--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

ลืมหน้าที่

โดย.เหล็กใน

กําลังสนุกสนานอยู่กับการ 'ตบเท้า'

จู่ๆ ก็ 'งานเข้า' แบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อเกิดเหตุการณ์ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชา ตามแนวชายแดนบริเวณปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์

เป็นการปะทะระลอกล่าสุดนับตั้งแต่เกิดการสู้รบด้านชายแดน จ.ศรีสะเกษ ใกล้ปราสาทเขาพระวิหาร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ตามข่าวว่าทหารสองฝ่ายยิงถล่มกันด้วยกระสุนปืนใหญ่นับร้อยนัด

นอกจากพื้นที่ จ.สุรินทร์ อันเป็นศูนย์กลางการปะทะ กระสุนปืนใหญ่จากฝ่ายกัมพูชายังปลิวมาตกในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ติดกันอีกด้วย

ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต้องเร่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่ ให้พ้นจากรัศมีปืนใหญ่

เบื้องต้นผลจากการปะทะ 2 รอบเมื่อเช้าวันศุกร์ต่อเนื่องวันเสาร์ ทหารไทยพลีชีพแล้วอย่างน้อย 4 นาย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

ยังไม่มีใครรู้ว่าการปะทะหนนี้จะกินเวลากี่วัน

แต่ถ้ายุติเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพื่อไม่ให้ความสูญเสียของทั้งสองฝ่ายเพิ่มเติมมากไปกว่าที่เกิดขึ้นแล้ว

จากภาคอีสานย้ายลงมาที่ภาคใต้ ช่วงเวลาใกล้กันเกิดเหตุกลุ่มโจรใต้ลอบวางระเบิดถล่มรถปิกอัพทหาร ขณะออกลาดตระเวนในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา

ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงซ้ำทำให้ทหารยศสิบเอก พลีชีพไป 1 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย

กรณีของสิบเอกภาคใต้ได้รับการนำเสนอเป็นข่าวแต่ไม่ใหญ่นัก อาจเพราะเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวัน จนคนไทยไม่ว่าภาคไหนๆ ล้วนชาชิน

เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไฟใต้ปะทุตั้งแต่ต้นปี 2547

8 ปีเต็มกับงบประมาณกว่า 1.45 แสนล้านบาท แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เกิดความรุนแรงสรุปรวมแล้วเกือบ 12,000 ครั้ง

มีผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 4,500 ราย

ในจำนวนนี้เป็นทหารราว 300 ราย ตำรวจในจำนวนใกล้เคียงกัน ส่วนที่เหลือเกือบ 4,000 ชีวิตเป็นของประชาชนในพื้นที่

ไม่มีใครรู้เช่นกันว่าตัวเลขสถิติความสูญเสียนี้จะจบลงตรงไหนและเมื่อไหร่

ในขณะที่ผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหามัวเอาเวลาไปแสดงออกทางการเมือง

ละเลยหน้าที่แท้จริงของตนเอง

ที่มา.ข่าวสด
/////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น