--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

เสธ.จง ชู“ทักษิณ”สัญลักษณ์ต่อสู้-เปรยคนไม่ขึ้นเวทีน่าระวัง

พล.อ.จงศักดิ์ พานิชกุล อดีตประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ขณะนี้ช่วยเป็นแรงใจให้กลุ่มนปช. ซึ่งเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เห็นด้วยถึงเวลาที่สังคมต้องเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาผู้ที่มีอำนาจควรปล่อยให้ประชาชนมีอิสระทางความคิด ซึ่งเป็นห่วงเรื่องลัทธิคลั่งชาติ เปรียบกับญี่ปุ่นที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกัน แต่เป็นจักรพรรดิ ในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกปกครองด้วยโชกุน แต่เมื่อแม็คอาเธอร์ชนะ เขาก็ทำลายหมด และมีการจับแขวนคอหมด แต่เก็บจักรพรรดิ เพราะจักรพรรดิ และประฃาชนเป็นสถาบันที่สำคัญ ทำให้ญี่ปุ่นเจริญ

ซึ่งบ้านเมืองเราคล้ายๆกัน คิดว่า ขณะนี้เสื้อแดงชนะไปแล้ว เพราะเขาสามารถจุดประกายประชาชนในเรื่องการคิดเรื่องความครอบงำทางการเมืองได้ แต่การคุกเข่าขอประชาธิปไตยต้องใช้เวลา แต่วันนี้ถือว่า ชนะในทางยุทธศาสตร์ เพราะสามารถอธิบายประชาชนชาวรากหญ้าว่า จริงๆประชาธิปไตยเป็นรูปแบบ แต่เนื้อหาไม่ใช่ เพราะยังมีการจ้างคนไม่ยกมือไว้วางใจอยู่

"ผมอยากเห็นประชาธิปไตยบ้านเราเหมือนญี่ปุ่น โดยเฉพาะทหาร คือ จับทหารเข้าไปอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เหมือนประเทศเจริญ เพราะทุกวันนี้เรายังจัดเหมือนสมัยสงครามโลก คือ มีผู้บังคับบัญชาคนเดียวสั่งได้เป็นแสนๆ คน ซึ่งทั่วโลกเขาจัดแบบเป็นเสนาธิการทหารหมด เขาให้คุมได้เฉพาะหน่วยผู้บัญชาการระดับกองพล โดยอำนาจทั้งหมดต้องขึ้นกับฝ่ายการเมือง ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผมจะพยายามผลักดันในเรื่องนี้ เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ที่อำมาตยาธิปไตยอยากคุมทหารไว้ คือ คุมตัวบุคคล คือ เขายึด ผบ.ทบ.คนเดียวทุกอย่างจบ ไม่ใช่คุมกฎหมาย ไม่อย่างนั้นเขาจะมาดูการปรับย้ายทุกสมัยทำไม หากเรามีกฎหมายให้ทหารเป็นของประชาชนจริงๆ อำมาตย์จะคุมไม่ได้ ถึงเวลาหรือยังที่จะทำให้กองทัพของเราเป็นเหมือนกองทัพที่เจริญแล้ว ในโลกนี้เหลือเพียงแค่ประเทศไทยกับกัมพูชาเท่านั้น ที่มีผู้บัญชาการทหาร"

พล.อ.จงศักดิ์ กล่าวว่า ตนให้เกียรติเขาทุกคน กลุ่มเสื้อแดงต่อสู้มา 3 - 4 ปี ตนยกย่องในความกล้าหาญของเขา คือ กล้าหาญทางความคิดที่เราไม่กล้าคิด คนไทยถูกครอบงำทางการเมืองมานาน เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่กล้าคิดต่อสู้ถือว่า น่ายกย่อง ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยขึ้นเวที นปช.นั้น ทุกอย่างเป็นตามธรรมชาติ ที่น้ำต้องไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ คนอุดมการณ์ใกล้เคียงกันจะไหลไปหากันโดยอัตโนมัติ ส่วนกรณีที่มีการมองว่า พล.อ.ชวลิตลงมา จะมีการเล่นเกมใต้ดินหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่า ท่านเป็นคนไม่ลับ ลวง พราง แต่ท่านพูดตรงๆ ไม่อย่างนั้นท่านจะไปขึ้นเวทีนปช.หรือ คนที่กล้าพูด กล้าขึ้นเวทีไม่น่ากลัว แต่คนที่ไม่ขึ้นเวทีทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ระวังให้ดี

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการระบุว่า จปร. 20 ได้รับท่อน้ำเลี้ยงจากพ.ต.ท.ทักษิณ และมีส่วนเกี่ยวพันกับเหตุระเบิดในกรุงเทพ พล.อ.จงศักดิ์ กล่าวว่า ในเรื่องท่อน้ำเลี้ยง แม้ผมจะสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ตั้งแต่รับราชการมา พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยมาโปรโมตอะไรตน ตรงกันข้ามมีแต่พี่ๆที่เชียร์ตนให้ขึ้นมา ซึ่งตนไม่มีอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งเรื่องเงินทองยิ่งไปกันใหญ่ ตัดไปได้เลยเรื่องผลประโยชน์ เพียงแต่ตนเห็นว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของแพะในคอก

ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ เปรียบเหมือนแพะภูเขาที่ไม่เคยถูกครอบงำ มีอิสระ ส่วนเราเป็นแพะในคอกที่ถูกครอบงำ ที่เราอยากเอาตัวอย่างไปเป็นแพะภูเขา ส่วนเรื่องวางระเบิดนั้น จากการที่ได้ตรวจสอบกับพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปว่า เด็กในสนามพูดแสดงความคิดเห็นกับนักข่าวท่านหนึ่งแล้วเอามาพูดกับผู้ใหญ่ในกองปราบ เมื่อไม่มีการปฏิเสธทำให้เกิดเป็นข่าวขึ้น แต่ตอนนี้ตนไปที่ไหน ตนก็วางระเบิดทุกวัน คือ วางระเบิดความคิด


โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
***********************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น