แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ไม่นานมานี้วอร์รูมคณะยุทธศาสตร์คนเสื้อแดง ได้หารือถึงคำปราศรัยเมื่อคืนวันที่10เม.ย.ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช.กรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นเหตุให้ นายทหารพระธรรมนูญไปแจ้งจับนายจตุพรกับพวก เช่นเดียวกับนายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เตรียมที่จะยื่นถอนประกันตัวคนเสื้อแดง และล่าสุดก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจที่ต้องจับตาไม่น้อย เมื่อเขามอบหมายให้พ.ต.ท.ถวัล มั่งคั่ง หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 คดีก่อการร้าย ส่งหนังสือถึงนายประกัน และทนายความของ นายพายัพ ปั้นเกตุ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช. ที่ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวนจากดีเอสไอ เพื่อแจ้งถอนประกันทั้ง 2 คน เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวในชั้นสอบสวนที่ห้ามไม่ให้เข้าร่วมชุมนุมกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันมิชอบด้วยกฎหมาย และนัดให้นายพายัพ นายสุภรณ์ มาพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในวันนี้ เพื่อนำตัวส่งอัยการ ซึ่งดีเอสไอ จะส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนคดีก่อการร้ายต่อพนักงานอัยการ หากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด จะถูกยึดเงินประกันจำนวน 6 แสนบาท และดีเอสไอ จะดำเนินการขอหมายจับต่อไป
แหล่งข่าวเผยว่า กรณีดังกล่าวมีความเป็นไปได้มากแกนนำทั้ง2คนอาจถูกฝากขัง ทำให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำเสื้อแดงได้เร่งปรับกลยุทธ์เป็นการด่วน โดยลดท่าทีลง ทั้งการ ประกาศไม่ตอบโต้กรณีหมิ่นสถาบัน โดยจะใช้ช่องกฎหมายดำเนินการแทนหากมีการกล่าวอ้างมาทำให้แกนนำคนเสื้อแดงเสียหาย รวมทั้งประโคมข่าว ถอน-ยุบ-ยึด ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนทราบดีว่า แกนนำคนเสื้อแดงบางคนจะถูกถอนประกันแน่นอน เช่นเดียวกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของนายจตุพร หากดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรมจริงๆ โอกาสที่นายจตุพร จะรอดพ้น เป็นไปได้น้อยมาก
‘ขณะนี้จึงมีการพูดคุยถึงทางเลือกสำรองเอาไว้เพื่อรักษาองค์กรแดงให้เดินต่อไป โดยใช้วิธี เบี้ยแลกโคน ยอมให้ นายสุภรณ์ นายพายัพ ถูกถอนประกัน เพื่อเป็นการส่งสัญญาณกลายๆว่ายอมรับในกระบวนการ และลดกระแสหมิ่นสถาบันลงฯ และที่คุยเป็นการภายในทั้ง2คน ก็ยินยอม เห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ เบี้ยแลกโคน ส่วนตู่(นายจตุพร) ที่ถือเป็นกำลังหลักคนเสื้อแดง เหมือนจะรู้ตัว เห็นได้จากที่พูดว่า หากผิดจริงจะไม่อยู่เป็นภาระของเพื่อน ดังนั้นข้อเสนอหนึ่งที่มีการหยิบยกมาหารือคือ ถอยออกมา มีโอกาสเป็นไปได้มากที่จะถูกนำมาใช้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายจตุพร เช่นเดียวกับสัญญาณจากดูไบ ที่จะถามมาเป็นรอบสุดท้ายว่า พร้อมจะอยู่หรือไม่’ แหล่งข่าวเผยแหล่งข่าว
ที่มา.เนชั่น
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น