ชาวไอวอรี่โคสต์เสียชีวิตแล้ว 800 ราย
คณะกรรมการสภากาชาดระหว่างประเทศ ระบุว่ามีชาวไอวอรี่โคสต์เสียชีวิตไปแล้ว 800 ราย โดยนาย Guillaume Ngefa รองผู้อำนวยการสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติระบุว่าการกระทำในไอวอรี่โคสต์นั้นถือเป็นการสังหารหมู่โดยยอดผู้เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ถึงวันพุธที่ผ่านมาสูงถึง 220 ราย จากการปะทะกับหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลประธานาธิบดี อาลาสเซน แควตตาร่า แห่งไอวอรี่โคสต์
“รัฐบาลยืนกรานที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และปฏิเสธว่าไม่ได้มีความเกี่ยวพันใดๆ กับกองทัพของไอวอรี่โคสต์ ข้อครหานี้ถือเป็นการหมิ่นประมาท” ถ้อยแถลงของรัฐบาล
และกล่าวย้ำว่า “รัฐบาลคาดว่านี่คือการสร้างสถานการณ์จากฝ่ายตรงข้าม”
“กองทัพที่ยังคงภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี โรลองต์ กาแบกโบ น่าจะมีส่วนร่วมจากปฏิบัติการดังกล่าว ในการเป็นทหารที่ได้รับการจ้างวานและแสดงความป่าเถื่อนต่อประชาชนในทางตะวันตกของไอวอรี่โคสต์”
การปะทะเดือดในไอวอรี่โคสต์เกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผลประกาศว่าประธานาธิบดีกาแบกโบชนะแม้จะมีประเด็นครหาว่าเขาโกงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม นานาชาติและองค์การสหประชาชาติกลับให้การรับรองและประกาศยอมรับว่า แควตตาร่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
การดำเนินการท่ามกลางการสังหารหมู่ชาวไอวอรี่โคสต์
หัวหน้าฝ่ายกิจการเพื่อมนุษยธรรมแห่งองค์การสหประชาชาติกล่าวเตือนว่า การดำเนินการเพื่อรักษาสันติภาพ และความมั่นคงของสาธารณรัฐลิเบอร์เรีย (Republic of Liberia) อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงยิ่ง หากประชาคมระหว่างประเทศไม่ได้จัดเตรียมทรัพยากรอย่างเพียงพอในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งลิเบอร์เรียถือเป็นประเทศหลักที่จะรับภาระในการรองรับผู้ลี้ภัยจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไอวอรี่โคสต์ (Côte d’Ivoire)Valerie Amos รองเลขาธิการองค์การสหประชาชาติฝ่ายกิจการเพื่อมนุษยธรรมและรับผิดชอบประสานงานฝ่ายบรรเทาทุกข์ในภาวะฉุกเฉินได้กล่าวหลังการเยือนลิเบอร์เรียเป็นครั้งที่ 2
“เราจำเป็นต้องดำเนินต่อไปและต้องแน่ใจว่าประเทศนี้จะสามารถให้ความช่วยเหลือเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้อง รองรับผู้ลี้ภัยจากไอวอรี่โคสต์ได้” นาง Amos กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น