที่สามารถพาบ้านเมืองฟันฝ่าวิกฤตการณ์เหล่านี้มาได้ คิดว่ามีคะแนนนิยมที่อยู่ในใจประชาชนอยู่ โดยนายอภิสิทธิ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วนผมเป็นรองนายกฯ ที่ดีที่สุด”นายสุเทพพูดแบบที่สามารถมองได้ว่าเข้าข้างตัวเองสุดๆ
หรือเชื่อมั่นในกำลังหนุนพิเศษแบบสุดๆเลยก็เป็นได้.....!!
ที่มา.บางกอกทูเดย์
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น